xs
xsm
sm
md
lg

“ปราสาทสัจธรรม”งามล้ำด้วยภูมิปัญญาตะวันออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หากใครที่เป็นแฟนานุแฟนยุทธจักรนิยายกำลังภายในของ “โก้วเล้ง” ก็อาจจะเคยผ่านสายตากับประโยคหนึ่งที่โก้วเล้งมักกล่าวถึงเสมอนั่นก็คือ

“ชื่อ”กับ“ฉายา”นั้นมีความแตกต่างกัน

ชื่อไม่จำเป็นที่จะต้องสะท้อนตัวตนของคนๆนั้น หรือสะท้อนพฤติกรรมและเรื่องราวที่คนๆนั้นกระทำออกมา

แต่กับฉายา นั้นก็เปรียบดังการสะท้อนความเป็นตัวตน พฤติกรรมและเรื่องราวที่คนๆนั้นกระทำออกมา

เรื่องนี้ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” เห็นว่ามันดูสอดคล้องกับเรื่องราวของชายชื่อ “เล็ก วิริยะพันธุ์” เสียเหลือเกิน

เพราะชายคนนี้แม้ชื่อ “เล็ก” แต่ว่ากับสิ่งที่เขากระทำและสร้างสรรค์นั้นมันช่างตรงกันข้ามกับชื่อโดยสิ้นเชิง

เมืองโบราณเอย พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณเอย ปราสาทสัจธรรมเอย ถือเป็น 3 สิ่งอันยิ่งใหญ่ที่ชายคนนี้ได้สร้างสรรค์ขึ้นในเมืองไทยเมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่

สำหรับ “ผู้จัดการท่องเที่ยว”นั้นก็เคยเขียนถึงผลงานของคุณเล็กมาแล้ว 2 แห่ง นั่นก็คือ เมืองโบราณ และพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ที่ต่างก็ตั้งอยู่ใน จ.สมุทรปราการทั้งคู่ ส่วนปราสาทสัจธรรม ยังไม่เคยเขียนถึงแบบจริงๆจังๆ มีบ้างก็เพียงแย็บผ่านๆ

แต่ไหนๆก็เขียนไปแล้ว 2 ที่ และพร้อมๆกับที่มีคนถามไถ่มาว่าเมื่อไหร่จะเขียนถึงปราสาทสัจธรรมบ้าง เพราะหลายๆคนที่ไม่มานอกจากจะกล่าวขวัญถึงในความงดงามที่น่าทึ่งแล้ว บางคนยังบอกอีกว่าหากปราสาทสัจธรรมสร้างเสร็จไม่แน่นะ นี่อาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแห่งยุคโลกาภิวัตน์ก็ได้

เมื่อจังหวะและเวลาประจวบเหมาะเราจึงเดินทางสู่เมืองพัทยา เพื่อไปค้นหาอีกแง่มุมหนึ่งที่แตกต่างออกไปจากพัทยาที่คนทั่วๆไปรู้จัก

มหัศจรรย์ปราสาทไม้ริมชายหาด

ณ ชายหาดแหลมราชเวช พัทยา สุดซอยนาเกลือ 12

“ผู้จัดการท่องเที่ยว” พาตัวเองผ่านเข้าไปในกำแพงใหญ่ ที่มีป้ายบอกว่าเป็นที่ตั้งของปราสาทสัจธรรม หลังจากที่เสียค่าผ่านประตู ตอนแรกเราก็เห็นว่าไม่ค่อยมีอะไร เอ...แล้วมันจะคุ้มกับค่าตั๋ว 500 บาทหรือเปล่า เพราะเท่าเห็นเบื้องหน้าเป็นเพียงสวนหย่อมที่มีเพียงงานแกะสลักไม้จำนวนหนึ่งตั้งตากแดดฝนอยู่

แต่พอขับรถไปตามเส้นทางที่เจ้าหน้าที่แนะนำ โดยเราไปยืนชมความงามพร้อมกับถ่ายรูปปราสาทที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ ณ โค้งหาด มีกำแพงเตี้ยๆทอดโค้งยาวเพื่อกั้นน้ำทะเลกับตัวปราสาทตามแนวหาด และเมื่อยิ่งเดินเข้าไปสู่ตัวปราสาท เราได้เห็นกันแบบเต็มตากับงานศิลปสถาปัตยกรรมไม้ ที่ยิ่งดูก็ยิ่งน่าพิศชวนมองมากขึ้นเรื่อยๆ

ครั้นพอมาถึงยังหน้าปราสาทที่เพียงแค่มองจากด้านนอกก็ต้องอึ้งแล้วว่า โอ้ว!!! อะไรมันจะอลังการงานสร้างขนาดนั้น โดยรูปแกะสลักตามจุดต่างๆ ไม่ว่า จะเป็นตามเสา ยอดจั่ว ค้ำยัน ฐานปราสาท ดูแล้วไม่มีรูปไหนซ้ำกันเลย นับเป็นงานศิลปะแกะสลักไม้ที่น่าพิศชวนมองไปหมด

แต่ก่อนที่จะเข้าไปชมความยิ่งใหญ่ สวยงามและความน่าทึ่งภายในปราสาทแห่งนี้ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” อยากจะขอเล่าคร่าวเกี่ยวกับความเป็นมาของปราสาทหลังนี้คร่าวๆ

สำหรับปราสาทสัจธรรมหลังนี้ เริ่มสร้างเมื่อปี 2524 โดยคุณเล็กได้สร้างปราสาทหลังนี้ขึ้นจากศรัทธาที่มีต่อ ศาสนา ปรัชญา ในโลกตะวันออก ด้วยมุ่งหวังที่จะสร้างผลงาชิ้นนี้ให้กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย และต้องการให้มนุษย์ตระหนักในสัจธรรมแห่งชีวิต

ทางด้านลักษณะของปราสาท จัดเป็นงานไม้ทรงไทยจตุรมุข มีหลังคาลดหลั่นกันมาทั้ง 4 ด้าน(สูงประมาณ 100 เมตร) ที่ยอดสูงสุด(สูงประมาณ 105 เมตร)ประดับด้วยรูปแกะสลักองค์เทพ เทวดา นางฟ้า ในท่าต่างๆแทนการใช้ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ นอกจากนี้ศิลปะต่างๆที่ปรากฏในปราสาทหลังนี้ก็เป็นการนำศิลปะและปรัชญาที่แสดงถึงภูมิปัญญาตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น จีน ไทย อินเดีย เขมร มาผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืน โดยปราสาทแห่งนี้ นับเป็นปราสาทไม้ที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก แถมวิธีการก่อสร้างก็ใช้วิธีการของช่างโบราณ คือไม่ใช้ตะปู แต่จะใช้การเข้าเดือย ตอกลิ่ม ตอกสลักแทน

ณ ปัจจุบันนี้ปราสาทสัจธรรมยังคงดำเนินการสร้างไปเรื่อยๆ และคาดว่าจะเสร็จในอีก 15 ปีข้างหน้า แต่ว่าก็ได้เปิดให้คนเข้าไปเที่ยวชม สัมผัสความงามกันมานานแล้ว

“ผู้จัดการท่องเที่ยว” ขอเล่าเกี่ยวกับปราสาทสัจธรรมแค่พอหอมปากหอมคอ ที่เหลือเราไปเดินดูกันดีกว่า เริ่มจากเดินเข้าไปตรงบันไดก็จะมีรูปสลักนางอัปสราของหลายชาติยืนต้อนรับเชิญชวนให้เดินเข้าไปภายใน ที่พอเข้าไปก็เหมือนกับว่าเราไปอยู่ในโลกแห่งงานศิลปะแกะสลักไม้ที่ประณีตงดงาม ไม่รู้จะบรรยายยังไงหมด เพราะทุกซอกทุกมุมล้วนแต่มีงานแกะสลักชิ้นเยี่ยมๆให้ชมและสัมผัสแทบทั้งนั้น

เอาเป็นว่า ครั้งนี้ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ขอละเมิดกฎที่เคยอธิบายรายละเอียดของสถานที่ต่างๆ แต่ว่าเราขอนำภาพบางส่วนมาให้ดูแทน เพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายความน่าทึ่งของรูปสลักเหล่านี้ได้อย่างไร เรียกว่าต้องไปเดินพินิจพิจารณาดูเอาเองถึงจะซึบซาบในอรรถรสแบบเต็มเปี่ยม

และก็ใช่ว่าที่นี่จะงดงามเฉพาะงานแกะสลักไม้ที่มีให้เราชมแบบเป็นรูปธรรมได้ ในส่วนของเรื่องราวนามธรรมที่แฝงอยู่ในงานศิลปะ ก็มีมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ศาสนา ปรัชญา และที่โดดเด่นมากก็คือ บุษบกไม้แกะสลักอันสวยงามที่ตั้งอยู่ตรงกลางปราสาทที่ไม่มีรูปเคารพใดๆ เนื่องจากต้องการสื่อถึงความว่าง การหลุดพ้น ซึ่งหากใครเข้าไปแล้วเกิดจิตว่าง รู้สึกหลุดพ้น นั่นถือว่าบรรลุธรรมแล้ว

สำหรับคนธรรมดาอย่างเรา แค่ดูเอาความงาม ความเพลิดเพลินก็พอใจแล้ว แต่ก็ใช่ว่า “ผู้จัดการท่องเที่ยว”จะไม่พบสัจธรรมในปราสาทสัจธรรมเสียเมื่อไหร่หละ เพราะจากค่าตั๋วที่ราคา 500 บาท ที่หลายๆคนบ่นว่าราคาสูงนั้น แต่ก็มีอีกหลายๆคนที่มองว่า คุ้มค่ากับราคาแล้ว เพราะในเมื่อเจ้าของลงทุนสร้างสูง สร้างอย่างวิจิตรงดงาม ค่าเข้าชมก็ต้องสูงเป็นธรรมดา เรียกว่าแต่ละคนต่างก็มีความคิดนานาจิตตังต่างกันไป...สำหรับเราแล้วนี่ก็คือสัจธรรมข้อหนึ่งที่ชีวิตมักพบพานอยู่เสมอ 

*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *  

ปราสาทสัจธรรม เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 17.00 น. การเดินทางจากพัทยาสามารถใช้ถนนสุขุมวิทเดินทางผ่านพัทยาเหนือ สู่ตำบลนาเกลือแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเขตนาเกลือ เลี้ยวขวาที่ซอยนาเกลือ 12 ก็จะถึงปราสาทไม้สัจธรรมที่ตั้งอยู่ริมทะเล นอกจากนี้ที่สระน้ำในยริเวณปราสาท ทุกๆวัน ก็จะมีการแสดงปลาโลมา ให้ชมในเวลาประมาณ 15.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เมืองโบราณ จำกัด โทร. 0-3836-7229-30, 0-3836-7815

อาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม ได้เขียนถึงคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ไว้ในหนังสือที่รฤก เนื่องในการพระราชทานเพลิงศพคุณเล็ก เมื่อวันที่ 4 กันายายน พ.ศ. 2544 ซึ่งอธิบายความคิด วัตถุประสงค์ และความล่าช้าในการก่อสร้างปราสาทนี้ ได้เป็นอย่างดี

“ปราสาทสัจธรรม เป็นผลงานมาจากความคิดที่สวนกระแสกับชาวตะวันตกอย่างแท้จริง คือเห็นว่าเนื้อแท้ของมหาอำนาจทางตะวันตกไม่มีอะไรนอกจากการค้าสงครามที่แสดงออกด้วยการคิดเทคโนโลยีที่เป็นอาวุธยุทธภัณฑ์มามอมเมาและหลอกขายตะวันออก โลกไม่มีทางสงบเพราะเป็นสิ่งยั่วยุให้มนุษย์ขู่ฆ่าทำลายกัน ในขณะเดียวกันตะวันออก รวมทั้งคนไทยด้วย ต่างก็มัวเมาในความต้องการทางวัตถุจนละเลยศาสนาและปรัชญาที่เคยจรรโลงความเป็นมนุษย์ให้อยู่ในกรอบของศีลธรรมและมนุษยธรรมอย่างที่เคยมีมาแล้วในอดีต

คุณเล็กต้องการสร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่งทางศิลปกรรมเพื่อให้สื่อความหมายทางคุณธรรมและมนุษยธรรม เพื่อให้สื่อความหมายทางคุณธรรมและมนุษยธรรม ที่บรรดาศาสนาและปรัชญาเมธีในอดีตค้นพบและคิดขึ้นมาเพื่อสอนมนุษย์ให้อยู่อย่างสันติสุข ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คือสิ่งที่คุณเล็กได้อ่าน ได้ศึกษา และเลือกสื่อให้เหมาะสมกับกาลเทศะนั่นเอง

คุณเล็กเห็นว่าสิ่งสำคัญในโลกมีอยู่สามอย่าง คือ ฟ้า ดิน และมนุษย์ ปราศจากซึ่งสามสิ่งนี้ โลกก็ไม่เป็นโลก ความเป็นศูนย์กลางนั้น อยู่ที่มนุษย์ แต่การเป็นมนุษย์ได้นั้น หาใช่เป็นแต่เพียงการเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเยี่ยงสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไม่ หากต้องเรียนรู้และได้รับการอบรมทางคุณธรรม

คุณธรรมที่สำคัญก็คือ ความกตัญญูกตเวทีกับฟ้าดินและพ่อแม่ เพราะเป็นสิ่งที่ให้กำเนิดแก่สิ่งมีชีวิตทั่วไป คุณธรรมถัดมาก็คือ ความเมตตากรุณาและความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งล้วนเป็นคุณธรรมที่ค้ำจุนให้มนุษย์และสรรพสิ่งในโลกอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข คุณธรรมเหล่านี้ล้วนเป็นหลักอยู่ในทุกศาสนาและสื่อออกมาเป็นระบบสัญลักษณ์ในรูปแบบต่างๆ ทางศิลปกรรม ดังเช่นความเมตตากรุณาแสดงออกมาในลักษณะของการเคารพกราบไหว้พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือพระกวนอิม ในขณะที่ความซื่อสัตย์สื่อออกมาในรูปแบบของการทำพิธีกรรมไหว้เทพเจ้ากวนอู เป็นต้น

คุณเล็กชื่นชมในความยิ่งใหญ่ของคนตะวันออก ในความคิดในเรื่องของมนุษย์ทางจิตวิญญาณ ที่ทำให้เกิดความเชื่อและการอธิบายจักรวาลได้อย่างสลับซับซ้อน โดยใช้ศิลปะเป็นสื่อในรูปลักษณ์ต่างๆ ซึ่งล้วนแต่มีตำนานและคำอธิบายที่แฝงไปด้วยคุณธรรมที่จะธำรงโลก

ปราสาทสัจธรรมของคุณเล็กก็คิดขึ้นมาจากฐานความคิดเหล่านี้ ตัวปราสาทก็เปรียบเสมือนเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโลกและเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ในระดับภพภูมิมีที่สูงขึ้นไปก็เป็นที่สถิตของเทพเจ้า ที่ล้วนแล้วแต่เป็นตัวแทนของสถานต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าอินเดีย จีน เขมร และอื่นๆ ล้วนนำมาประดับตกแต่งให้แลเห็นความเคลื่อนไหวที่คึกคัก โดยมุ่งหมายในบริเวณตรงกลางภายในปราสาทเป็นที่ตั้งของบุษบกที่ว่างเปล่า ไม่มีรูปเคารพที่ศักดิ์สิทธิ์อันใดประดิษฐานไว้ เพราะต้องการให้เป็นที่นั่งของมนุษย์ที่ประพฤติดีมีคุณธรรม

ความคิดเช่นนี้ไม่ใช่ของใหม่อะไรที่คุณเล็กคิดขึ้นเอง หากเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในคัมภีร์ไตรภูมิทางพระพุทธศาสนาที่เชื่อว่า พระอินทร์ผู้เป็นใหญ่ในเทพเจ้านั้น เป็นตำแหน่งของผู้ที่บำเพ็ญคุณงามความดีที่สะสมกันมาหลายชาติหลายภพ เมื่อเทพองค์เดิมที่ดำรงตำแหน่งหมดวาระไป เพราะต้องไปจุติในภพภูมิอื่น ผู้ที่มีบุญบารมีท่านอื่นก็เข้ามาแทนที่ เหตุที่คิดเช่นนี้ ก็เพราะคุณเล็กมีความเชื่อในมิติทางจิตวิญญาณและความศักดิ์สิทธิ์เยี่ยงคนตะวันออกทั้งหลาย มนุษย์แม้ว่าจะเป็นฝุ่นธุลีของจักรวาลก็ตาม แต่ถ้าคุณธรรม ก็สามารถยกระดับจิตให้สูงขึ้นจากความรู้สึกนึกคิดและสันดานของความเป็นสัตว์เดรัจฉานมาเป็นมนุษย์และเทวดาในภพภูมิต่างๆ จนในที่สุดก็รวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล

เมื่อแรกเริ่ม ปราสาทสัจธรรมก็เป็นสถาปัตยกรรมโบราณรูปปราสาทจัตุรมุขขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยไม้ แต่ยิ่งทำไปความโดดเด่นกลับไปที่การแกะสลักรูปประติมากรรมของเทพเจ้าและสัตว์เนรมิตในเทวนิยายที่มากมายหลายขนาดมาประกอบ ทั้งในลักษณะประดับและการแสดงสัญลักษณ์ของความหมายทางศาสนาและปรัชญา เลยกลายมาเหมือนกับการสร้างหรือแกะภูเขาไม้ทั้งเขา ทั้งภายนอกและภายใน เป็นเรื่องที่ไม่มีวันเสร็จง่ายๆ ในอายุขัยของคุณเล็ก เพราะการสร้างปราสาทหลังนี้คุณเล็กสร้างเมื่ออายุใกล้จะเจ็ดสิบปีแล้ว”


กำลังโหลดความคิดเห็น