xs
xsm
sm
md
lg

“โกรกอีดก”น้ำตกใหญ่ สำหรับคนหัวใจลุย!!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สภาพกาลและบรรยากาศในช่วงนี้ สำหรับหลายๆคนอาจจะเลือกที่จะนั่งทอดหุ่ยอยู่กับบ้าน เพราะฤดูฝนเดินทางเข้ามาเยือนแบบเต็มตัว และยิ่งได้ 2 แรงบวกที่ให้ชวนอยู่บ้านอย่าง ราคาน้ำมันที่แพงระยับ และการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2004 ที่มีหลายอารมณ์ให้เลือก ก็นับเป็นองค์ประกอบชั้นดีที่ช่วยเชิญชวนให้คนอยู่บ้านมากกว่าการออกเดินทางไปเที่ยวข้างนอก

แต่สำหรับ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ที่เลือกใช้ชีวิตแบบคน “ชีพจรลงเท้า” หรือที่ภาษาชาวบ้านว่า “หัวใจมีตีน” แม้จะอดตาหลับขับตานอน ลุ้นตัวโก่งกับทีมโปรด แต่ว่าเมื่อพี่บุญมี สรรพคุณ รักษาการป่าไม้จังหวัดสระบุรี เชื้อเชิญให้ไปลุยป่าหน้าฝนพร้อมกับยลยิน “น้ำตกโกรกอีดก” แห่งผืนป่าเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ที่หลายๆคนบอกว่าสูงใหญ่ที่สุดในแถบภาคกลาง มีรึงานนี้จะอดใจไหว !?!

มิตรภาพล้นเหลือเมื่อมาเจ็ดคตฯ

พูดถึงป่าเจ็ดคตฯนี่ เมื่อ 2 ปีที่แล้วสมัยที่ผู้จัดการยังไม่เปลี๊ยนไป๋ เราก็เคยไปเดินลุยถั่วขึ้นป่า ขึ้นเขา เคล้าน้ำตกและผืนป่า พร้อมๆกับนำมาเล่าสู่กันฟังว่า “ไปเดินป่าอยู่ทางโน้น สนุกถึงคนที่อ่านคอลัมน์นี้”มาแล้ว

ครั้นมาในวันนี้ที่ผู้จัดการเปลี๊ยนไป๋ ฉันใดก็ฉันรักเธอ(แต่เธอดันไปรักมัน) ป่าเจ็ดคตฯก็เปลี๊ยนไป๋เหมือนกัน คือมีคนไปเที่ยวเยอะขึ้นเนื่องจากเดินทางไปสะดวกและอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เมื่อคนนิยมไปเที่ยวก็ทำให้มีการสร้างที่พักอันดูหะรูหะราไว้บริการนักท่องเที่ยวที่บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แต่ว่ายัง...นักท่องเที่ยวยังไม่ได้ใช้บริการหรอก เพราะมีข่าวแว่วมาจากคนแถวนั้นว่า หน่วยงานรัฐ 2 หน่วยงานที่ดูแลที่พักอยู่ ดันแทงกั๊กกันเอง คือตอนแรกสร้างก็ไม่ค่อยมีคนสนใจแต่ว่าพอสร้างเสร็จออกมาดี แล้วป่าเจ็ดคตฯมีนักท่องเที่ยวไปแยะ ก็เลยเกิดกรณีตาอินกะตานาขึ้นมา

นั่นก็คือการเปลี๊ยนไป๋แบบเล็กๆน้อยๆของป่าเจ็ดคตฯ ที่สามารถมองเห็นทางกายภาพได้อย่างชัดเจน แต่กระนั้นป่าเจ็ดคตฯ ผืนป่าที่ติดต่อกับเขาใหญ่ก็ยังคงไว้ด้วยคือสภาพป่าที่ยังอุดมสมบูรณ์ให้บรรยากาศและอารมณ์ที่น่าเที่ยวสำหรับคนรักป่าเหมือนเดิม

เช่นเดียวกันกับอีกสิ่งหนึ่งที่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” เห็นว่าเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของการมาเที่ยวป่าเจ็ดคตฯก็คือ น้ำมิตรไมตรีของ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ยังคงจริงใจและเปี่ยมด้วยมิตรภาพเช่นเดิม อย่างกับในทริปนี้ที่พอเราไปถึงยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในช่วงสายของวันที่ฝนตั้งเค้า คนแรกที่เข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้มเหมือนกับครั้งแรกที่เราเจอกันก็คือ “ลุงวี” หรือ ทวี วงษ์ศรี เจ้าหน้าที่หนุ่มน้อยแต่แก่เยอะของศูนย์ฯ ที่ถือเป็นหนึ่งในกูรูตัวจริงเสียงจริงของป่าผืนนี้

“ไงสบายดีมั๊ย-หายไปนานเลยนะ-เห็นวันนี้หัวหน้าบุญมีจะพาไปลุยโกรกอีดกนี่-สวยนะแต่เดินไกลหน่อย-แต่ว่าเดินไปเรื่อยๆแหละเดี๋ยวก็ถึง-ตอนแรกลุงก็ว่าจะไปด้วยแต่ต้องพาเด็กที่มาทัศนศึกษาไปเดินศึกษาธรรมชาติ-แต่สบายใจไปกับหัวหน้าบุญมี หลงก็นอนป่า” แม้ว่าเกิดมาลุงวีจะไม่เคยแก่ขนาดนี้ แต่ว่าพอเจอกันลุงวีก็ยังคงทักทายด้วยอารมณ์ดีเหมือนเดิม

และก็จริงอย่างลุงวีว่าแหละ “...เดินไปเรื่อยๆก็ถึง...” แต่ว่ามันไม่เดี๋ยวนะสิลุงวี!!!

เพราะหลังจากที่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” รวมถึงเพื่อนร่วมทริปผู้ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน ออกจากศูนย์ฯบริการนั่งกระบะโฟร์วีล ผ่านหมู่บ้าน ผ่านไร่ ผ่านสวน ขึ้นๆลงๆ กระแทกกระทั้น มาได้ประมาณ 45 นาที ก็ถึงยังจุดจอดรถเพื่อเดินเท้าลุยถั่วสู่น้ำตกโกรกอีดกชั้นที่สวยที่สุดในระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร

แต่ด้วยเส้นทางเดินป่าที่ยังพิสุทธิ์ และค่อนข้างโหดเอาเรื่อง รวมถึงการเดินในหน้าฝนเช่นนี้ ก็ทำให้การเดินป่าครั้งนี้ครบเครื่องเรื่องอารมณ์ป่าที่เมื่อกลับมาก็ยังจดจำและปวดเมื่อยไปอีกนาน

ลุยป่า พิสูจน์กาย-ใจสู่น้ำตกโกรกอีดก

เส้นทางเดินป่าสู่โกรกอีดก ประเดิมด้วยการเดินข้ามลำธารที่มีใสไหลเย็นฟังสบายหู ดูสบายตา ที่พี่บุญมีเป็นคนเดินนำหน้าพาเราลุยฝ่าไป

“เวลาเดินป่ายิ่งในหน้าฝนอย่างนี้ ตามทางอาจมีพวกสัตว์มีพิษที่แฝงตัวอยู่ตามต้นไม้ใบหญ้า-เวลาเดินตาต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา-สายตาคอยสอดส่องทั้งข้างบน ข้างๆ และข้างล่าง-เวลาจะจับกิ่งไม้ต้นไม้ก็ต้องสังเกตให้ดีๆเพราะบางทีอาจเป็นงูพลางตัว หรือต้นไม้ที่เต็มไปด้วยหนามจับไปก็อาจเป็นเรื่องได้”

โห...เนี่ยขนาดเพิ่งเริ่มเดินพี่บุญมีก็ขู่กันซะแล้ว แต่ว่าพอเราเดินไปได้สักพักสภาพป่าที่โปร่งก็ทึบขึ้นเรื่อยๆ ทางเดินก็ชื้นและชันมากขึ้น บางช่วงมีนกและแมลงส่งเสียงร้องเพิ่มสีสันของอารมณ์ป่า บางช่วงต้องมุดซุ้มต้นไม้
บางช่วงต้องข้ามหรือลอดต้นไม้ล้ม แต่ว่าพวกเราทั้งหมดก็ยังคงลุยเดินดุมๆต่อไป ผ่านต้นไม้ต้นแล้วต้นเล่า ก้อนหินก้อนแล้วก้อนเล่า

ซึ่งในระหว่างทางสู่น้ำตกโกรกอีดกนี้หากใครมัวแต่เดินจ้ำอ้าวพรวดๆ ก็จะพลาดของดีระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ขนาดหลายคนโอบที่เจอเป็นจำนวนมาก ร่องรอยของสัตว์ที่ออกหากินทั้งตามพื้นดินและตามต้นไม้ แมลงสีสันแปลกตาตัวเล็กตัวน้อย รวมถึงดอกไม้ป่า ลูกไม้ป่าที่ดูสีสันแปลกตาน่ามอง

และที่พิเศษสำหรับป่าหน้าฝนก็คือสีสันมอสที่ขึ้นปกคลุมก้อนหินและต้นไม้ดูๆไปคล้ายพรหมกำมะหยี่สีเขียวสด นอกจากนี้ตามพื้นดินหรือตามซากต้นไม้ก็จะมีเห็ดมากหน้าหลากตาโผล่ขึ้นมาอวดโฉมยังผืนป่าเจ็ดคตฯ

พวกเราใช้เวลาเดินกันมาร่วม 2 ชั่วโมง ผ่านป้ายบอกทางที่ระยะทางถูกขีดทิ้งจำนวนหลายป้าย ในที่สุดก็มาถึงยังน้ำตกโกรกอีดกชั้นหนึ่ง ที่มีสายน้ำตกเล็กๆสูงประมาณ 3 เมตรไหลลงมายังแอ่งน้ำ ซึ่งดูแล้วก็น่าเล่นไม่น้อย แต่พี่บุญมีบอกแบบให้กำลังใจว่า “หนทางยังอีกยาวไกล เราไปพักกินข้าวกันที่น้ำตกชั้นที่ 2 กันดีกว่า”

ได้ยินดั้งนั้นเหมือนว่ามีแรงกระตุ้น แต่ละคนต่างเร่งฝีเท้าซึ่งก็ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงจากน้ำตกชั้นที่ 1 มาถึงยังน้ำตกชั้นที่ 2 จุดแวะพักหม่ำข้าวมื้อกลางวัน มื้อกลางทาง และมื้อกลางป่า

จังหวะเวลานี้กินอะไรก็อร่อย เพราะเหนื่อยและหิว แต่พี่บุญมีก็เตือนว่าอย่ารีบกินทั้งข้าวและน้ำเพราะจะทำให้จุกเอาได้ง่ายๆ

แล้วข้าวมื้อกลางป่าของแต่ละคนก็หมดไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เราออกเดินทางกันต่อจากน้ำตกโกรกอีดกชั้นที่ 2 สู่น้ำตกชั้นที่ 7 ซึ่งเป็นชั้นที่สูงที่สุดโดยไม่ได้แวะชั้นอื่นๆเลย (น้ำตกโกรกอีดกมี 8 ชั้น แต่ชั้นที่ 8 เป็นน้ำตกเล็ก ขึ้นลำบากมากและอันตราย) สำหรับระยะทางในช่วงนี้ถือว่าโหดสุดๆ คือนอกจากชันแล้วยังเป็นทางเดินที่เอาแต่ขึ้นๆๆ ซึ่ง“ผู้จัดการท่องเที่ยว”ได้แต่คิดในใจว่าอยากให้เงินเดือน เราเป็นอย่างนี้บ้างจังคือเอาแต่ขึ้นๆๆๆ

“การมาเที่ยวน้ำตกโกรกอีกดกนี้สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องรับรู้ไว้ก่อนมาเดินก็คือ การเดินทางเข้าถึงที่ยากลำบากและระยะทางที่ค่อนข้างไกล แถมการจะเดินเข้ามาต้องมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำทางเท่านั้นเพราะไม่เช่นนั้นอาจหลงป่าเอาได้ง่ายๆ คนที่มาเดินจึงต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจที่รัก และจิตใจที่ลุย แม้ว่าจะเป็นน้ำตกที่สูงใหญ่สวยงาม แต่ด้วยองค์ประกอบทางการท่องเที่ยวที่จำกัดก็ช่วยให้น้ำตกโกรกอีดกแห่งนี้ยังคงไม่ถูกทำลายความบริสุทธิ์ไปเหมือนกับน้ำตกที่อื่นๆ”

“ผู้จัดการท่องเที่ยว” ฟังพี่บุญมีอธิบายแล้วก็อดนึกไปถึงโครงการสร้างกระเช้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาวและภูกระดึงขึ้นมาตะหงิดๆ เมื่อขึ้นง่าย คนก็ไปง่าย เงินก็ได้ง่าย ป่าก็ฉิบหายง่าย แล้วคนมักง่ายที่ร่วมกันสร้างโครงการก็คงเปิดตูดไปแบบง่ายๆ...เออดูอะไรมันง่ายไปเสียหมด

กำลังคิดเพลินๆ เดินเพลินๆ เราก็ได้ยินเสียงน้ำตกลงหน้า แล้วการเดินทางอันทรหดทุลักทุเลก็สิ้นสุดลง เมื่อเราได้มายืนอยู่เบื้องหน้าของน้ำตกโกรกอีดกชั้น 7 ที่สูงใหญ่มียอดน้ำตกไหลกระเซ็นแตกเป็นฝอยจากยอดผาตกซู่ๆลงมากระทบก้อนหินใหญ่ก่อนแฉลบไหลเป็นสายมาทางซ้ายแล้วรวมมาเป็นแอ่งเล็กๆ คะเนความสูงจากยอดน้ำตกน่าจะประมาณ 50 เมตร

ซึ่งจากลักษณะของน้ำตกนี้ก็มีส่วนที่ตอกย้ำในที่มาของคำว่า “น้ำตกโกรกอีดก” ที่เป็นภาษาถิ่นแถวนั้น ที่คำว่า “โกรก”แปลว่า น้ำที่ตกลงมาเป็นสาย ส่วน“อีดก” นั้นแปลว่านกโพระดก ที่ในอดีตแถวนี้มีจำนวนมาก แต่ว่าปัจจุบัน มีแต่เสียงมาให้ได้รับฟัง ส่วนตัวนั้นหาดูได้ยากเต็มที่

และจากองค์ประกอบที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นที่น้ำตกโกรกอีดก ไม่ว่าจะเป็นก้อนหินใหญ่น้อยที่มีไว้ให้ยืน-นั่งแอ็คท่าถ่ายรูปในมุมที่เหมาะสม หรือต้นไม้ใบหญ้า ดอกไม้ป่าที่ขึ้นมาลดความกระด้างของหินผา ทิวทัศน์ที่เมื่อหันหลังมองกลับไปก็จะเห็นผืนป่าเจ็ดคตฯในมุมสูง รวมถึงเส้นทางเดินป่าสู่ตัวน้ำตกอันพิสุทธิ์แม้ว่าจะค่อนข้างโหด ก็นับว่าน้ำตกโกรกอีดกเป็นอีกน้ำตกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่รักธรรมชาติ รักการลุย ที่ร่างกายพร้อมน่าลุยขึ้นไปเพื่อพิสูจน์ใจของตัวเองไม่น้อย

สำหรับ“ผู้จัดการท่องเที่ยว” เมื่อยืนดูความงามสายน้ำตกที่ไหลซู่ลงมาจากเบื้องบน แล้วความเหนื่อยความท้อใจที่เดินมาในช่วงก่อนหน้านั้นก็หายเป็นปลิดทิ้ง เพราะจากการอดทน รอคอย และไม่ย่นย่อหรอกหรือที่ทำให้พวกเราทุกคนที่ร่วมลุยป่ามาได้มายืนชมความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ณ จุดนี้

...แล้วชีวิตของคนเราใยไม่ใช่เฉกเช่นเดียวกัน เมื่อยามที่ต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรค หากอดทน รอคอย ไม่ย่อท้อ แล้วสักวันหนึ่งสิ่งที่เราหวังอาจจะมาหาโดยไม่รู้ตัวก็ได้...ตัวอย่างมีให้เห็นจากความพยายามของทีมเช็คที่แม้ถูกนำอยู่ 2-0 แต่ว่านักเตะทุกคนก็สวมหัวใจสิงห์จนไล่กลับมาชนะฮอลแลนด์ได้  นี่แหละลูกผู้ชายตัวจริง!?!
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

น้ำตกโกรกอีดก มีทั้งหมด 8 ชั้น นับรวมระยะทางความสูงได้ประมาณ 350 เมตร ตั้งอยู่ที่ ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของป่าเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้าที่มีอาณาเขตติดต่อกับเขาใหญ่ โดยน้ำตกแห่งนี้ไม่สามารถไปค้างแรมในป่าหรือระหว่างทางได้ หากใครอยากนอนในบรรยากาศธรรมชาติก็สามารถค้างได้ที่ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ซึ่งมีความพร้อมในการบริการนักท่องเที่ยว

ส่วนใครที่ค้างที่สระบุรีหรือที่อื่นเมื่อจะเดินป่าสู่น้ำตกโกรกอีดก ก็จำเป็นต้องไปถึงที่ศูนย์ฯแต่เช้าเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง (เพราะการเดินทางไป-กลับจากน้ำตกใช้เวลาถึง 6-8 ชม.) ซึ่งการไปเที่ยวน้ำตกจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำทางทุกครั้ง โดยน้ำตกโกรกอีดกสามารถไปได้โดยจากอ.แก่งคอย-อ.บ้านนา แล้วเลี้ยวซ้ายที่ ต.ชะอม มุ่งสู่บ้านตะโกด้วน จากนั้นก็จะมีเส้นทางรถยนต์ไปสิ้นสุดที่ลำธารเพื่อเดินเท้าสู่ตัวน้ำตกประมาณ 5 กม.

สำหรับศูนย์ฯเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ตั้งอยู่ที่ หมู่ 5 ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มีสถานที่น่าสนใจอย่างเช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติ น้ำตกเจ็ดคต น้ำตกซับป่าว่าน จุดชมพระอาทิตย์ตกผามอเครือ โดยสามารถไปจากกรุงเทพฯไปตามถนนมิตรภาพ ทางอำเภอมวกเหล็ก เมื่อเห็น บริษัท FURUKAWA สังเกตขวามือจะเจอทางแยกจะเห็นศูนย์โยเร ให้เลี้ยวขวาแล้วตรงเข้าไปตลอดระยะทางประมาณ 17 กม. ก็จะถึงศูนย์ฯ ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์ฯเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า สนง.ป่าไม้เขตสระบุรี โทร. 0-3634-7105-6 ต่อ 501,400 หรือที่โทร. 0-3634-7446

กำลังโหลดความคิดเห็น