xs
xsm
sm
md
lg

“ทุ่งบัวสวรรค์”อุทยานฯไทรทองไม่เคยผิดสัญญา กลับมาทุกๆหน้าฝน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ฟ้าในเดือนฝนฉ่ำ คงนึกขำต่อคำสัญญา
ฝนหล่นเทร่วงมา สายลมพัดพายิ่งรนร้อนใจ
ไหนว่าไปแล้วกลับหน้าฝน ใครเป็นคนสัญญาเอาไว้
ทิ้งให้รอทุกข์ทนเท่าไหร่ คนอย่างนี้ก็มี”


น่าเศร้า...น่าเศร้าเสียจริงๆ กับบทเพลง “สัญญาหน้าฝน” ของ “น้าเขียว คาราบาว” หนุ่มใหญ่หนวดงาม ลูกสาวน่ารัก

“ผู้จัดการท่องเที่ยว” เชื่อว่าชายใดเจอเหตุการณ์อย่างในบทเพลงนี้ก็คงจะต้องโศกาอาดูรเช่นเดียวกัน ลองคิดดูสิ สาวเจ้าเธอทำได้ เล่นทิ้งให้ไอ้หนุ่มคนซื่อเฝ้ารอ แล้วบอกว่าจะกลับมาในหน้าฝน แต่ที่ไหนได้หายจ้อย...

เฮ้อ...ก็อย่างว่าและจิตใจผู้หญิงเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ สัญญาว่าจะกลับมาหน้าฝนก็ไม่กลับมา เรียกว่าต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับดอกกระเจียวที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว(อ่านว่าหนอง-บัว-ระ-เว๋) จ.ชัยภูมิ ที่พอฝนมาทีไร มวลหมู่ดอกระเจียวที่ซ่อนกายอยู่ใต้ดินที่นี่ต่างก็พากันผลิดอกออกใบขึ้นมาชูช่อไสวท้าทายสายลม แสงแดด สายสม สายฝน อยู่เนืองนิตย์เป็นประจำทุกปี

เรียกว่า แม้สาวเจ้าเธอจะลืมสัญญากับไอ้หนุ่มคนซื่อ แต่ดอกกระเจียวที่ อุทยานแห่งชาติไทรทองไม่เคยลืมสัญญา ดอกไม้เจ้ากลับมาเบ่งบานเป็นประจำในหน้าฝนของทุกๆปี เพียงแต่จะมาช้าหรือมาเร็วก็ขึ้นอยู่กับการมาของฝนในแต่ละปี

ฝนมาเร็วกระเจียวก็มาเร็ว ฝนมาช้ากระเจียวก็มาช้าตามไปด้วย

“ปีก่อนๆพอถึงช่วงปลายเดือนมิถุนาฯอย่างนี้ ดอกกระเจียวที่อุทยานฯไทรงามก็จะบานเต็มทุ่งแล้ว แต่ปีนี้ฝนมาช้า ทำให้ดอกกระเจียวพลอยบานช้าไปด้วย ตอนนี้บานสักประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์เห็นจะได้ ที่เห็นขึ้นเยอะๆก็จะเป็นที่ทุ่ง 2 น่ะ” พี่มานิต เพชรล้ำ บอกกับ “ผู้จัดการท่องเที่ยว”ในระหว่างที่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ พาเราเดินจากลานจอดรถเพื่อมุ่งหน้าสู่ทุ่งดอกกระเจียว แห่งอุทยานฯไทรทอง

สำหรับเส้นทางสายดอกกระเจียวนี่ก็ไม่ใช่มีแค่ดอกกระเจียวให้ชมเท่านั้น แต่ว่าตลอดรายทางมีอะไรให้ดูมากมาย จุดแรกเป็นจุดชมวิวผาพ่อเมือง ที่เมื่อมองลงไปเห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลของ จังหวัดชัยภูมิได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากมองในแง่ของจุดชมวิวที่ผาพ่อเมืองนี่ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่เลยสักนิด

แต่ก็ดูเหมือนว่าผาพ่อเมืองจะโดนขโมยซีนไปหมด เพราะใครเมื่อมาเยือนอุทยานฯไทรทอง ต่างก็ไม่ค่อยจะพูดถึงผาแห่งนี้ เนื่องจากผาที่อยู่ใกล้ๆกันนั้นชื่อของมันช่างโดนใจเสียเหลือเกิน

“ผาหำหด” ...จ๊าก!!! คือชื่อที่ทางอุทยานฯภูมิใจนำเสนอ เป็นไงหละโดนมั๊ย ถามพี่มานิตไป ถามพี่มานิตมา ก็ถึงได้รู้ว่า พี่แกนี่แหละ เป็นคนตั้งชื่อของผาหำหด โดยพี่มานิตตั้งจากความรู้สึกของตัวเอง เมื่อสมัยที่พบผาแห่งนี้ใหม่ๆ

อะฮ้า ?!? และก็ไม่ใช่แค่ชื่อเท่านั้นที่โดนใจ แต่บรรยากาศที่นี่ก็เจ๋งเอาเรื่องไม่เบา คือถ้าเราพูดถึงความงามของทิวทัศน์นั้นก็เรียกว่า สวยงามแบบมีองค์ประกอบครบ คือมีผาหินตัดเรียบ มีต้นไม้ 1 ต้นขึ้นอยู่ข้างๆ เป็นฉากหน้าในการถ่ายรูป ส่วนฉากหลังก็เป็น ผืนป่าเขียว เป็นเมือง และทิวทัศน์อันกว้างไกลของ อำเภอภักดีชุมพล และเทือกเขาซึ่งเป็นรอยต่อของจังหวัดชัยภูมิและเพชรบูรณ์

แต่ว่าที่เจ๋งและต้องจดจำก็คือ หากใครได้ไปนั่งหรือยืนบนชะง่อนหินที่ยื่นออกไปแบบโดดเดี่ยว มีเพียงเรากับแท่นหิน โดยมีเบื้องล่างเป็นเหวลึกนั่นแหละ ต้องจดจำไปพักใหญ่ เพราะมันทั้งสูงทั้งเสียว แต่ว่ายิ่งสูงยิ่งเสียวนี่ คนก็ยิ่งอยากลองไปนั่งพิสูจน์จิตใจกันเยอะทีเดียว

ยังไงๆ ใครที่จะไปนั่งตรงจุดนั้นหากกลัวความสูงก็แนะนำว่าอย่าไปเลย เดี๋ยวหน้ามืดตกลงไปชีวิตก็พลอยมืดมิดตามไปด้วย ส่วนใครที่ใจกล้าไม่กลัวก็ขอให้ระมัดระวังหน่อย เพราะหากตกลงไป ไม่สวรรค์ก็นรกนะแหละที่จะมารอรับคุณ

สำหรับ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ขอบอกว่า เรานะกึ่งเดินกึ่งคลานไปยืนวัดใจมาแล้ว และก็ช่ายเลย...โดนใจฉันเลย คือ “หดจริงๆ”

แต่เอ...ที่ยังคาใจก็คือ หากผู้หญิงมายืนที่นี่หละเธอไม่มีไอ้นั่นให้หด แล้วอะไรของเธอมันจะหดหนอ...

เฮ้อ...ไม่คิด...ไม่คิด ออกเดินต่อไปยังทุ่งดอกกระเจียวดีกว่า ซึ่งระหว่างทางจากผาหำหดสู่ทุ่งดอกกระเจียวในหน้าฝนอย่างนี้ถือว่าน่าดูไม่น้อย เพราะนอกจากจะเขียวชอุ่มแล้ว 2 ข้างทางยังเต็มไปด้วยต้นปรงที่ขึ้นเต็มพรึ่ด จนอาจจะเรียกว่าทุ่งปรงก็ว่าได้

เห็นต้นปรงเยอะอย่างนี้ ก็รู้สึกเห็นใจเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯไทรทอง ที่ต้องคอยดูแลต้นปรงกันอย่างใกล้ชิด เพราะต้นไม้ชนิดนี้ราคาถือว่าแพงเอาเรื่อง

“ผู้จัดการท่องเที่ยว” เดินไปชมต้นปรงไปสักพักใหญ่ แล้วเราก็เดินเข้าสู่ไฮไลท์แห่งอุทยานฯไทรทอง นั่นก็คือ “ทุ่งดอกกระเจียว” หรือ ที่ทางอุทยานฯเรียกว่า “ทุ่งบัวสวรรค์” ซึ่งที่นี่มีให้เลือกเดินชมถึง 5 ทุ่งด้วยกัน

เหตุที่เรียกว่าทุ่งบัวสวรรค์ก็เพราะว่า เจ้าดอกกระเจียวที่ขึ้นส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นพันธุ์ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “บัวสวรรค์" พันธุ์นี้กินไม่ได้ แต่ว่าสีสันของดอกที่ออกสีชมพูสดปนม่วงนิดๆ รวมถึงกิ่ง ก้าน ใบ ล้วนแต่กลมกลืนเข้ากัน ยิ่งเมื่อขึ้นรวมกันเป็นทุ่งนี่ต้องขอบอกว่างามนัก

อย่างกับวันที่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ไปเดินชมความงามของทุ่งบัวสวรรค์นั้น องค์ประกอบของธรรมชาติที่อุทยานฯไทรทอง มันช่างดูกลมกลืนเข้ากันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นหญ้าเพ็กที่ขึ้นเขียวสดทั่วบริเวณ มีต้นเต็ง ต้นรัง ที่ให้กิ่งก้าน ลำต้นหงิกงอ แปลกตา ขึ้นแซมเป็นระยะๆ มีก้อนหินที่หากอยู่โดดๆอาจจะดูแข็งกระด้าง แต่ว่าเมื่อมาขึ้นที่นี่แล้วกับดูเข้ากันดีกับมวลหมู่ดอกกระเจียวที่ออกดอกบานสะพรั่ง เรียกว่าสวยงามจับใจจริงๆ ไม่ว่าจะชมยามเช้าที่มีสายหมอกบางๆพัดผ่านท้องทุ่ง หรือยามบ่ายที่แสงสีทองของดวงอาทิตย์ส่องต้องทุ่งหญ้าและทุ่งดอกกระเจียวที่ให้สีชมพูสดอมม่วงเต็มท้องทุ่ง

และก็ใช่จะมีดีแค่ทุ่งบัวสวรรค์ เพราะที่อุทยานฯไทรทองยังมี “ดอกเทพอับสร” ที่เป็นดอกระเจียวสีขาวสด แต่ดอกเล็กกว่าและไม่ชูช่อหราเท่าบัวสวรรค์ขึ้นเป็นหย่อมๆให้ชม ที่เยอะที่สุดก็เห็นจะเป็นแถวทุ่งบัวสวรรค์ 2 ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่น่าไปเที่ยวชมที่อุทยานฯไทรทองไม่น้อย

สำหรับคนที่เดินชมความงามของทุ่งดอกกระเจียวที่อุทยานฯไทรทอง ก็ขอให้เดินชมในเส้นทางที่ทางอุทยานฯจัดไว้ให้ อย่าพยายามทำตัวเป็นพระเอก-นางเอกมิวสิค เดินออกนอกเส้นทางแบบว่าไปขอถ่ายรูปแบบใกล้ชิด หรือขอลูบ ขอจูบ ขอหอมดอกกระเจียวหน่อยเลย เพราะเป็นการทำร้ายทุ่งดอกกระเจียวแบบใจร้ายเกินไป ยังไงๆ หากยังรักและอยากดูทุ่งดอกกระเจียวแบบสวยๆงามๆ รวมถึงต้องการเก็บไว้ให้ลูกหลานดูตราบนานเท่านาน ก็ควรเดินตามทางที่อุทยานฯกำหนดไว้เถอะ เพราะว่าเขาจัดมุมสวยๆไว้ให้ถ่ายรูปเพียบอยู่แล้ว

ในวันนั้น “ผู้จัดการท่องเที่ยว” เพลิดเพลินอยู่กับการเดินชม การถ่ายรูปทุ่งดอกระเจียวอยู่ร่วมครึ่งวัน จากที่หากคนทั่วๆไปเดินชมก็จะประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก็แหม...มันสวยงาม สดชื่น และก็น่าเดินชมเสียขนาดนั้น ไหนๆมาทั้งทีก็ขอใช้เวลาให้เต็มที่หน่อย

จังหวะสุดท้ายก่อนที่จะอำลาทุ่งดอกกระเจียวเราอดไม่ได้ที่จะคิดไปถึงเพลง“สัญญาหน้าฝน” อีกไม่ได้ เพราะเนื้อร้องท่อนหนึ่งที่ร้องว่า

“...ฝนเจ้าจงไหลกลับ ไปรอรับคนผิดสัญญา
ฝนคอยสมนํ้าหน้า อย่าเพิ่งตกมาข้าแสลงใจ
เดือนเป็นปีล่วงผ่านไปแล้ว แก้วตาเจ้าแหกตาใช่ไหม
รู้อย่างงี้ไม่คิดรักใคร กัดจิ้งหรีดมันกว่า...”


“ผู้จัดการท่องเที่ยว” อยากจะบอกเจ้าหนุ่มคนซื่อว่า เมื่อเธอไม่มาในหน้าฝนก็ไม่ต้องเลิกคิดรักใครไปกัดจิ้งหรีดให้ทรมานสัตว์หรอก มาเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวที่อุทยานฯไทรทองดีกว่า แล้วก็จะรู้ว่า...ถึงแม้สาวเจ้าจะไม่รักษาสัญญาในหน้าฝน แต่ว่าดอกกระเจียวที่นี่รักษาสัญญานะจะบอกให้ เพราะพอฝนมาทีไร ดอกไม้เจ้าก็กลับมาโชว์ความงามที่อุทยานฯไทรทองเป็นประจำทุกปี...
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ดอกกระเจียวหรือบัวสวรรค์ที่อุทยานฯไทรทอง จะบานอยู่ในช่วงเดือนมิ.ย. –ส.ค. โดยอุทยานฯไทรทอง ตั้งอยู่ที่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ สามารถไปทางรถยนต์ได้โดย ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านรังสิต ไปจนถึงสระบุรี จากนั้นไปทางลำนารายณ์ เข้าสู่ อ.เทพสถิต ไปบ้านนายางกลัก บ้านซับมงคลแล้วเลี้ยวขวาไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรทอง รวมระยะทาง ประมาณ 300 กิโลเมตร หากไปด้วยรถโดยสาร นั่งรถกรุงเทพฯ-ชัยภูมิ (มีทั้งรถแอร์และธรรมดา) ลงขนส่งชัยภูมิจากนั้นต่อรถชัยภูมิ-ภักดีชุมพล,หนองบัวระเหว,บึงสามพัน หรือชัยภูมิ-หล่มสัก,พิษณุโลก หรือ นครสวรรค์-ขอนแก่น ลงที่ป้อมตำรวจบ้านท่าโป่งแล้วนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าที่ทำการอุทยานฯ

นอกเหนือไปจากทุ่งบัวสวรรค์แล้ว อุทยานฯไทรทองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (อยู่ห่างจากทุ่งบัวสวรรค์ประมาณ 9 กม.) อาทิ น้ำตกไทรทอง ต้นไม้พันปี น้ำตกชวนชม ผาพิมพ์ใจ โดยทางอุทยานฯ มีบ้านพักและเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว มีร้านอาหารบริการในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

นอกจากนี้ทางอุทยานฯยังได้ร่วมมือกับชุมชนในพื้นที่จัดรถโฟร์วีลไว้บริการนักท่องเที่ยวขึ้นเขาชมทุ่งบัวสวรรค์ ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดที่ อุทยานฯไทรทอง โทร.0-1266-3781,0-9282-3437,0-7256-8522


อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ฝนมา ป่าเขียว ดอกกระเจียวบานละลานตา
ดอกกระเจียวบานที่ป่าหินงาม / วินิจ รังผึ้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น