xs
xsm
sm
md
lg

ชวนชม ชวนชิม ของเด็ดขึ้นชื่อ “เมืองเพชรบุรี”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ไปเที่ยวจังหวัดพริบพรีกันเถอะ”

...ถ้าได้ยินคำชวนอย่างนี้ ก็อย่าได้แสดงอาการงงเป็นไก่ตาแตก หรือเผลอปล่อยไก่ย้อนกลับไปถามว่า ตอนนี้ประเทศไทยไทยมีจังหวัดที่ 77 ชื่อ “พริบพรี” แล้วหรือไร เพราะจริงๆ แล้วจังหวัดพริบพรีก็คือชื่อเดิมของ “จังหวัดเพชรบุรี” จังหวัดที่มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นเป็นที่รู้จักหลายอย่าง เหมือนอย่างที่คำขวัญจังหวัดบอกไว้ว่า “เขาวังคู่บ้าน ขนมหวาน เมืองพระ เลิศล้ำศิลปะ แดนธรรมะ ทะเลงาม”

ว่ากันถึงประวัติของเพชรบุรี ก็เป็นเมืองเก่าที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ย้อนไปถึงสมัยขอมและสมัยทวารวดี เคยเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญชั้นเมืองลูกหลวงในสมัยอยุธยา และยังเป็นเมืองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ทรงพอพระราชหฤทัยเป็นพิเศษ เนื่องจากอากาศดี มีทัศนียภาพสวยงาม จึงไม่แปลกที่เพชรบุรีจะได้รับอีกสมญานามว่า “เมืองสามวัง” เพราะมีพระราชวังถึงสามแห่งด้วยกัน

ที่รู้จักและคุ้นเคยกันดี ก็คือ “เขาวัง” ที่ถือเป็นโบราณสถานเก่าแก่คู่เมืองเพชรบุรี ตั้งอยู่บนยอดเขาใหญ่ 3 ยอด ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดให้สร้างพระราชวังสำหรับเสด็จแปรพระราชฐานและเป็นที่ต้อนรับแขกเมือง ได้ทรงพระราชทานนามว่า “พระนครคีรี” โดยมีพระที่นั่ง พระตำหนัก วัด และกลุ่มอาคารต่าง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบนิโอคลาสสิคผสมสถาปัตยกรรมจีน นับเป็นพระราชวังที่มีค่าทางประวัติศาสตร์ จึงได้รับการประกาศให้เป็น “อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี”

ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดให้สร้างพระราชวังขึ้นอีกแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพชรบุรี คือ “พระรามราชนิเวศน์” หรือ “พระราชวังบ้านปืน” เพื่อเป็นพระราชนิเวศน์สำหรับประทับแรมในฤดูฝน สร้างแบบสถาปัตยกรรมยุโรป แต่มาแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6

และด้วยความเชื่อที่ว่าอากาศชายทะเลอาจบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้รื้อพระตำหนักหาดเจ้าสำราญมาปลูกขึ้นใหม่เป็นพระราชวัง “พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน” ที่ชายหาดชะอำ เพื่อเป็นที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรมและทรงพระสำราญในฤดูร้อน ลักษณะเป็นพระตำหนักแบบไทยผสมยุโรป ได้รับขนานนามว่า “พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง” ซึ่งที่มาของการขนานนามนี้จะเป็นอย่างไรก็คงต้องไปพิสูจน์และค้นหากันเองจะดีกว่า

นอกจากจะเป็นเมืองสามวังแล้ว เพชรบุรีก็ยังได้ชื่อว่าเป็น "เมืองขนมหวาน” เพราะมีขนมอร่อยมากมายหลายชนิด ทั้งขนมหม้อแกง ข้าวเกรียบ ทองหยอด ฝอยทอง ผลไม้กวน กะละแม มีขายอยู่ทั่วไปให้เลือกซื้อหาตามแต่ใจใครจะผูกสมัครรักใคร่กับรสมือแม่คนไหน เพราะมีทั้งแม่กิมไล้ ร้านแม่กิมลุ้ย ร้านแม่กิมลั้ง ร้านแม่ล้วน และอีกสารพัดเจ้า ว่ากันถึงขนมหวานเมืองเพชรโดยเฉพาะขนมหม้อแกงนี้ถือว่าเป็นสินค้าคู่บ้านคู่เมืองเพชรบุรีมายาวนาน ใครที่เดินทางไปเมืองเพชร หรือผ่านเมืองเพชร เป็นต้องซื้อขนมหม้อแกงติดมือกลับบ้านแทบจะทุกครั้ง

ความนิยมที่แพร่หลายนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าได้ส่งผลให้ขนมหม้อแกงกลายเป็นธุรกิจพันล้านไปโดยไม่ยากเย็น ไม่ต้องดูอะไรมากก็แค่ขับรถไปเรื่อยๆ ตามทางก็จะเห็นป้ายชื่อร้านทั้งขนาดใหญ่น้อยจำนวนนับไม่ถ้วนเชิญชวนให้ลองชิมลองซื้อ เลยเกิดไอเดียแนะนำว่าน่าจะมีรายการ “เที่ยวไป ชิมไป” เส้นทางขนมหวานเมืองเพชรให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยว่า “ขนมหวาน” ฝีมือเจ้าตำรับร้านไหนฝีมือใครจะอร่อยเลิศที่สุด

แต่สำหรับ “...เมืองพระ เลิศล้ำศิลปะ แดนธรรมะ…” คงไม่ต้องเทียบหาว่า วัดไหนดัง วัดไหนดี ฝีมือช่างไหนเป็นเอก เพราะถ้าว่าด้วยเรื่องนี้ ต่างก็มีประวัติความเป็นมาและความสำคัญไม่แพ้กัน วัดแต่ละวัดต่างก็มีความโดดเด่นสวยงามที่ว่าด้วยศิลปกรรมฝีมือเอกของช่างเมืองเพชรจากหลายยุคหลายสมัย โดยเฉพาะงานปูนปั้น ที่ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์และยังมีการสืบสานงานฝีมือของลูกหลานชาวเมืองเพชรมาจนถึงทุกวันนี้

อย่างถ้าจะนมัสการพระคู่เมือง และชมงานช่างที่เลืองชื่อ ก็ต้องไปที่ “วัดมหาธาตุวรวิหาร” มีสิ่งที่น่าสนใจคือ ภาพปูนปั้นที่ประดับอยู่ตามพระอุโบสถวิหารหลวง รวมถึงศาลาภายในวัดที่ล้วนเป็นฝีมือช่างเมืองเพชร ซึ่งงดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนั้นในวิหารยังบรรจุพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเพชรบุรีนับถือมาก คือ รูปหลวงพ่อวัดมหาธาตุ รูปหลวงพ่อบ้านแหลม และรูปหลวงพ่อวัดเขาตะเครา

ส่วนที่ “วัดพุทธไสยาสน์” เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยา มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่มีลักษณะงดงามและมีขนาดใหญ่เป็น 1 ใน 4 ของพระพุทธไสยาสน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย สร้างด้วยอิฐตลอดทั้งองค์และลงรักปิดทอง นอกจากนี้ยังมีอีกหลายวัดที่โดดเด่นด้วยงานปูนปั้นฝีมือชั้นครู ทั้ง วัดใหญ่สุวรรณาราม วัดพลับพลาชัย วัดไผ่ล้อม วัดพระทรง วัดกำแพงแลง วัดสนามพราหมณ์ วัดชีว์ประเสริฐ วัดเขาบันไดอิฐ วัดสระบัว วัดมหาสมณาราม และอีกนับไม่ถ้วน ถ้าได้อ่านหรือศึกษา “นิราศเมืองเพชร” ของท่านสุนทรภู่ นอกจากจะได้บรรยายสภาพบ้านเมืองและวิถีชีวิตของผู้คนเมืองเพชรแล้ว ท่านยังได้กล่าวถึงอีกหลายวัด สมกับความเป็น “เมืองพระ” จริงๆ

เที่ยวเมืองเพชรทั้งทีจะขาด “ทะเลงาม” ก็ใช่ที่ เพราะเพชรบุรีมีที่เที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเป็นที่รู้จักกันดีหลายแห่ง ชายหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียง อันดับแรกๆ ต้องยกให้กับ “หาดชะอำ” นอกจากจะขับรถไปได้โยใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง ก็ยังมีโปรแกรมสนุกด้วยการนั่งรถไฟนำเที่ยวกรุงเทพฯ-ชะอำ ทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เป็นการเที่ยวแบบเปลี่ยนบรรยากาศการเดินทางที่ดีอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายหาดหลายบรรยากาศที่น่าไป ทั้ง หาดปึกเตียน หาดเจ้าสำราญ หาดทวีสุข หาดแหลมหลวง หาดคลองเทียน มีเวลาก็น่าจะลองไปสัมผัสเที่ยวชมกันดู

ไม่ใช่เพียงที่เที่ยวเท่านี้ เพราะเพชรบุรียังมี “อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน” ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี และมีลักษณะเด่นทางธรรมชาติที่สำคัญหลายแห่ง ทั้ง ทะเลสาบ น้ำตก ถ้ำ หน้าผาที่สวยงาม และยังเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทยด้วย (ไม่ใช่เขาใหญ่หรือห้วยขาแข้งอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน)

มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่เด่นๆ จนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็น อ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน ที่นอกจากจะเห็นทัศนียภาพของเขื่อนที่สวยงามท่ามกลางหุบเขาแล้วยังมีกิจกรรมอย่าง แค็มป์ปิ้ง พายเรือแคนู พายเรือคยัค ล่องแพ ล่องเรือ ถ้าอยากตะลุยป่า สัมผัสธรรมชาติ ดูนก และชมทะเลหมอกก็ต้องไป เขาพะเนินทุ่ง

แต่ถ้าจะให้ท้าทายและสะใจยิ่งขึ้นก็ต้องไปให้ถึง น้ำตกทอทิพย์ ถึงจะไปลำบากสักหน่อยแต่ก็นับว่าเป็นการผจญภัยที่คุ้มจริงๆ จะได้เห็นน้ำตกสูง 9 ชั้น มีสายน้ำไหลลดหลั่นลงมาเป็นทางยาวซึ่งที่ ปลายทางของสายน้ำจะไหลลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี โดยที่บริเวณริมแม่น้ำจะมีจุดกางเต็นท์พักแรมที่เรียกว่า เคยู แค็มป์ ซึ่งที่จุดนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้น ล่องแก่งแม่น้ำเพชรบุรี ด้วย

ความโดดเด่นของป่าแก่งกระจาน ก็คือความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ จนเรียกได้ว่าเป็นเหมือนบ้านของสรรพสัตว์และพืชพรรณหลากหลายชนิด โดยเฉพาะเป็นแหล่งที่มีชื่อในด้านการดูนกและผีเสื้อ ที่นี่จึงเป็นที่รวมพลคนรักนกและผีเสื้อ ไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพต่างก็มุ่งหน้ามาชมและพิสูจน์ความสวยงามยิ่งใหญ่ของป่าเมืองเพชรกันเกือบตลอดทั้งปี

ก็เหมือนอย่างที่จะบอกต่อไปว่า การท่องเที่ยวนั้นไม่จำกัดด้วยเรื่องเวลา ถ้ามีโอกาสก็น่าจะเที่ยวเมืองเพชรให้ทั่ว จะได้รู้จักเพชรบุรีให้มากกว่าที่เคยรู้...

*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *   

 
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลาง เขต 2 โทรศัพท์ 0-3247-1005-6
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
 พิสูจน์แก่งกระจาน (1)
พิสูจน์แก่งกระจาน (2)
 

กำลังโหลดความคิดเห็น