xs
xsm
sm
md
lg

ล่องคลองร้อยสาย แม่น้ำตาปี ที่เมืองสุราษฎร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หากเปรียบแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเส้นเลือดหลักของคนในภาคกลาง “แม่น้ำตาปี” ก็เป็นดังเส้นเลือดหลักของคนสุราษฎร์ และคนเมืองคอน

แม่น้ำตาปีนั้น มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขานครศรีธรรมราช และไหลย้อนขึ้นมาทางทิศเหนือผ่านอำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช แล้วเข้าสู่จังหวัดสุราษฎร์ ผ่านอำเภอพระแสง อำเภอบ้านนาสาร อำเภอพุนพิน อำเภอเมือง และไหลลงสู่ทะเล รวมระยะทางยาว 232 กิโลเมตร ถือเป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดในภาคใต้

ส่วนชื่อของแม่น้ำตาปี เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เมื่อครั้งที่พระองค์ได้เสด็จประพาสเมืองไชยา และทรงเห็นว่าเมืองไชยานี้มีลักษณะภูมิประเทศคล้ายกับ “สุรัฎ” ในประเทศอินเดีย ซึ่งมีแม่น้ำตาปีตีไหลผ่าน พระองค์จึงได้นำมาตั้งเป็นชื่อแม่น้ำสายนี้ว่า “แม่น้ำตาปี”ซึ่งเป็นธรรมดาที่แม่น้ำจะแตกแขนงแยกย่อยออกเป็นลำคลองต่างๆ สำหรับแม่น้ำตาปีนั้นก็เช่นเดียวกัน คือได้แตกแขนงออกมาเป็นคลองนับร้อยสาย จนเป็นที่มาของคำว่า “คลองร้อยสาย แม่น้ำตาปี”

ความน่าสนใจของคลองสายนี้ไม่ใช่เพียงแค่จำนวนคลองที่มีมากถึงร้อยสายเท่านั้น แต่หากใครที่มาเยี่ยมเยือนคลองสายนี้ก็จะสามารถ “ชมนก ตกปู ดูลิง หิ่งห้อย ร้อยคลอง ล่องบาง” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทางชมรมท่องเที่ยวคลองร้อยสายในบาง จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้จัดขึ้น

ก่อนอื่นจะขอขยายความคำว่า “ในบาง” ให้เข้าใจก่อนว่า สำหรับชาวสุราษฎร์นั้น คำนี้หมายความถึงพื้นที่ที่ ครอบคลุม 6 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางใบไม้ บางชนะ บางฉนาก คลองน้อย บางโพธิ์ และบางไทร ซึ่งแม่น้ำตาปีได้แตกแขนงออกไปตามตำบลที่ว่านี้

การล่องคลองในบางนั้น นอกจากจะได้ไปชมนก ตกปู อย่างที่ว่าแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะได้เห็นตลอดสองฝั่งแม่น้ำตาปี และสองฝั่งคลองร้อยสายก็คือ วิถีชีวิตของชาวบ้านในบางที่ผูกพันอยู่กับสายน้ำ ใช้เรือเป็นพาหนะเดินทางไปไหนต่อไหน มีตลาดน้ำเคลื่อนที่ขายเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ ส่วนในตอนเช้าก็จะมีพระจากวัดในบางพายเรือมาบิณฑบาต และมีผู้เฒ่าผู้แก่คอยใส่บาตรอยู่ที่ท่าน้ำหน้าบ้าน

สองข้างทางริมคลองนั้นจะเต็มไปด้วยต้นจาก ไม่ว่าบ้านไหนๆ ก็จะมีต้นจากขึ้นเหมือนๆ กันหมด ซึ่งต้นจากนี้ก็เป็นพืชที่ทำรายได้ให้แก่ชุมชนในบางได้มากทีเดียว ไม่ว่าจะเอาใบมาทำหลังคามุงจากขาย หรือนำใบจากมาทำเป็นวัสดุห่อขนม เช่น ขนมจาก นอกจากนั้นก็ยังนำมาทำเป็นเครื่องใช้ภายในบ้านได้อีก ส่วนลูกจากที่รูปร่างหน้าตาและรสชาติคล้ายลูกตาลนั้น ก็นำมาทำเป็นของหวานได้ จะกินสดๆ หรือจะนำไปเป็นลูกจากลอยแก้ว ลูกจากเชื่อมก็สามารถทำได้ และนอกจากต้นจากแล้วก็ยังมีต้นไม้อื่นๆ เช่น ต้นลำพู และต้นสาคูอีกด้วย

พาณุ ชำนาญเมือง ประธานชมรมท่องเที่ยวคลองร้อยสายในบาง ได้เป็นผู้พาชมกิจกรรมต่างๆ และได้เล่าถึงกิจกรรมแต่ละอย่างว่า สำหรับการดูนกนั้น ก็จะมีนกต้อยตีวิด นกกวัก ซึ่งเป็นนกพื้นบ้านให้ได้เห็น หากเข้ามาที่คลองร้อยสายในยามเช้าจะได้ยินเสียงนกร้องอยู่รอบๆ สวนของชาวบ้าน เป็นบรรยากาศแบบธรรมชาติ และสิ่งพิเศษก็คือ หากมาในช่วงฤดูหนาว ก็จะได้พบกับแขกพิเศษคือนกเป็ดน้ำ ซึ่งอพยพมาจากไซบีเรีย และจะมาให้ได้ชมโฉมกันบริเวณริมฝั่งในบาง ส่วนการดูหิ่งห้อยนั้น แน่นอนว่าต้องมาดูกันตอนกลางคืน พาณุรับรองว่าได้เห็นแน่ๆ หากฝนไม่ตก

ส่วนการตกปู ตกกุ้งนั้นถือว่าเป็นการทำมาหาอาหารของชาวบ้านในบางซึ่งคนที่มาจากต่างถิ่นอาจไม่ได้เคยเห็นกันบ่อยนัก แต่ยังเป็นภาพที่ยังคงพบได้ในสถานที่แห่งนี้ ซึ่งในช่วงหน้าร้อน เช่นเดือนเมษายนที่น้ำจืดจะแห้งลง น้ำเค็มน้ำกร่อยจะรุกล้ำเข้ามาในแม่น้ำ จะเป็นช่วงที่ปูชุกชุมที่สุด

นอกจากการดูนก ตกปูแล้ว ที่นี่ก็ยังมีลิงให้ดู ที่โรงเรียนสอนฝึกลิงเพื่อการเกษตร ที่ว่าเพื่อการเกษตรนั้นก็เพราะว่า อาชีพของชาวบ้านในแถบนี้ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นชาวสวนมะพร้าว หากฝึกสอนลิงให้ช่วยเก็บลูกมะพร้าวได้ก็จะเป็นการทุ่นแรงและระยะเวลาให้กับเจ้าของสวนได้มากทีเดียว แต่หากชาวสวนคนใดไม่มีลิงเป็นของตัวเอง ก็สามารถมาจ้างลิงของที่โรงเรียนนี้ได้

โรงเรียนลิงก็มีระดับชั้นเหมือนโรงเรียนคน โดยจะแบ่งเป็นชั้นอนุบาล ประถม และมัธยม ชั้นอนุบาลจะเป็นการทำความสนิทสนมคุ้นเคยกับลิงเสียก่อน และฝึกให้ลิงทำความคุ้นเคยกับลูกมะพร้าว ให้มันรู้คำสั่งง่ายๆ เช่น เรียกให้มา และให้หัดหมุนลูกมะพร้าว หรือซ้อมปลิดลูกมะพร้าวออกจากขั้ว

พอขึ้นชั้นประถม ก็จะเริ่มให้มันหัดปีนขึ้นไปบนราวไม้ไผ่ที่มีลูกมะพร้าวแขวนไว้ และหัดให้มันปลิดมะพร้าวที่แขวนไว้ลงมาทีละลูก ส่วนชั้นสูงสุด คือชั้นมัธยม คราวนี้ลิงจะได้รับประสบการณ์จริง กับการขึ้นต้นมะพร้าวจริงๆ แถมพอปลิดลูกมะพร้าวลงมาได้แล้ว ก็ต้องหัดเก็บลูกมะพร้าวมาให้เจ้าของด้วย

นอกจากกิจกรรมเหล่านี้แล้ว คลองร้อยสายก็ยังมีสิ่งน่าสนใจอื่นๆ ให้เที่ยวชมได้อีก เช่น ที่วัดบางใบไม้ มีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่งที่แปลกไม่เหมือนใคร ความแปลกที่ว่านั้นก็คือ พระพุทธรูปองค์นี้ถูกสร้างขึ้นมาจากข้าวสุกที่เหลือก้นบาตรวันละเล็กละน้อย โดยฝีมือของพระที่วัดบางใบไม้นี้เอง จนท่านได้ชื่อว่า “หลวงพ่อข้าวสุก” มาจนถึงบัดนี้ท่านก็มีอายุได้ 100 กว่าปีแล้ว และชาวบ้านในบางได้ให้ความเคารพนับถือท่านมาก ปัจจุบันนี้ทางวัดได้สร้างพระพุทธรูปทองแดงครอบหลวงพ่อข้าวสุกเอาไว้เพื่อกันมดกันแมลงที่อาจทำให้องค์หลวงพ่อเกิดความชำรุดได้

นอกจากนี้ ในบางก็ยังมีสถานที่ที่มีความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์ คือบ้านโบราณอายุกว่า 200 ปี เป็นเรือนปั้นหยาแบบอยุธยา สร้างขึ้นโดยขุนประจัน ศึกประชิด นายทหารในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ได้หนีทัพมาจากเมืองนครศรีธรรมราชมาอาศัยอยู่ในบาง ปัจจุบันนี้ได้ใช้เป็นที่เก็บรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้เก่าแก่ของบ้านหลังนั้นเอาไว้

นอกจากการเที่ยวชมสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ แล้ว ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในบางก็ยังได้จัดกิจกรรมให้คนในชุมชนได้ตระหนักถึงคุณค่าของในบาง โดยพาณุได้เล่าว่า

“ที่ชมรมได้จัดลานเรียนรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในบางให้นักเรียน นักศึกษาในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ เช่น อำเภอพุนพิน ได้มาทำกิจกรรมเพื่อให้ส่งเสริมให้เยาวชนได้ตระหนักถึงคุณค่าของในบาง รวมทั้งให้ความรู้ต่างๆ เช่น เรื่องของการทิ้งขยะ แยกขยะ เพื่อที่จะไม่ทำให้สภาพแวดล้อมทางน้ำเสียไป”

หากใครที่นึกเบื่อคลองในเมืองกรุง อยากจะมาลองล่องคลองร้อยสาย แม่น้ำตาปี ที่จังหวัดสุราษฎร์ ชาวในบางเขาก็ยินดีต้อนรับ นอกจากจะได้ตกปู ดูลิง ดูหิ่งห้อยแล้ว ก็ยังจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ผูกพันอยู่กับสายน้ำ และได้รู้ว่าที่สุราษฎร์เมืองคนดีนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจซ่อนอยู่อีกมากมาย และยังรอให้ผู้ที่รักการเดินทางมาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ ดังนั้นหากใครจะแวะมาจังหวัดสุราษฎร์ก็อย่าลืมใส่ “ล่องคลองร้อยสาย แม่น้ำตาปี” เป็นหนึ่งในโปรแกรมท่องเที่ยวด้วย แล้วจะรู้ว่าแม่น้ำตาปีนี่มีเสน่ห์ไม่น้อย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

การเดินทาง สามารถเดินทางเข้าไปโดยใช้รถยนต์ ขับข้ามสะพานแม่น้ำตาปีจากฝั่งบ้านดอน ใกล้ๆ ศาลหลักเมืองเข้าสู่ฝั่งในบาง หรือเดินทางโดยเรือหางยาวของชาวบ้าน ซึ่งมีให้บริการทุกวัน จากฝั่งท่าเรือบ้านดอน ล่องเข้าไปตามแม่น้ำตาปี และตัดเข้าสู่คลองใบไม้ และลำคลองต่างๆ ในบาง นักท่องเที่ยวที่สนใจวิถีชีวิตของชุมชนในบางตลอดสองฝั่งคลอง หรือสนใจจะมาเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านในบาง (โฮมสเตย์) สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวคลองร้อยสายแม่น้ำตาปี โทร.0-7720-5323, 0-6267-6695
กำลังโหลดความคิดเห็น