xs
xsm
sm
md
lg

ตะลุยแดนฝัน สุดมันที่นครนายก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ฝันดี ฝันดี หรือฝันร้าย เมื่อคืนฝันไป ได้เป็นสะใภ้นายก ในฝันแม้มันช่างตลก ฉันฝันว่าคุณโอ๊คมาขอแต่งงาน”

ได้ยินสาวๆ หลายคนกำลังฮัมเพลงของน้อง อาจารียา พรหมพฤกษ์ อยู่ดีๆ ก็ให้นึก
สะดุดในเพลง ไม่ใช่สะดุดเพราะเนื้อเพลงที่บอกว่าอยากเป็นสะใภ้นายกมีแฟนเป็น
ยอดชายคุณโอ๊คอ๊ากนั่นหรอก แต่สะดุดตรงที่บอก สะใภ้นายก ซึ่งหมายถึงการเป็น
สะใภ้เมืองนครนายกจริงๆ จะมีสาวๆ ไหนฝันอย่างนี้บ้างหรือเปล่าหนอ เพราะเท่าที่
เห็นคำขวัญของจังหวัดที่บอกว่าเป็น เมืองในฝันที่ใกล้กรุง ภูเขางาม น้ำตกสวย รวยธรรมชาติ ปราศจากมลพิษ ก็แสดงว่านครนายกก็ต้องมีอะไรดีๆ อยู่ในตัวบ้างเหมือนกัน

ห่างจากกรุงเทพฯ แค่ร้อยกว่ากิโลเมตร ก็ถึง นครนายก ซึ่งสันนิษฐานว่าเคยเป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดีมาก่อน เดิมเคยมีชื่อว่า “บ้านนา” แต่ต่อมาที่ได้ชื่อ นครนายก ก็มาจากคำว่า “นา-ยก” หมายถึงการยกภาษีที่นาให้แก่ราษฎร เล่ากันว่าในสมัยกรุงศรีอยุธยา ดินแดนของนครนายกเป็นป่ารกชัฏเป็นที่ดอน ทำนาหรือเพาะปลูกอะไรไม่ค่อยได้ผลและมีไข้ป่าชุกชุม ผู้คนจึงอพยพไปอยู่ที่อื่นจนกลายเป็นเมืองร้าง ต่อมาพระมหากษัตริย์ทรงทราบความเดือนร้อนของชาวเมืองจึงโปรดเกล้าฯ ให้เลิกภาษีนาเพื่อจูงใจชาวเมืองให้อยู่ที่เดิมทำให้มีผู้คนอพยพมาอยู่เพิ่มมากขึ้น จนเป็นชุมชนใหญ่และเรียกเมืองนี้กันติดปากว่า “เมืองนายก”


นั่นก็คือเรื่องราวในอดีต แต่ปัจจุบันตอนนี้ ถือได้ว่าเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยทรัพยากรป่าไม้และพืชผลการเกษตรต่างๆ ซึ่งสำหรับที่มาของคำขวัญว่า “ภูเขางาม” นั้นก็จึงน่าจะมาจากการมีพรมแดนติดต่อและมีพื้นที่คลอบคลุมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นป่าผืนใหญ่อยู่ในเทือกเขาพนมดงรัก ในส่วนหนึ่งของดงพญาไฟหรือดงพญาเย็นในอดีต ประกอบด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนหลายลูก เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่สำคัญหลายสาย ซึ่งก็รวมถึงมี “น้ำตกสวย” อยู่หลายแห่งด้วย

น้ำตกที่มีชื่อเป็นที่รู้จักกันดีอยู่ในลำดับต้นๆ ถือเป็นตัวแทนน้ำตกของจังหวัดแล้วก็ต้องยกให้ น้ำตกสาริกา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 9 ชั้น โดยสายน้ำจะไหลตกจากหน้าผาเป็นทอด ๆ ดูสวยงามมาก ผาที่สูงที่สุดประมาณ 200 เมตร แต่ละชั้นมีอ่างรับน้ำและมีน้ำมากในฤดูฝน ใกล้ๆกันนั้นมี “ถ้ำสาริกา” ซึ่งพระอาจารย์มั่น ภูริฑตฺโต เคยมาบำเพ็ญศาสนธรรมเมื่อปี 2460-2463 ภายในบริเวณประกอบด้วยกุฏิของสงฆ์ เรือนบูชาหลวงปู่มั่น และโบสถ์

ส่วนน้ำตกอีกแห่งที่ตีคู่มาด้วยกันก็คือ น้ำตกนางรอง อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดกลางที่ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ ไม่สูงมาก แต่ก็มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย

แต่ที่มาแรงแซงทางโค้งในเรื่องชื่อเสียงและความสวยงาม ตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้น น้ำตกเหวนรก ที่มีพื้นที่ส่วนหนึ่งอยู่ในเขตอำเภอปากพลี ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอุทยานฯ เขาใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสูงชันที่สุดในเขตอุทยานฯ มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกสูงประมาณ 60 เมตร เมื่อน้ำไหลผ่านน้ำตกชั้นนี้จะพุ่งไหลสู่หน้าผาชั้นที่สองและชั้นที่สาม ที่อยู่ถัดลงไปใกล้ ๆ กัน ในลักษณะการไหลตกตั้งฉาก 90 องศา รวมความสูงแล้วไม่ต่ำกว่า 150 เมตร เป็นสายน้ำที่ไหลทะลักไปสู่หุบเหวเบื้องล่าง ในฤดูฝนน้ำจะไหลแรงมากจนดังกึกก้องดูน่ากลัว จึงได้ชื่อว่าน้ำตกเหวนรก การจะไปชื่นชมความงามของน้ำตกนี้ น่าจะเหมาะกับคนที่หัวใจและร่างกายพร้อมจะลุย เพราะเมื่อขึ้นเขาใหญ่ไปจนถึงกิโลเมตรที่ 24 จะต้องเดินเท้าไปน้ำตกเหวนรกอีก 1 ก.ม. แต่รับรองว่าการบุกบั่นเข้าไปจะได้รับความประทับใจกับความงามของป่าและธรรมชาติกลับมาอย่างเต็มอิ่ม

นอกจากนี้ยังมีน้ำตกสวยๆ อีกหลายแห่งกระจายอยู่ในหลายอำเภอทั้ง น้ำตกลานรักหรือน้ำตกตาดหินกอง น้ำตกวังม่วง น้ำตกกะอาง น้ำตกสลัดได รวมถึง วังตะไคร้ ที่อยู่ใกล้กับน้ำตกนางรอง เป็นอุทยานที่ได้รับการตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แต่ในช่วงฤดูฝนอย่างนี้ทุกๆที่ กระแสน้ำจะไหลเชี่ยวมาก ควรต้องระมัดระวังในการลงเล่นน้ำเป็นพิเศษ ยังไงก็ต้องนึกถึงความปลอดภัยมาก่อนเป็นอันดับแรก

ใช่จะมีแต่ให้เที่ยวน้ำตก นครนายกยังมีที่ให้ล่องแก่งด้วย สำหรับการ ล่องแก่งในลำน้ำนครนายก มีทั้งล่องแบบใช้เรือแคนู เรือคยัค และเรือยาง เป็นกีฬาทางน้ำอีกแบบที่นิยมกันอย่างมากในช่วงฤดูฝน ได้ทั้งความสนุกตื่นเต้นท้าทาย ได้ทั้งการพักผ่อนและออกกำลังกายแบบใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยจุดเริ่มต้นการล่องแก่งอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานวังตะไคร้ หรือเชิงสะพานท่าด่าน คลองนางรอง บริเวณบ้านป่าหมากเรื่อยมาตามลำน้ำนครนายก ผ่านเกาะแก่งต่าง ๆ ลักษณะของลำน้ำนครนายกในแต่ละช่วงเวลาและระยะทางจะมีความแตกต่างกัน

ลำน้ำนครนายกเป็นลำน้ำที่คดเคี้ยวตลอดเส้นทางของการล่อง ทำให้นักผจญภัยต้องใช้ทักษะในการพายบังคับเรือให้เลี้ยซ้าย –ขวา ต้องฝ่าอุปสรรคที่ผู้ล่องเรือต้องใช้ความพยายามในการพายพอสมควร เพราะลำน้ำนครนายกมีแก่งหินหลายจุดที่ทำให้กระแสน้ำคดเคี้ยวไหลลดหลั่นกันลงมาคล้ายขั้นบันได เช่น แก่งหินสามชั้น แก่งโขดคุ้ง เกาะแก่ง เป็นจุดที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้ผู้ที่อยู่บนเรือเป็นอย่างมาก

ออกจากล่องแก่งก็ไปสนุกกันต่อที่ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อยู่ที่เขาชะโงก เป็นสถานที่ให้การศึกษาแก่ว่าที่นายทหารแห่งกองทัพไทย (ไม่แน่นะ หนึ่งในนั้นอาจจะมีที่เป็นว่าที่นายกฯ คนต่อไปก็ได้ สาวๆ ที่ไม่อยากเป็นแค่สะใภ้นายกฯ ต้องจับตาดูให้ดี) ใน รร.นายร้อย จปร. มีสถานที่น่าสนใจเกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เช่น พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ศาลาวงกลม อาคารพิพิธภัณฑ์โรงเรียนนายร้อย จปร.100 ปี ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน
วัดเขาชะโงก และ พระพุทธฉาย
ซึ่งเป็นภาพเขียนสีติดอยู่กับชะโงกผาบนภูเขาเตี้ย ๆ และถ้าเดินไปทางด้านหลังวัดพระฉายจะพบ “น้ำตกพระฉาย” เป็นน้ำตกเล็ก ๆ มีแอ่งน้ำที่สามารถเล่นน้ำได้ด้วย

นอกจากการเที่ยวชมสถานที่น่าสนใจดังกล่าวแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกตื่นเต้นผจญภัยในค่ายทหารแห่งนี้ด้วยการขับรถหรือขี่จักรยานเที่ยวชมรอบบริเวณ หรือจะชมน้ำตก ดูนก ยิงปืน เรือแคนู กอล์ฟ ไต่หน้าผาจำลองและหน้าผาจริง หรือจะเดินป่าและพักแรมที่เขาชะโงกก็ได้ แต่ถ้าจะไปต้องติดต่อล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ กันก่อน ติดต่อได้ที่สำนักงานการท่องเที่ยว รร.นายร้อย จปร. โทรศัพท์ 0-3739-3185, 0-3739-3010-4 ต่อ 62960-2

นครนายกยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกอย่างคือ เมืองโบราณดงละคร ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 9 ก.ม. แต่เดิมเรียกกันว่า “เมืองลับแล” เป็นสถานที่ตั้งเมืองโบราณสมัยทวารวดีและขอม สันนิษฐานว่าน่าจะมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับเมืองศรี
มโหสถที่จังหวัดปราจีนบุรี เพราะเมืองทั้งสองอยู่ห่างกันเพียง 55 กิโลเมตร มีตำนานเมืองนั้นเล่ากันว่า เมืองนี้เคยเป็นเมืองของราชินีขอมซึ่งเป็นที่รโหฐานผู้อื่นไม่สามารถเข้าออกได้ง่ายนัก ประกอบกับลักษณะของบริเวณเมืองมีต้นไม้สูงขึ้นอยู่ทั่วไปใครเข้าไปแล้วอาจหาทางออกไม่ได้ จะต้องวนเวียนอยู่ในดงนั้นเอง และวันโกนวันพระจะได้ยินเสียง กระจับปี่ ซอ ปี่พาทย์ มโหรีขับกล่อมคล้าย ๆ กับมีการเล่นละครในวัง ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า “ดงละคร” หรืออีกนัยหนึ่งคำว่า “ดงละคร” นั้นอาจเพี้ยนมาจาก“ดงนคร” ตอนนี้กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว

ส่วนที่บอกแต่ต้นว่านครนายกมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์เกษตร ผลไม้ที่ขึ้นชื่อ
ของที่นี่คือมะปรางหวานและมะยงชิด (มะปราง คือผลไม้ที่มีรสหวาน ในขณะที่มะยงชิด ซึ่งอยู่ในสายพันธุ์เดียวกันจะมีรสเปรี้ยว) ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ของทุกปีจะมีงานวันมะปรางหวานและของดีนครนายก นอกจากนี้ยังมีสวนอนุรักษ์พันธุ์ทุเรียน สวนดอกไม้ดาหลา สวนผลไม้บ้านท่าด่าน และอีกหลายๆ สวนที่เปิดให้เข้าเยี่ยมชมและชิมได้

แต่ที่เป็นหนึ่งในอันซีน 2 ของจังหวัดก็คือ ศูนย์ไม้ดอก ไม้ประดับ คลอง 15 อ.องครักษ์ ที่นี่มีพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิดที่เพาะชำ ทาบกิ่ง ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จัดส่งไปยังแหล่งจำหน่ายต่างๆทั่วประเทศและต่างประเทศ นับว่าเป็นแหล่งเพาะขยายพันธุ์พืชทั้งไม้ดอกไม้ประดับต่าง ๆ ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีบอนไซ ไม้ถัก ซึ่งสามารถแวะชมและเลือกซื้อได้ในราคาขายส่ง และที่ศูนย์สาธิตการตลาดหมู่ 11 ซึ่งตั้งอยู่ในที่ทำการกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรสันติธรรมสามัคคี (บริเวณสวนป้าผาด) มีวัสดุเพาะชำต้นไม้ขายในราคาถูกหาไม่ยากจากปากคลองตรงไปตามถนนเรื่อย ๆ ถึงวัดสันติธรรมไปทางแยกขวามืออีกประมาณ 2-3กิโลเมตร ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ของทุกปีก็จะมี งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับองครักษ์

ก่อนจะกลับอย่าลืมหาของดีของจังหวัดติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้านด้วย มีทั้งผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ ที่เขาเอา เหง้าไม้ไผ่ มาแกะสลักเป็นรูปหน้าคนได้อย่างสวยงามและเหมือนจริง นอกจากนี้ยังทำเป็นเรือใบ นกยูง และอีกหลายแบบ ไม้กวาด และผลิตภัณฑ์หินอ่อนสวยๆ อย่างแจกัน กาน้ำ นาฬิกา กำไล โคมไฟ ก็น่าสน ผลไม้แช่อิ่มสารพันอย่างก็น่ากิน

นครนายกจึงเป็นเมืองในฝันที่ใกล้กรุงและมีธรรมชาติสวยๆ มาเสริมเพิ่มเสน่ห์ ซึ่งน่าจะหาโอกาสไปสัมผัสและเที่ยวชมกันดูบ้าง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลาง เขต 8 โทรศัพท์ 0-3731-2282

กำลังโหลดความคิดเห็น