ข่าวน้ำมันขยับราคาแต่ละที ประชาชีก็ได้แต่หายใจตุ้มๆ ต่อมๆ พอเข้าอีหรอบนี้เลยส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ด้วย เพราะถ้าจะขับรถไปไหนไกลๆ ก็กลัวว่าจะไปกระเทือนเพดานงบเงินในกระเป๋าเข้าให้
แต่ไอ้ครั้นจะอยู่นิ่งๆอดใจไว้ไม่ให้ออกตะลุยเที่ยวก็คงผิดวิสัย ด้วยว่าสวรรค์บัญชาให้เกิดมาชีพจรลงเท้า หัวใจดวงน้อยๆ ของ “ผู้จัดการท่องเที่ยว”เลยระริกระรี้ฟ้องว่าไม่อยากอยู่เฉย ต้องดั้นด้นไปเที่ยวให้สาแก่ใจชนิดที่ว่าเอาไปคุยได้สิบวันไม่มีเบื่อ พอดีได้ยินมาว่า ที่ “โรงแรม เดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่” มีทริปขับรถ ATV ที่เปิดใหม่ในเส้นทางที่ถือว่าน่าสนใจมากๆ เพราะเส้นทางนี้ผ่านเส้นทางธรรมชาติทั้งป่าเขา แอ่งน้ำ หมู่บ้าน ทางลูกรัง ต้องขึ้นเขา-ลงเขา และที่สำคัญจะได้เห็นค้าวคาวนับล้านตัวบินออกจากถ้ำในช่วงค่ำที่ถือเป็นไฮไลท์(เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ขออนุญาตอุทยานฯเขาใหญ่เรียบร้อยแล้ว)
หลังจากใช้เวลาจากกรุงเทพฯ ไปที่โรงแรมร่วม 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงวินาทีสำคัญที่จะได้สัมผัสกับเจ้า ATV โดยก่อนควบ ATV ทางทีมงานก็ได้มาแนะนำวิธีการขับและบังคับรถ ซึ่งก็คล้ายการขี่มอเตอร์ไซค์ ใครที่ขี่รถไม่เป็นก็ไม่ต้องกังวลเพราะเจ้ารถ ATV นี้ขับขี่ง่าย เพียงแค่ขึ้นนั่งและทำตามวิธีขับ เท่านี้รถก็วิ่งฉิวแล้ว
เมื่อ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” เหวี่ยงตัวลงนั่งที่เบาะรถก็บอกกับตัวเองว่า เอาละเหวย!?! ได้เวลาลุยกันเสียที
แต่ว่าก่อนจะออกลุยเส้นทางจริง ก็ต้องลองขับในสนามซ้อมหรือสนามขั้นพื้นฐาน(Beginner Track) เพื่อให้คุ้นเคย ซึ่งในสนามซ้อมก็มีการให้ทดสอบขี่รถผ่านโค้ง ผ่านเนินลูกระนาดแบบพอหอมปากหอมคอ จากนั้นก็ได้เวลาลุยสู่เส้นทางจริงกันเสียที งานนี้ก็จะได้รู้กันหละว่า ใครเป็นประเภท “หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม”
ขบวนรถ ATV ที่เราไปร่วมขับขี่ ตั้งขบวนกันที่หน้าโรงแรม จากนั้นก็ค่อยๆ เคลื่อนทัพออกไปตามถนนหลวง เป็นการขับแบบสบายๆชมสองข้างทางไปเรื่อย ๆไม่ต้องห่วงว่าจะมีรถใหญ่คันไหนมาเสยท้ายตราบเท่าที่เราขับชิดซ้ายให้อยู่ภายในเลนของรถมอเตอร์ไซค์ ผ่านไป 3 ก.ม. ก็ถึง “บ่อน้ำผุด” ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในช่วงสงกรานต์และลอยกระทง จะมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำกันเยอะมาก จากนั้นก็สตาร์ทเครื่องเคลื่อนทัพเลี้ยวเข้าถนนลาดยางเส้นเล็กๆ ธรรมชาติสองข้างทางนั้นดูแล้วก็เพลิน มีลมเย็นๆพัดมาปะทะตัวเป็นระยะ
แต่พอเลี้ยวรถตัดผ่านหมู่บ้านไปตามไร่ข้าวโพด ถนนก็เปลี่ยนเป็นลูกรังและหินกรวดใหญ่ๆ ล้อทั้งสี่บดขยี้กับถนนจนเสียงดัง หินก็ลอยกระเด็น ฝุ่นก็ลอยฟุ้งไปทั่ว เริ่มเกิดเป็นความมันในอารมณ์ เร่งบิดเครื่องเต็มที่ จนไปถึงฝายน้ำขนาดเล็ก นับเป็นด่านโหดด่านแรกที่จะต้องผ่าน เพราะเป็นทางลาดเอียงความสูงประมาณเมตรครึ่ง กว้างประมาณ 10 เมตร ต้องสวมหัวใจสิงห์ค่อยๆ ไต่ลงแล้วเร่งเครื่องไต่ขึ้นจากฝาย สุดท้ายแล้วก็ผ่านไปได้ในที่สุด “โอ้ พระเจ้าจอร์ช มันยอดมาก” ขอร้องดังๆ กับตัวเองอีกสักครั้งเถอะ
จากถนนลูกรังสักพักก็เปลี่ยนสภาพเป็นถนนลาดยางให้ขับสบายกินลมชมวิวอีกครั้ง ระหว่างทางก็มีเพิงที่ชาวบ้านเอาผลผลิตจากไร่อย่างน้อยหน่า ส้มโอ กล้วย มาวางขายในราคาไม่แพง จะแวะซื้อตุนเป็นเสบียงก็ไม่เสียหลาย แต่ตายใจกับเส้นทางได้ไม่เท่าไหร่ หัวขบวนก็พาเลี้ยวเข้าสู่เขตเขาใหญ่ (เป็นพื้นที่เขาใหญ่คนละโซนกับที่มีข่าวว่าฝนตกหนักจนดินถล่ม) เป็นเส้นทางเล็กๆ ที่ใช้สำหรับเป็นแนวป้องกันไฟป่า คราวนี้ล่ะเตรียมมันกันได้เต็มที่
เส้นทางเล็กๆนี้นอกจากจะเต็มไปด้วยกิ่งไม้และหญ้าคา จนต้องใช้วิชากายกรรมคอยก้มหลบไปตลอด แถมทางข้างหน้าก็เป็นหลุมเป็นบ่อต้องใช้สติในการขับอยู่ตลอด เพราะอย่างที่บอกไว้แต่แรกว่าไม่รู้หนทางข้างหน้าเป็นอย่างไร จึงต้องระมัดระวังกันเต็มที่ เป็นความตื่นเต้นปนความท้าทายจริงๆ จนไปถึง หมู่บ้านท่ามะปราง มีเด็กๆมาโบกมือทักทายกันหลายคน เราแวะไปเยี่ยมคุณลุงสุรเดช รัตนเนตร แกอายุ 74 ปีแล้วแต่ยังแข็งแรงสานไม้ไผ่เป็นอุปกรณ์ต่างๆทั้งไว้ใช้เองและไว้ขายด้วย และก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ถ้ำค้างคาว ชาวคณะก็แวะที่ “ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่” ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะและไหว้ขอพรของผู้ที่มาเขาใหญ่ เรียกขวัญกำลังใจได้มากทีเดียว
ตะวันใกล้จะตกดินแต่จุดหมายยังอีกยาวไกล พอๆกับหนทางที่วิบากมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้ำค้างคาวอยู่บนเขารูปช้าง ต้องไต่เขาผ่านเส้นทางที่ลาดชันและเป็นหลุมบ่ออีกนับไม่ถ้วน “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ต้องบอกตัวเองว่า “ห้ามกลัว ห้ามตื่นเต้น ตั้งสติให้มั่น” อยู่ตลอด และก็ค้นพบว่า การร้องออกมาดังๆ สลับการลุกขึ้นยืน จะช่วยคลายความตื่นเต้นและเป็นการปลดปล่อยความตื่นกลัวได้เป็นอย่างดี จึงไม่แปลกใจถ้าจะได้ยินเสียง “วู้..โว้ว..โอ้ว..แม่เจ้า” อยู่ตลอด
6 โมงเย็นกว่าๆ หัวใจก็ได้เต้นระทึกอีกครั้งเมื่อ เห็น ฝูงค้างคาวหนูนับล้านตัว บินเสียงดังหึ่งๆ ออกจากถ้ำเป็นทางยาว ที่ปากถ้ำจะมีเหยี่ยวหลายตัวคอยบินโฉบจับค้างคาวหนูเป็นอาหาร ว่ากันว่าพวกมันบินไปหาอาหารในรัศมีทางไกลกว่า 400 กิโลเมตร แล้วก็บินกลับมาในช่วงเช้าตรู่ เป็นวัฎจักรอย่างนี้ตลอด สำหรับมูลค้างคาวก็จะมีคนของบริษัทที่ได้รับสัมปทานขึ้นไปเก็บทุกๆ 15 วัน ซึ่งกว่าจะปีนขึ้นไปถึงถ้ำค้างคาวได้ก็ลำบากพอควร และจะใช้วิธีชักรอกถุงมูลค้างคาวลงมา เพื่อร่นเวลาและแรงงาน
นานกว่า 15 นาทีที่ค้างคาวนับล้านตัวบินออกจากถ้ำ แต่สำหรับชาวคณะ ATV ไม่รู้ว่าใช้เวลานานขนาดไหน เพราะขากลับ คราวนี้ทุกคนชำนาญเส้นทางแล้วก็เร่งเครื่องบึ่งตะลุยกันเต็มที่ หลายคนใจกล้าเริ่มขับขี่โลดโผนโจนทะยาน เพราะมั่นใจแล้วนี่นา ว่ายังไงรถก็ไม่มีทางเสียหลักแน่ ขนาดรถเอียง 70 องศาก็ยังผ่านไปได้ ประสาอะไรกับการยกล้อโชว์ “โอ้โห...แม่เจ้า”
และแล้วทุกคนก็กลับถึงโรงแรมอย่างปลอดภัย อาจจะได้ฝุ่นโคลนติดรองเท้าและชายกางเกงมาเป็นของฝาก แต่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ได้รับความมัน ความสะใจ ความตื่นเต้น ความสนุกสนาน ความท้าทาย และอีกมากมายหลายความอย่างเต็มที่
ที่สำคัญเมื่อจบทริป มองดูเข็มน้ำมันแล้วก็ไม่ได้กระดิกลดหายไปเท่าใดนัก แสดงว่ารถ ATV นี้ก็ประหยัดน้ำมันได้ดีเลยทีเดียว
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ATV (All Terrain Vehicle) เป็นรถมอเตอร์ไซด์ 4 ล้ออเนกประสงค์ ในต่างประเทศนิยมใช้วิ่งในฟาร์มหรือในพื้นที่ที่มีหิมะ เพราะสามารถบุกตะลุยได้ทุกสภาพพื้นที่ สำหรับเมืองไทยส่วนใหญ่นำมาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมท่องเที่ยว เนื่องจากรถประเภทนี้มีเครื่องเล็กทำให้ขับขี่ไม่เปลืองน้ำมัน
การขี่รถ ATV นอกจากจะต้องสวมหมวกกันน็อคแล้ว แว่นตากันฝุ่นก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ และถ้าจะให้ดีควรใส่กางเกงขายาว เสื้อแขนยาว รองเท้าผ้าใบ และถุงมือ เพราะจะต้องขับขี่บุกป่าฝ่าดง
ข้อสำคัญของการขี่ ATV คือไม่ควรมีคนนั่งซ้อนท้าย เพราะอาจเกิดอันตรายต่อคนที่นั่งซ้อนท้ายได้ และที่สำคัญคือ เวลาขับขี่รถ “ห้ามเอาขาลงจากรถโดยเด็ดขาด”
สำหรับโรงแรม เดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนธนะรัชต์ หลัก กม. ที่ 19.5 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ก่อนถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 2.5 ก.ม. สามารถไปได้ตามถนนพหลโยธิน และเลี้ยวขวาเข้าจังหวัดสระบุรี วิ่งไปตามถนนมิตรภาพ ตรงไปแยกมุ่งหน้าไปทางเส้นทางขาขึ้นเขาใหญ่สู่ถนนธนะรัชต์
นอกจากการขับรถ ATV ทริปถ้ำค้างคาว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-2.30 ชม. ระยะทาง 10 กม. ในราคา 2,200 บาท แล้วยังกิจกรรม Activity Zone อื่น เช่น เพนท์บอล ปีนหน้าผาจำลอง นาโนไบค์ ยิงธนู และขี่ม้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2254-2539,0-254-6650-2 ต่อ 131,114 หรือ www.greeneryresort.com


