ลักษณะของวัตถุชิ้นหนึ่ง ทำด้วยแผ่นกระดาษหนาพอประมาณ มีความกว้างยาวประมาณ 4” x 6” ด้านหนึ่งมักเป็นภาพ อีกด้านหนึ่งสำหรับเขียนข้อความ และติดสแตมป์เพื่อส่งไปรษณีย์ ที่เรียกว่า ไปรษณียบัตร หรือ “โปสต์การ์ด” (Postcard) มองเผินๆก็เป็นแค่เพียงแผ่นกระดาษธรรมดาเท่านั้นเอง
แต่ใครจะรู้บ้างว่า แผ่นกระดาษใบน้อยเหล่านี้จะเป็นสิ่งบอกเล่าเรื่องราวถ่ายทอดรายละเอียดที่ควรค่าแก่การจำจดทุกครั้งที่มีโอกาสได้ไปเยือนยังสถานที่ต่างๆที่ได้ไปมา และสำหรับบางคนทุกครั้งที่ได้หยิบขึ้นมาอ่านทำเอาอมยิ้มแก้มตุ่ย นึกถึงเรื่องราวที่แสนประทับใจ มีความสุข สนุกสนาน ไปกับเรื่องราวที่ได้บันทึกไว้
ผศ.ดร. กิจชัย จิตขจรวานิช อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร หนึ่งในนักสะสมโปสต์การ์ดตัวยงที่เก็บสะสมโปสต์การ์ดมานานแล้วกว่า 8 ปี ตอนนี้นับรวมๆแล้วมีโปสต์การ์ดกว่าพันใบ ได้เล่าถึงความประทับใจในการเขียนโปสต์การ์ดว่า
“ตอนไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ก็ส่งโปสต์การ์ดกลับบ้าน คือว่าตอนนั้นได้โปสต์การ์ดฟรีเยอะมาก ตอนแรกๆ ก็ซื้อบ้าง ตามสถานที่ท่องเที่ยวเขามีขาย เราก็ซื้อเก็บไว้บ้าง ตอนแรกก็ว่าจะซื้อเก็บไว้ดู ตอนหลังก็เลยเห็นว่ามาเล่าให้ที่บ้านฟังดีกว่า ว่าเราไปที่ไหนบ้าง คือระหว่างที่เรียนตอนเรียนก็จะเขียนโปสต์การ์ดฟรี แต่ถ้าตอนไปเที่ยวเราก็หาโปสต์การ์ดตามสถานที่ต่างๆ หรือเวลาเราไปดูนิทรรศการก็มีโปสต์การ์ดขายเราก็ซื้ออันนั้นมา บอกว่าเราไปดูอันนี้มานะ เราไปเที่ยวที่นี่มานะ ส่งกลับมาเล่าเป็นเรื่อง” อ. กิจชัย เล่าถึงที่มาที่ไปของการเริ่มเขียนโปสต์การ์ด
“ผมว่าเขียนจดหมายยาวแต่เขียนโปสต์การ์ดสั้น และมันมีรูปด้วย ผมคิดว่าโปสต์การ์ดต่างจากจดหมายเพราะว่ามันมีเรื่องโดยที่บางครั้งเราไม่ต้องเล่ามาก และโปสต์การ์ดมีเสน่ห์ตรงที่น่ารักดี ใบมันเล็ก รูปที่ถ่ายส่วนใหญ่ ก็เป็นรูปที่สวย คนที่ทำเขาก็ตั้งใจทำ ถ้ารูปใหญ่ๆ แบบขนาดเอ 4 รูปมันจะดูใหญ่มาก ดูไม่น่ารัก ไม่เหมือนอย่างโปสต์การ์ดที่จับพลิกมาพลิกง่ายมือ ผมว่าคนออกแบบตั้งแต่แรกเลยเก่ง จับส่งก็สะดวก กระดาษแข็งนิดหน่อย”
ถามถึงว่าอ.กิจชัยเก็บสะสมโปสต์การ์ดไว้เยอะ มีใบไหนที่อาจารย์ประทับใจเป็นพิเศษไหม อาจารย์ตอบแบบหยุดคิดสักนิด ก่อนที่จะตอบว่า “ผมว่าบอกไม่ได้ว่าอันไหนเจ๋งสุด แต่ผมว่ามันเป็นความประทับใจในช่วงหนึ่งๆ ที่แบบเวลาย้อนกลับมาดู ก็อ๋อนี่เราไปดูอะไรมานะ จำได้ว่าเราเขียนถึงใคร นานๆ เอามาอ่านก็ขำดี” พร้อมๆ กับเอาโปสต์การ์ดที่สะสมไว้มาให้ดู
จากโปสต์การ์ดที่อ. กิจชัย เก็บสะสมส่วนใหญ่จะเป็นภาพโปสต์การ์ดภาพถ่ายที่มีขายทั่วไป ตามแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งก็หาซื้อได้ไม่ยากแถมสนนราคาก็ไม่แพง แต่ถ้าไปเที่ยวที่ไหน แล้วไม่มีโปสต์การ์ดสวยๆ ขายละจะทำอย่างไรดี เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับ เกรียงไกร เกิดศิริ นักศึกษาปริญญาเอก หลักสูตรการจัดการ มรดกทางสถาปัตยกรรมกับการท่องเที่ยว ที่คณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ก็เป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวและมักชอบเขียนโปสต์การ์ดส่งถึงตัวเองและเพื่อนๆ ซึ่งโปสต์การ์ดของเขาจะมีความพิเศษไม่เหมือนคนอื่น ตรงที่โปสต์การ์ดเหล่านั้นจะเป็นโปสต์การ์ดทำมือ ที่เกิดมาจากการนำกระดาษแข็งเท่าขนาดโปสต์การ์ด แล้ววาดรูประบายสีน้ำลงไปเอง
“ปกติผมเป็นคนชอบเดินทาง และเที่ยวมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี ผมเริ่มเขียนโปสต์การ์ดก็ตั้งแต่เริ่มเที่ยว คือตอนเรียนปริญญาตรีเสาร์-อาทิตย์ก็ออกเดินทาง และก็โบกรถไป ช่วงแรกก็ไปใกล้ๆ ก่อน ผมจะชอบดูที่เป็นท่องเที่ยววัฒนธรรม ไปเที่ยววัด บางทีก็ต้องจด ต้องสเก็ตรูป ต้องเขียนผัง แล้วอีกอย่างพอเราโบกรถ เรารู้สึกอันตรายที่จะต้องเอาของมีค่าไป กล้องถ่ายรูปเราก็เลยไม่ได้เอาไป ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้น"
"ก็มาเขียนเป็นสมุดก่อน แล้วก็มานั่งนึกว่า บางทีมาที่นี่แล้วก็อยากจะได้เป็นของที่ระลึกจากที่นี่กลับไปส่งให้เพื่อนด้วย ก็เลยใช้วิธีการส่งโปสต์การ์ด แต่ว่าไม่ได้ซื้อโปสต์การ์ด จริงๆ แล้วก็คือเหมือนว่าเวลาไปที่ตรงนี้แล้วก็ชอบเขียนชอบวาด ก็เลยใช้วิธีการเขียนเอง วาดเอง แล้วก็ส่งกลับ โปสต์การ์ดที่ทำเองจะเป็นกระดาษ 100 ปอนด์ ตัดไปให้มีขนาด 4x6 แล้วก็วาดรูประบายสีน้ำ วาดรูปสถานที่เราไปท่องเที่ยวตรงนั้น”
ด้วยความพิเศษของโปสต์การ์ดทำมือที่เขาทำเอง บางครั้งโปสต์การ์ดใบน้อยเหล่านี้จึงเป็นตัวบอกเรื่องราวที่ดีสำหรับเขา โดยเกรียงไกรมีคำกำจัดความให้กับโปสต์การ์ดเหล่านี้ว่า “Message from a far ซึ่งเขาได้เล่าว่า
ข้อความที่เขียนมันมีทั้งความคิดถึง มีทั้งความรู้สึก มันมีทั้งเรื่องราวที่เป็นข้อเท็จจริง มีอะไรหลายๆอย่างอยู่ในนั้น นอกจากนี้ก็ยังเป็นความรู้สึกที่อยู่ในสถานที่จริงแล้วเขียนขึ้นมา เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เป็นข้อความที่เดินทางมาไกล แล้วเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจที่มนุษย์สามารถส่งความคิดถึงถึงกันและกันได้
“มันต้องเริ่มจากคิดถึงกันก่อน คิดถึงเพื่อน คิดถึงครอบครัว คิดถึงตัวเอง เมื่อเวลาไปเที่ยวแล้วก็ส่งกลับมา นอกจากนี้โปสต์การ์ดยังเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย บางทีเราไปที่ต่างๆ แล้วเราจะต้องซื้อของมาฝากเพื่อนเยอะแยะเลย จะต้องหอบของ แต่เรานี่ไม่ต้องหอบเลย เราส่งแล้วเขาก็จะส่งกลับมาให้เราเอง ก็อยากให้คนหันมาเขียนโปสต์การ์ดมันเก็บได้ คุณส่งSMS ไป 10 ข้อความ ข้อความเต็มแล้วมันก็ต้องลบทิ้ง บางทีข้อความที่คุณส่งไปก็เป็นข้อความที่คุณได้รับมาแล้วส่งตอบไปอีกที มันไม่ใช่สิ่งที่คุณเขียนเองเลยด้วยซ้ำ บางทีมันค่อยข้างจะฉาบฉวยกว่ากัน แต่ส่งโปสต์การ์ดมันบอกได้ว่าเราคิดถึงกันจริงๆ เพราะว่าเราจะต้องตั้งใจในสิ่งที่เราจะถ่ายทอดมันออกมา” เกรียงไกร กล่าวทิ้งท้ายและชี้ชวนให้ดูโปสต์การ์ดของเขา
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สำหรับผู้ที่ชอบการเขียนจดหมายและโปสต์การ์ด สามารถไปหาไอเดียได้ที่ “เที่ยวทั่วไทยกับไปรษณีย์” ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ปิ่นเกล้า ชั้น G ระหว่างวันที่ 9-17 ต.ค. 2547 เวลา 10.00-19.00 น.