xs
xsm
sm
md
lg

สระบุรี…เมืองนี้มิใช่แค่ทางผ่าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แต่ไหนแต่ไรมาเราคุ้นเคยกับสระบุรีกันมาเป็นอย่างดี เพราะสระบุรีเป็นชุมทางสายสำคัญที่จะนำนักเดินทาง ไปสู่จุดหมายปลายทางยังอีกหลายๆ จังหวัดโดยเฉพาะภาคอีสาน จนได้รับตำแหน่งประตูสู่ภาคอีสานควบกับทางผ่านเข้ากรุงเทพฯ ทำให้สระบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าสนใจ ตามคำขวัญที่ว่า “พระพุทธบาทสูงค่า เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ฐานผลิตอุตสาหกรรม เกษตรนำล้ำแหล่งเที่ยว หนึ่งเดียวกะหรี่ปั๊บนมดี ประเพณีตักบาตรดอกไม้งาม เหลืองอร่ามทุ่งทานตะวัน ลือลั่นเมืองชุมทาง”

นอกจากคำขวัญประจำจังหวัดที่นับว่ายาวที่สุดกว่าจังหวัดไหนๆ แล้ว เรื่องราวประวัติศาสตร์ของสระบุรีก็ยาวไม่แพ้กัน กล่าวคือเคยเป็นเมืองเก่าตั้งแต่ในยุคทวารวดี สันนิษฐานว่าในปี พ.ศ. 2092 สมัยแผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ ทรงสร้างเมืองเพื่อรวบรวมกำลังพลไว้ในยามศึกสงคราม ชื่อว่า “ศาลารี” แต่กว่าจะได้มีชื่อปรากฏเป็นทางการครั้งแรกก็ปาเข้าไป 20 ปี ให้หลัง ในพงศาวดารสมัยสมเด็จพระมหินทราธิราช (พ.ศ. 2111-2112) ระบุไว้ว่าคราวพระเจ้าหงสาวดียกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้ยกทัพจากเวียงจันทร์มาช่วย แต่ถูกกองทัพพม่าดักซุ่มตีที่เมืองสระบุรีนี้เอง

จากพงศาวดารสันนิษฐานว่า สระบุรี คงหมายถึง เมืองแห่งน้ำ หรือ ตัวเมืองที่อยู่ใกล้น้ำ เพราะครั้งแรกที่ตั้งของเมืองอยู่บริเวณบึงโง้ง ตำบลเมืองเก่า อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรีในปัจจุบัน

ต่อมาพ.ศ. 2149 มีการค้นพบรอยพระพุทธบาทในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ชื่อของสระบุรีก็เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะในทางที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา เกิดเป็นประเพณีราชนิยมที่พระมหากษัตริย์จะเสด็จมานมัสการพระพุทธบาท พระองค์โปรดเกล้าฯให้ตั้งเมืองพระพุทธบาทขึ้น โดยวัดจากรอยพระพุทธบาทออกไปเป็นรัศมีทุกทิศ 16 กม. ในสมัยรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2437 ตรงกับรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้า ฯ ให้ลดฐานะเมืองพระพุทธบาทเป็นเมืองหนึ่งของสระบุรี และ 2 ปีถัดมาทรงย้ายเมืองเพราะทรงเห็นว่าห่างไกลจากเส้นทางรถไฟมาก จากเดิมที่ตั้งอยู่ที่ ต. เสาไห้ มาตั้งที่ ต.ปากเพรียว อ. เมือง สระบุรี ในปัจจุบัน

ส่วนทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวก็มีมากมายไม่แพ้เรื่องประวัติศาสตร์ ซึ่งก่อนอื่นก็คงต้องไปนมัสการ พระพุทธบาท เอาฤกษ์เอาชัยกันก่อน ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในอำเภอพุทธบาท เลี้ยวจากถนนพหลโยธินเข้าไปไม่กี่อึดใจ ก็จะพบกับภาพของมณฑปใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าจนสะดุดตา มณฑปนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา และเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทนั่นเอง มีบันไดขึ้น 3 ทาง คือ ด้านบันไดประตูยักษ์ บันไดพิกุล และบันไดทางตะวันตกคือบันไดนาค ซึ่งเป็นด้านที่สวยงามที่สุด

ใจกลางของมณฑปเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท มีลักษณะเป็นหลุมลึกคล้ายรอยเท้าคน กว้าง 21 นิ้ว ยาว 5 ฟุต ลึก 11นิ้ว จะสังเกตว่ารอบรอยพุทธบาทนั้นพุทธศาสนิกชนปิดทองกันเหลืองอร่ามไปทั่ว นั่นเป็นดัชนีชี้วัดแรงศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพุทธศาสนาได้เป็นอย่างดี ว่ากันว่าหากใครมีโอกาสไปสักการะพระพุทธบาทครบ 7 ครั้ง ผลบุญจะส่งให้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดงานประเพณีตักบาตรดอกไม้ ที่จัดขึ้นเป็นประจำในวันเข้าพรรษาของทุกปี

นอกจากพระพุทธบาทแล้ว ยังมี พระพุทธฉาย ที่เชื่อกันมาว่าเป็นฉายาลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ที่แสดงอภินิหารฉายไว้บนผาหิน ตั้งอยู่บริเวณวัดพระพุทธฉาย ตำบลหนองปลาไหล ทางเข้าทางเดียวกับอุทยานพระพุทธฉายนั่นเอง

หลังจากสร้างความเป็นสิริมงคลให้ชีวิตแล้ว ก็เดินทางต่อไปยัง อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 16 กิโลเมตร สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาน้อยใหญ่สลับกับที่ราบ สามารถชมทัศนวิสัยของตัวเมืองสระบุรี และอำเภอใกล้เคียงอย่างชัดเจนได้ที่ เขาครก ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงประมาณ 329 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเป็นยอดที่สูงที่สุด ในอุทยานแห่งนี้มีน้ำตกที่น่าสนใจอยู่ 3 แห่ง คือ น้ำตกสามหลั่น ดูจากชื่อแล้วสอดคล้องกับลักษณะของตัวน้ำตกที่มีอยู่สามชั้นด้วยกัน ต่อมาคือ น้ำตกโพธิ์หินดาด เป็นน้ำตกเล็กๆ แต่บรรยากาศร่มรื่นจากยอดของไม้ใหญ่ และสุดท้ายคือ น้ำตกโตนรากไทร มีจุดเด่นตรงที่ เป็นสายน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกโพธิ์หินดาด เมื่อมาถึงด้านล่างจะกลายเป็นแอ่งน้ำรูปลงกลมขนาด กว้าง 10 เมตร นักท่องเที่ยวนิยมมาลงเล่นน้ำ ซึ่งน้ำตกอื่น ๆ นั้นไม่มี

ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำ สระบุรีจึงยังมีน้ำตกที่น่าสนใจอีกใน อ.มวกเหล็ก คือ น้ำตกมวกเหล็ก ซึ่งอยู่ใน สวนรุกขชาติมวกเหล็ก อยู่กึ่งกลางระหว่าง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี กับ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ และดอกไม้ประดับที่งดงามมาก และถ้าเดินทางต่อเข้าไปใน อ. มวกเหล็ก อีกประมาณ 9 กิโลเมตร จะมีเส้นทางสู่ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย หรือที่ใครหลายคนเรียกว่าน้ำตกสาวน้อย ซึ่งสภาพโดยรอบมีความงดงาม เพราะมีหลายชั้น มีแมกไม้ทั้งสองฝั่งลำน้ำช่วยสร้างความร่มรื่น สามารถลงเล่นน้ำได้หลายจุด ชั้นที่สูงที่สุดสายน้ำตกจะตกจากผาสูงราว 5 เมตร กว้างประมาณ 20เมตร ภาพความงดงามที่เห็นสามารถสู้กับน้ำตกที่อื่น ๆ ได้อย่างสบาย

หากใครติดใจ ตราตรึงกับภาพรถไฟลอยน้ำ หนึ่งในโครงการอันซีน 2 ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คงต้องหาโอกาสไปสัมผัสด้วยตัวเองที่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งเป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บรรยากาศภายในเขื่อนมีกิจกรรมหลายอย่าง มีโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณริมเขื่อนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยจัดให้มีศูนย์กีฬาทางน้ำ สวนรุกขชาติ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และหาดทรายริมเขื่อนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมและพักผ่อนหย่อนใจ

ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี นักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศจะหลั่งไหลกันมาชมความสวยงามของ ทุ่งทานตะวัน อ. วังม่วง บริเวณนั้นจะเป็นพื้นที่ซึ่งชาวบ้านปลูกต้นทานตะวันนับพัน ๆ ไร่สุดลูกหูลูกตา โดยจะเริ่มปลูกในเดือนสิงหาคม กว่าจะออกดอก ก็ราวเดือนพฤศจิกายน ช่วงเวลานั้นทั่วท้องทุ่งจะเหลืองอร่ามไปด้วยดอกทานตะวันราวกับทุ่งสีทอง มีขุนเขาเป็นฉากอยู่เบื้องหลัง แนะนำว่าควรไปชมตั้งแต่เช้า เพราะเป็นเวลาที่ดอกทานตะวันจะชูช่อสลอนรับไออุ่นจากแสงตะวันอย่างงดงาม หากสายเข้าหรือบ่ายจัด ๆ ก้านดอกจะงอตกและหุบดอก ปลายปีนี้ถ้าอยากได้ภาพสวยๆ กับท้องทุ่งทานตะวันก็อย่าลืมทำเครื่องหมายกากบาทปฏิทินในเดือนพฤศจิกายนไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อกันพลาดนัดสำคัญนัดนี้

พาเที่ยวมาตั้งมากมาย เดี๋ยวจะคิดว่าสระบุรีมีแต่สถานที่เที่ยวอย่างเดียวหรือ? ความจริงแล้วดินแดนท้องทุ่งริมเชิงเขาแห่งนี้ เป็นดินแดนกสิกรรม โดยเฉพาะที่ อ. มวกเหล็ก ซึ่งเป็นพื้นที่สลับเนินเขาสูง ๆ ต่ำ ๆ มีสายธารที่เกิดจากเขาใหญ่ไหลผ่าน จึงเหมาะเป็นแหล่งปศุสัตว์อย่างการเลี้ยงโคเนื้อ และโคนม จนมวกเหล็กกลายเป็นแหล่งผลิตเนื้อและนม ที่มีชื่อเสียงและเลี้ยงคนมาทั้งประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งผลิตกะหรี่ปั๊บที่มีชื่อมานานแสนนาน มีหลากหลายรสชาติให้ลิ้มลอง แวะซื้อเป็นของฝากกลับบ้านได้อย่างสบาย

หากทริปต่อไปคือแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึมซับประเพณีและวัฒนธรรมที่งดงาม เดินทางสะดวกสบาย ไม่ไกลเมืองกรุง อยากให้นึกถึงสระบุรี…ที่จะไม่เป็นเพียงแค่ทางผ่านอีกต่อไป…

*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 


สอบถามข้อมูลการเดินทางและท่องเที่ยวได้ที่ สำนักงาน ททท. ภาคกลางเขต 6 โทร. 0-3524-6076-7

อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย ติดต่อจองที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก โทร. 0-3622-4069 , 0-2579-7223 , 0-2579-5734 ต่อ 724 ,725

สอบถามเส้นทางรถไฟขบวนกรุงเทพ ฯ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โทร. 0-2225-6964, 0-2621-8701 ต่อ 5217 สายด่วน 1690

ทุ่งทานตะวัน สอบถามเกษตรอำเภอวังม่วง โทร.0-3635-9021


กำลังโหลดความคิดเห็น