xs
xsm
sm
md
lg

“กุ้ยหลิน” แดนฝัน สวรรค์บนดิน (จบ)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชาวจีนมีคำกล่าวมาแต่นานนม ถึงการเที่ยวชมสถานที่สวยงามในแดนมังกรว่า

“...เที่ยวปักกิ่ง ชมเฉียงโถว(กำแพงเมืองจีน)
...เที่ยวซีอาน ชมเฝินโถว(สุสานจิ๋นซี)
...เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ชมเหรินโถว(คน)
...เที่ยวหางโจว ชมยาโถว(สาวงาม)
และ...เที่ยวกุ้ยหลิน ชมซานโถว(ภูเขา)...”

คำกล่าวข้างบน “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ไม่ได้คิดขึ้นเอง แต่ว่าจำมาจากคุณ“สมุทร” ไกด์หนุ่มใหญ่ที่ขันอาสาพาข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมทริปเที่ยวตะลอนชมความงามในเมืองกุ้ยหลินเป็นวันที่ 2 ต่อจากการเที่ยวในตัวเมืองที่ปรากฏในตอนที่แล้ว (ในตอนนี้ยังคงใช้คำว่า “ข้าพเจ้า”แทนตนเองเช่นเดิมเพื่อให้ได้บรรยากาศและอารมณ์แบบจีนตามภาษาวรรณกรรมของ ว. ณ เมืองลุง)

สำหรับในวันที่ 2 นี้ สมุทรมารับพวกเราแต่เช้า จากนั้นก็พานั่งรถปุเลงๆ ครึ่งหลับครึ่งตื่นออกนอกตัวเมือง เพื่อไปล่องแม่น้ำหลีเจียง ชมทิวทัศน์ 2 ฟากฝั่งที่ถือว่าเป็นดังไฮไลท์ของการเที่ยวกุ้ยหลิน ที่ใครมากุ้ยหลินแล้วไม่ล่องเรือชมขุนเขาสายน้ำ ก็ประมาณว่ายังมาไม่ถึงกุ้ยหลิน

ในอดีตแม่น้ำหลีเจียงถูกยกให้เป็นหนึ่งในสุดยอดแม่น้ำอันสวยงามของจีน ซึ่ง“ฮั่นหยู”(Hanyu) ปราชญ์สมัยถังได้ร้อยรจนาถึงแม่น้ำหลีเจียงเป็นกวีบทหนึ่งว่า

“แม่น้ำนี้งดงามราวสายเข็มขัดไหมสีมรกต ส่วนภูผานั่นเล่าเป็นดังจุฑามณีสีหยก”

ใครที่อ่านกวีบทนี้แล้ววาดฝันว่า จะได้พบกับบรรยากาศคลาสสิกแบบจอมยุทธ์โบราณ ล่องเรือ ลอยลม ชมทิวทัศน์ จิบสุรา วาดภาพ ท่องบทกวี พร้อมกับมีนารีเคียงข้าง อย่างในหนังกำลังภายในที่แม่น้ำหลีเจียง ณ ยุคนี้พ.ศ.นี้ คงไม่มีให้เห็น

เพราะการล่องแม่น้ำหลีเจียงในยุคนี้ ทางเมืองกุ้ยหลินเขาจัดเรือเป็นเรือนำเที่ยวอย่างดี ขายกันเป็นแพคเก็จล่องเรือพร้อมมื้อเที่ยง โดยเรือจะล่องชมทิวทัศน์ไปประมาณ 4 ชั่วโมง แล้วก็ไปขึ้นฝั่งที่เมืองหยางซั่ว เพื่อให้นักท่องเที่ยว เที่ยวกันต่อ พร้อมๆกับการจับจ่ายละลายทรัพย์ในกระเป๋า...

ประมาณ 9.00 น. กว่าๆ (เวลาในเมืองจีน) เรือนำเที่ยวต่ละลำต่างก็พร้อมใจกันเคลื่อนตัวทยอยกันไปแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย เมื่อมองไปในท้องน้ำดูคล้ายกับคาราวานออฟเรือยังไงยังงั้น และช่วงเวลานี้ก็ถือเป็นช่วงเวลาทองที่เหมาะแก่การยืนรับลม ชมวิว บนดาดฟ้าเรือเพราะว่าแดดยังไม่แรงมากนัก

สำหรับการชมทิวทัศน์ขุนเขาและสายน้ำใน 2 ฟากฝั่ง ถ้าอยากจะให้ได้อรรถรสเข้มข้น สิ่งสำคัญก็คือควรเปิดหัวใจและปลดปล่อยจินตนาการไปกับสายธารและขุนเขา เพราะขุนเขาหลายลูกถ้าใช้จินตนาการมองตามที่ไกด์สมุทรบอก รับรองว่าเห็นภาพคล้ายตามนั้นแน่นอน

ขุนเขาที่เด่นๆและจินตนาการตามแบบไม่ยากก็มี เขารูปเจ้าแม่กวนกิม เขารูปอูฐ เขารูปแอปเปิ้ล เขามีรู เขารูปกวนอู เขาที่มีหน้าผาเป็นลายรูปม้าทั้งตัวเดียวและ 9 ตัว เขาที่มองเป็นรูปผู้หญิงคอยสามี ส่วนสารพัดเขาลูกอื่นๆที่ขึ้นเรียงรายเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของแต่ละคนว่าจะมองออกมาเป็นรูปอะไร ซึ่งสารพัดสารพันขุนเขาน้อยใหญ่เหล่านี้ในอดีตคนจีนเขาว่ากันว่า “จิตรกรคนใดถ้าไม่เคยมาเยือนกุ้ยหลิน จิตรกรคนนั้นมิอาจวาดภาพภูเขาที่สวยงามได้”


จริง-เท็จประการใด ข้าพเจ้ามิอาจทราบได้ รู้แต่ว่าหากใครนึกครึ้มอกครึ้มใจอาจจะลองมองขุนเขาเหล่านั้นออกมาเป็นเพลง อย่าง ...”เขา”สูงล้ำค้ำฟ้าตระหง่าน เหล่าภัยพาลคืบคลานเป็นเงา (เพลง “ยิ่งสูงยิ่งหนาว” ของ “พี่เต๋อ”) ...”เขา”มีดีที่ไหนเธอ เธอจึงละเมอเพ้อถึงอยู่ร่ำไป (เพลง "ลืม” ของเบิร์ดกะฮาร์ท)...”เขา”บอกว่าฟ้า ร้องไห้ออกมาเป็นน้ำฝน (เพลง “น้ำตาฟ้า” ของ “สามโทน”) หรืออีกสารพัดเขาตามแต่อารมณ์เพลงของใครของมัน

นอกจากความงามของขุนเขาลูกน้อยใหญ่กับความสวยใสของแม่น้ำหลีเจียงแล้ว สิ่งที่ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการล่องเรือในแม่น้ำหลีเจียงก็คือภาพวิถีชีวิตแบบชนบทจีน ริม 2 ฟากฝั่งน้ำ ซึ่งก็มีภาพของชาวบ้านพายแพไม้ไผ่ หาปลา ขายของ ภาพของชาวบ้านเลี้ยงเป็ด ภาพฝูงวัว-ควาย เดินลงอาบน้ำ รวมไปถึงภาพบ้านเรือนเก่าๆในสไตล์จีนที่ตั้งแทรกตัวอยู่ในขุนเขาที่โอบล้อม ซึ่งแม้ว่าแดดจะแรงไปบ้าง แต่ว่าภาพเหล่านี้ดูแล้วก็เพลินตาสบายใจ ทำให้มื้อเที่ยงบนเรือมาถึงแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ครั้นกินอิ่ม หนังท้องตึง แต่ว่าหนังตายังไม่ทันหย่อน เรือนำเที่ยวล่องแม่น้ำหลีเจียงก็ส่งข้าพเจ้าและเพื่อนผู้ร่วมลงเรือลำเดียวกันขึ้นฝั่งที่ท่าเมืองหยางซั่ว

“หยางซั่ว”(Yang-Shou) เป็นเมืองชนบทท่ามกลางขุนเขา เมืองนี้มีความโดดเด่นมากเรื่องการท่องเที่ยว มี“ถ้ำเงิน” ที่ว่ากันว่าเป็นถ้ำที่ใหญ่และสวยงามที่สุดในเอเชีย ซึ่งในอดีตนักปราชญ์จีนท่านหนึ่งได้กล่าวถึงถ้ำเงินเอาไว้ว่า “หากเที่ยวถ้ำนี้แล้ว ชีวิตนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเที่ยวที่แห่งไหน”

นอกเหนือจากถ้ำเงิน เมืองหยางซั่วก็ยังมี “เมืองลับแล”ที่เป็นการนำตำนานเมืองเก่ามาสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งตำนานของเมืองลับแลที่หยางซั่วนี่ก็คล้ายๆกับตำนานเมืองลับแลในบ้านเรา คือเป็นเมืองที่น่าอยู่อุดมสมบูรณ์ แล้วมีคนพลัดหลงเข้าไปแล้วอยากจะกลับไปอีกแต่ว่าก็หาทางเข้าเมืองนั้นไม่เจอ

สำหรับเมืองลับแลใหม่ที่สร้างขึ้นนี่ก็นับว่าเป็นเมืองที่สร้างเพื่อการท่องเที่ยวจริงๆ คือมีการนำเอาชนเผ่าต่างๆ อย่างม้ง จ้วง หวา เย้า มาอยู่ในนั้นพร้อมๆกับให้แสดงศิลปวัฒนธรรมให้นักท่องเที่ยวชม ในบรรยากาศและบ้านเรือนแบบจีนโบราณ ซึ่งก็ส่งผลให้เมืองลับกลายเป็นเมืองรับตังค์ไปแบบเนื้อๆเน้นๆ เพราะเท่าที่สังเกตเห็นเมืองนี้มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยือนเยอะทีเดียว

อีกหนึ่งจุดรับตังค์ของเมืองหยางซั่วซึ่งก็ถือว่าเป็นจุดดูดตังค์ข้าพเจ้าก็คือที่ย่าน“เวสท์สตรีท” ที่เป็นถนนคนเดินในบรรยากาศตึกรามบ้านเรือนแบบเก่าๆ(ย่านนี้เก่าจริงอายุเกือบ 100 ปี ไม่ได้สร้างขึ้นมาใหม่อย่างเมืองลับแล)มีขุนเขาโอบล้อม พร้อมกับจุดดูดตังค์แทบทุกคูหาของบ้านเรือน สำหรับสินค้าที่วางขายส่วนมากก็จะเป็นของที่ระลึก เสื้อผ้า ภาพวาด ผ้าทอ ซีดี และของอีกสารพัดอย่างโดยมีร้านอาหาร ร้านกาแฟขึ้นแทรกตัวเป็นช่วงๆ

แน่นอนว่าแทบทุกจุดของที่นี่สามารถดูดตังค์ในประเป๋าเราได้แบบรุนแรงและรวดเร็ว เพราะฉะนั้นใครที่จะซื้อของที่เวสท์สตรีทก็ควรคิดไต่ตรองเรื่องต่อรองราคาให้ดี หากใครบ้าบิ่นกล้าต่อราคาลงมาเกินค่อนจากราคาที่ตั้ง ถ้าไม่ได้ของถูกก็จะได้เป็นเสียงด่าของพ่อค้าแม่ค้าแทน แต่ก็อย่างว่าแหละงานนี้ถ้าอยากได้ของถูกมันก็ต้องลองกันหน่อย

ข้าพเจ้าเดินดูของ ต่อรองราคา ในย่านเวสท์สตรีทจนเพลิน เวลาก็ปาเข้าไปเย็นแล้วเย็นอีก จนสมุทรต้องมาตามตัว เพราะเย็นนี้ยังเหลืออีกหนึ่งเป้าหมายปิดท้ายทริป นั่นก็คือการไปยังแม่น้ำ “มังกรหยก” เพื่อรอชมอาทิตย์อัสดงลับเหลี่ยมเขา

แม่น้ำมังกรหยกชื่อนี้ฟังแล้วคิดถึงก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง เอี้ยก๊วย เซียวเหล่งนึ่ง ชะมัด เหล่าตัวละครพวกนี้ถือเป็นตัวละครระดับคลาสสิกจากยุทธจักรนิยายเรื่อง “มังกรหยก” ของ “กิมย้ง” ที่พอนึกถึงก็พลอยให้เกิดอารมณ์คลาสสิกตามไปด้วย ซึ่งก็ถือว่าอารมณ์นี้เข้ากันได้ดีกับสีสันยามเย็นแถวริม “สะพานมังกรหยก” สะพานเก่าที่สร้างในสมัยแมนจู เพราะที่นี่ยามเย็นบรรยากาศจะดูออกลูกทุ่งแบบจีนๆ มีนักท่องเที่ยว คนในพื้นที่มาเล่นน้ำที่ฝาย มีชาวบ้านจูงวัวเดินบนขอบฝายข้ามแม่น้ำ ซึ่งจุดนี้นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่ยามเย็นนักท่องเที่ยวนิยมมานั่งทอดหุ่ยบนแพไม้ไผ่กินลม ชมอาทิตย์อัสดง ทามกลางบรรยากาศแบบลูกทุ่งจีน ที่รายล้อมไปด้วยขุนเขา

และที่นี่ข้าพเจ้าก็ได้เห็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของกุ้ยหลิน นั่นก็คือ วิถีชีวิตของชาวประมงที่มีวิธีการจับปลาที่แปลกมาก คือชาวประมงที่นี่จะไม่จับปลาด้วยตัวเอง แต่ว่าพวกเขาจะใช้ผู้ช่วยนกกาน้ำสีดำ ตัวโต คอยว่ายน้ำลงไปคาบปลามาให้บนแพไม่ไผ่ที่ชาวประมงยืนถ่อรออยู่

หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วอย่างนี้ไม่กลัวนกกาน้ำจะงับปลากลืนกินลงท้องไปหรือ หามิได้ เพราะชาวประมงแกจะใช้เชือกผูกคอนกกาน้ำไว้ไม่ให้นกกาน้ำกลืนปลาลงไปได้ เมื่อกลืนไม่ได้ก็ต้องว่ายคาบปลากลับมาให้เจ้าของ แล้วพอถึงเวลาเจ้าของนกก็จะแก้เชือกที่ผูกคอนกออกก่อนที่จะโยนปลาที่จับได้ให้นกกาน้ำกิน นับเป็นวิถีการทำมาหากินที่พึ่งพาอาศัยกัน ซึ่งมองยังไงมนุษย์ก็ได้กำไรอยู่ดี

ในวันนั้นที่แม่น้ำมังกรหยกมีชาวประมงมาถ่อแพจับปลาอยู่หลายลำเหมือนกัน ซึ่งก็นับว่าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การชมอาทิตย์อัสดงมีสีสันมากขึ้น

และแล้วดวงอาทิตย์ดวงกลมโตก็ค่อยๆเคลื่อนดวงลับลาวันเก่า ท่ามกลางบรรยากาศแห่งขุนเขา สายน้ำ และสีสันของผู้คน

ดวงอาทิตย์ลาลับ แต่วันรุ่งขึ้นย่อมแสงใหม่

ส่วนมนุษย์หากลาลับจากโลก ก็คือการจากไปชั่วนิรันดร์ แต่ว่าการจากไปชั่วนิรันดร์สำหรับบางคน เป็นการจากไปแค่ร่างกาย ส่วนชื่อหรือฉายา หาได้จากไปไม่ ว. ณ เมืองลุง นับเป็นหนึ่งในนั้น 

*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 

กุ้ยหลิน เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในมณฑล “กวางสี”ในประเทศจีนติดกับเวียดนาม มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาว“จ้วง” ในอดีตชาวจีนยกย่องให้เป็น “ซื่อไหว้เถาหยวน” หรือ “เมืองสวรรค์บนพิภพ”

กุ้ยหลินพูดภาษาจีนกลาง เป็นภาษาหลัก เวลาเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง ใช้เงินหยวน ซึ่ง 1 หยวน ประมาณ 5 บาทไทย(อัตราแลกเปลี่ยนในเดือนส.ค.47) โดยคนไทยที่จะซื้อของในกุ้ยหลิน ถ้าไม่อยากถูกปรามาสว่าเป็น “เสียมตือ” ก็ควรต่อรองราคาลงมาเกินค่อนหรือเกินครึ่ง

ณ วันนี้ต้องถือว่าตัวเมืองกุ้ยหลินมีความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในอันดับต้นๆของจีน มีโรงแรมตั้งแต่ 2-5 ดาว มีแหล่งช็อปปิ้งทั้งกลางวัน กลางคืน และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย

สำหรับเมืองไทยมีสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส บินตรงจากกรุงเทพฯสู่กุ้ยหลินทุกวัน สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.1771 หรือ 0-2265-5555 หรือที่ www.bangkokair.com

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

"กุ้ยหลิน" แดนฝัน สวรรค์บนดิน(1)

 

กำลังโหลดความคิดเห็น