xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยวเมืองร้อยเกาะ เลาะชิมของดี ที่สุราษฎร์ธานี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หอยที่ไหนใหญ่ ไข่ที่ไหนแดง ?” .....(ตึ๊ก..ตึ๊ก...ตึ๊ก...ให้เวลาคิด 3 วินาที)

นี่ไม่ใช่คำถามทะลึ่งชวนให้คิดลึกหรือคิดนาน เพราะมีคำตอบที่รู้ๆกันดีอยู่ว่าดึงมาจากคำขวัญประจำจังหวัดที่แสนจะมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เป็นที่จดจำของคนทั่วประเทศ นั่นคือ " เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ " ดังนั้นเพียงแค่เอ่ยโดยไม่ต้องมีคำบรรยายเพิ่ม ก็ร้องอ๋อแล้วบอกว่า “หอยใหญ่ ไข่แดง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นคำตอบสุดท้าย” ......ถุ..ถุ. ถูกต้องนะคร้าบบบบ

สุราษฎร์ธานี จังหวัดที่แปลว่าเมืองแห่งคนดีนี้ เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ก่อนเคยมีชื่อเดิมว่าเมืองไชยา และในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางอาณาจักรศรีวิชัย แม้ในปัจจุบันก็ยังเป็นจังหวัดใหญ่และสำคัญจังหวัดหนึ่งของภาคใต้ มีทั้งที่เที่ยวและเรื่องราวน่าสนใจมากมาย ทั้งทะเล เกาะแก่ง ภูเขา สถานที่สำคัญทางศาสนา ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี รวมทั้งของกินของฝากก็ล้วนแต่มีชื่อทั้งนั้น

สิ่งสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวสุราษฎร์ และเป็นสิ่งที่ผู้มาเยี่ยมมาเยือนต้องแวะไปนมัสการก็คือ พระบรมธาตุไชยา อยู่ที่วัดพระบรมธาตุไชยาวรวิหาร อำเภอไชยา ก่อนถึงตัวเมืองประมาณ 54 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สร้างในสมัยศรีวิชัยมีอายุกว่า 1,200 ปี องค์พระเจดีย์เป็นโบราณสถาน ที่สร้างขึ้นตามแบบลัทธิมหายาน รอบองค์พระธาตุมีเจดีย์เล็กๆ 4 ทิศ ล้อมรอบด้วยวิหารคด ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ขนาดต่างๆ โดยรอบทั้ง 4 ด้าน ใกล้ๆ กันนั้นก็เป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา ซึ่งจัดแสดงประติมากรรมศิลาและสัมฤทธิ์ที่พบในบริเวณเมืองเก่าไชยา อย่างเช่นเทวรูปพระนารายณ์ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร นอกจากนี้ยังจัดแสดงงานประณีตศิลป์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจอีกมาก

ความรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาตั้งแต่อดีตนี้เอง จึงเป็นที่มาของคำขวัญจังหวัดที่ว่า “แหล่งธรรมะ” นอกเหนือจากวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ยังมี วัดแก้ว วัดหลง อำเภอไชยา วัดเวียง อำเภอเวียงสระ วัดถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม วัดเขาพระอานนท์และวัดเขาศรีวิชัย อำเภอพุนพิน แต่ที่เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของชาวพุทธทั้งไทยและต่างประเทศ ก็คือ สวนโมกขพลาราม หรือ วัดธารน้ำไหล เรียกสั้นๆ ว่า "สวนโมกข์" ซึ่ง ท่านพุทธทาส ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2502 เป็นวัดที่แปลกไม่มีสิ่งก่อสร้างเป็นโบสถ์วิหาร มีแต่สวนธรรมชาติที่ร่มรื่น เหมาะแก่การวิปัสสนาธรรม มีศาลาโรงธรรม ประมวลภาพวาด บทกวี และคติธรรมคำสอนในพุทธศาสนานิกายต่าง ๆ จำนวนมาก รวมเรียกว่า โรงมหรสพแห่งวิญญาณ ซึ่งทุกแห่งของสวนโมกข์สามารถศึกษาธรรมะได้อย่างเข้าใจถึงแก่นแท้ของพุทธศาสนา ใกล้ ๆ กับสวนโมกขพลารามมี สวนรุกขชาติเขาพุทธทอง เป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่มีค่าไว้มาก

ไม่ใช่แค่เป็นเมืองธรรมะ สุราษฎร์ธานียังนับเป็น “เมืองร้อยเกาะ” เพราะความที่มีเกาะเป็นร้อยๆ ถ้าจะเที่ยวก็คงเที่ยวไม่หมด เลยต้องคัดเฉพาะเกาะดังๆ มาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งแต่ละเกาะก็มีความหลากหลายของธรรมชาติแตกต่างกันไป เริ่มกันที่ เกาะสมุย เกาะที่เป็นที่รู้จักและรวบรวมสีสันไว้มากมายไม่ต่างจากภูเก็ตหรือพัทยา ซึ่งตอนนี้กระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ประกาศยกเกาะสมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยวอาหารสะอาด ปลอดภัย เป็นอำเภอแรกของประเทศ ส่วนชายหาดที่สวยงามก็มีหลายแห่งอยู่รอบเกาะ ชายหาดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพักผ่อนกันมาก คือ หาดเฉวง หาดละไม หาดท้องยาง หาดท้องตะเคียน และหาดเชิงมน ส่วนแหล่งดูปะการัง จะอยู่บริเวณชายฝั่งของเกาะสมุย รวมทั้งที่อยู่ติดกับเกาะอื่นๆ ไปเที่ยวสมุยแล้วก็อย่าเพลินจนลืมแวะไปทักทายบรรดาคุณจ๋อแสนรู้ที่ ศูนย์ลิงสมุย มีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยและชมการแสดงการฝึกลิงที่จะเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี

ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศเหนือ 20 กิโลเมตร คือ เกาะพะงัน เกาะที่มีชายหาดขาวน้ำทะเลใสน่าเล่นน้ำหลายหาด ร่มรื่นด้วยทิวไม้ริมชายหาด ความเงียบสงบของชายหาดต่างๆบนเกาะเป็นเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวจะได้พบ โดยมี หาดริ้น เป็นชายหาดที่สวยและมีชื่อเสียงของเกาะพะงัน และยังเป็นที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาชุมนุมกันในวันพระจันทร์เต็มดวง หรือ ฟูลมูน ปาร์ตี้ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนนับพันคนมาเต้นรำกันอย่างสนุกสนานจนมีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก แต่ตอนนี้ชื่อเสียงที่ว่ามักจะเป็นไปในทางไม่ดี เพราะมักจะมียาเสพติดเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย แถมพองานเลิกก็จะมีทั้งขยะทั้งคนเมาอยู่เกลื่อนหาด เห็นแล้วเลยกลายเป็นภาพที่ไม่งามไปแทนเสียนี่

เมื่อดูในแผนที่จะเห็นมีเกาะหนึ่งที่ตั้งโดดเดี่ยวในอ่าวไทยรูปร่างคล้ายเม็ดถั่ว นั่นก็คือ เกาะเต่า ในอดีตเคยเป็นที่กักขังนักโทษการเมือง (กบฎบวรเดช) สมัยการปกครองของคณะราษฎร์ นับว่าเป็นอีกเกาะที่มีหาดทรายขาวสวยสงบน่าพักผ่อนหลายหาด และยังมีความสวยงามสมบูรณ์ของชีวิตใต้ทะเล เรียกว่าเป็นอีกที่ที่นักดำน้ำจะต้องนึกถึง มีโรงเรียนสอนดำน้ำหลายโรงเรียนที่มักจะมีนักดำน้ำหน้าใหม่แวะเวียนมาเรียนกันอยู่เสมอ อีกหนึ่งเกาะสวยที่ไม่น่าพลาดและอยู่ใกล้กับเกาะเต่า ก็คือ เกาะนางยวน เป็นเกาะที่มีเกาะเล็ก ๆ 3 เกาะ สามารถเห็นหาดทรายเชื่อมกันเวลาที่น้ำลง เป็นเกาะที่มีหาดทรายเนื้อละเอียดขาว น้ำทะเลใส น่านั่งเล่นและพักผ่อนสำหรับผู้ที่นิยมความสงบ และยังมีปะการังน้ำตื้นและน้ำลึกที่สมบูรณ์สวยงาม บนเกาะยังมีจุดชมวิวที่สามารถจะมองหาดทรายสามหาดเชื่อมต่อกันได้อย่างสวยงาม

ถ้าจะไม่พูดถึง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ก็ดูจะกระไรอยู่ เพราะมีสารพันเกาะที่น่าสนใจอย่าง เกาะวัวตาหลับ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เมื่อขึ้นไปสู่จุดชมวิวบนยอดเขาจะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองทั้งหมดทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาวไปบนพื้นน้ำด้วยรูปร่างลักษณะต่างๆ แปลกตา ทะเลใน หรือทะเลสาบกลางภูเขา อยู่บนเกาะแม่เกาะเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาโดยเกิดจากแอ่งหินปูนที่ยุบตัว ต้องนั่งเรือยนต์จากที่ทำการอุทยานฯไปประมาณ 15 นาที และเดินเท้าตามทางเดินสู่จุดชมวิวอีก400 เมตร ทะเลในแห่งนี้มีเนื้อที่ 30 ไร่ โอบรอบด้วยโขดเขาและแมกไม้ปกคลุม น้ำนิ่งสงบใสราวกับสีมรกต

อีกหนึ่งที่น่าสนใจไม้แพ้กันคือ อุทยานแห่งชาติเขาสก สภาพโดยทั่วไปเป็นภูเขาดิน และภูเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อน มีแนวหน้าผาสูงชัน มีป่าไม้และสัตว์ป่าอุดมสมบูรณ์ พันธุ์ไม้หายากที่พบในเขตอุทยานฯ คือ บัวผุด ซึ่งเป็นดอกไม้ขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 10-25 นิ้ว มีกลิ่นเหม็นคล้ายซากสัตว์เน่าเปื่อย ดอกบัวผุดนี้จะมีอายุการเจริญเติบโต 9 เดือน เพื่อเบ่งบานเพียง 3-5 วันแล้วเน่าสลายไป จึงนับว่าเป็นการยากที่จะพบเห็นโดยปกติ

เขื่อนเชี่ยวหลาน อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก จัดเป็นเขื่อนประเภทอเนกประสงค์ ที่ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ทั้งด้านการชลประทาน การบรรเทาอุทกภัย การกักเก็บน้ำ การเจือจางน้ำเสียและผลักดันน้ำเค็ม การประมง การท่องเที่ยว การผลิตไฟฟ้าได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้ใหม่ว่า เขื่อนรัชชประภา มีความหมายว่า "แสงสว่างแห่งรัชกาล" หลายคนขนานนาม เขื่อนเชียวหลานแห่งนี้ว่า เป็น กุ้ยหลินเมืองไทย ด้วยความงดงามของภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตาสลับซับซ้อน ตั้งตระหง่านเทียมเมฆ ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวที่ดูอบอุ่นเย็นสบายเป็นเหมือนแดนสวรรค์ที่คนที่หลุดเข้าไปจะต้องตะลึงในความยิ่งใหญ่สวยงามของธรรมชาติ

เที่ยวเพลินจนเหนื่อยครานี้ก็ถึงคราวตะลุยหาของกินของฝากกันเริ่มที่ เงาะโรงเรียน เงาะที่ขึ้นชื่อว่าอร่อย เนื้อกรอบ หวานหอม มีปลูกกันมากอย่างเป็นล่ำเป็นสันและมีชื่อเสียงเป็นที่นิยมของผู้บริโภคก็คือ อำเภอบ้านนาสาร โดยจะมีการจัด งานวันเงาะโรงเรียน ประมาณต้นเดือนสิงหาคมของทุกปี มีประวัติเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 2468 มีชาวจีนสัญชาติมาเลเซีย ชื่อนายเค วอง ได้นำเมล็ดเงาะมาปลูกข้างบ้านพัก ต่อมาได้ขายที่ดินพร้อมบ้าน ให้กระทรวงธรรมการ (กระทรวงศึกษาธิการ) ซึ่งได้ปรับปรุงใช้เป็นสถานที่เรียน เงาะที่นายเค วอง ปลูกไว้ก็ได้ขยายพันธุ์เพิ่มจึงเรียกว่า เงาะโรงเรียน ในปี พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้นำชาวสวนเงาะได้ขอพระราชทานชื่อพันธุ์เงาะนี้เสียใหม่ แต่ทรงมีพระราชดำรัสว่า "ชื่อเงาะโรงเรียนดีอยู่แล้ว" ตั้งแต่นั้นมาเงาะพันธุ์นี้จึงได้ชื่อว่า เงาะโรงเรียน อย่างเป็นทางการ


จบจากกินเงาะก็จะพาไปแงะหอย ซึ่งหอยใหญ่ๆ ที่ทายกันแต่ต้นนั้นเป็น หอยนางรม ขาวๆอวบๆ เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ในหมู่นักชิมว่าเป็นอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อมีรสชาติอร่อยชวนทาน หอยนางรมมี 2 ชนิด คือ ชนิดพันธุ์เล็ก เรียกว่า หอยเจาะ ชนิดพันธุ์ใหญ่ เรียกว่า หอยตะโกรม ส่วนไข่แดงๆ นั้นก็คือ ไข่เค็มไชยา ซึ่งเป็นไข่เค็มที่ทำจากไข่เป็ดที่เลี้ยงในเขตอำเภอไชยา มีลักษณะพิเศษ คือไข่แดงมีมากกว่าไข่ทั่วไปและมีสีแดงจัด สีสันมันวาว ถือเป็นของดีมีชื่อที่ส่งขายไปทั่วประเทศสร้างรายได้งามๆแก่ชาวไชยาเป็นอย่างดี

เป็นทั้งจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดของภาคใต้และเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สุราษฎร์ธานีจึงเป็นอีกที่หนึ่งที่รวบรวมความน่าเที่ยวน่าสนใจไว้มากมาย กลายเป็นเสน่ห์ที่ชวนให้อยากไปแวะเยี่ยมเยือนได้บ่อยๆ โดยไม่รู้เบื่อ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามข้อมูลท่องเที่ยว ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้เขต 5 โทรศัพท์ 0 -7728- 8818-9

กำลังโหลดความคิดเห็น