xs
xsm
sm
md
lg

ฝนมา ป่าเขียว ดอกกระเจียวบานละลานตา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกพรำพรำ
กบมันก็ร้อง งึมงำ ระงมไปทั่ว ท้องนา...”


สภาพอากาศกรุงเทพฯปีนี้เห็นจะเป็นจริงอย่างช่วงวรรคแรกของบทเพลง “ฝนเดือนหก” ที่ขับร้องโดยรุ่งเพชร แหลมสิงห์ ที่นำมาร้องใหม่โดย อี๊ด วงฟลาย ชายหัวโล้นคนนั้น

เพราะตั้งแต่ย่างเข้าเดือนหก มาถึงต้นเดือนหกฝนนี่ตกต่อเนื่องเรื่อยมา มีทั้งฝนที่ตกพรำๆ ตกปรอยๆ ตกจั้กๆ ตกซู่ๆ เรียกว่าครบเครื่องเรื่องอารมณ์ฝนตกทีเดียว

แต่ว่าในยุคปัจจุบันนี้ เวลาหลังฝนตกไอ้ครั้นจะไปหากบ หรือได้ยินได้ฟังเสียงกบร้องงึมงำตามท้องทุ่งนานั้น มันสุดแสนที่จะหาได้ยากเต็มทีเนื่องจากว่าประชากรกบส่วนมากในประเทศไทยโดนจับแด๊ก!!!เกือบหมดแล้ว ใครที่อยากดูกบในช่วงฤดูฝน งานนี้ก็ต้องหันไปดู “น้องกบ สุวนันท์” ในทีวีแทน

เอาเหอะ ถึงแม้ว่ากบธรรมชาติในเมืองไทยช่วงหน้าฝนยิ่งหายาก แต่ว่าหากจะพูดถึงดอกไม้ที่มาในช่วงหน้าฝนอย่างดอกกระเจียว นี่ถือว่าหาชมไม่ยากเลย เพราะเจ้าดอกไม้ชนิดนี้ถือว่าเป็นดอกไม้ที่มากับหน้าฝนโดยแท้ เรียกได้ว่าพอฝนมาทีไร ป่าที่มีดอกกระเจียวก็จะเต็มไปด้วยมวลหมู่ดอกกระเจียวบานละลานเต็มท้องทุ่ง

รู้จักดอกกระเจียว

ดอกกระเจียว ดอกไม้ที่สาวๆหลายคนมักจะเขินอายเวลาเรียกเพราะกลัวว่าจะเรียกเพี้ยนเป็นดอกอย่างอื่น จัดเป็นพืชในสกุลขมิ้น ( Curcuma spp. ) อยู่ในวงขิง , ข่า , ขมิ้น ( Zingiberaceae ) พบในโลกนี้ไม่ตำกว่า 65 ชนิด ( Species ) ในทวีปออสเตรเลีย ทวีปเอเชีย จนถึง ทวีปแอฟริกา ส่วนในเมืองไทยพบประมาณ 30 ชนิด มีกระจายอยู่ตามภาคต่างๆทั่วประเทศไทย ซึ่งแต่ละพื้นที่ต่างก็เรียกชื่อต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น กระเจียวบัว ปทุมมา หรือบัวสวรรค์

พืชในสกุลนี้จะสะสมอาหารและน้ำไว้ในเหง้าที่อยู่ใต้ดิน มีลำต้นบางส่วนสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน และลำต้นบางส่วนก็อยู่บนพื้นดินเพื่อทำหน้าที่สังเคราะห์แสง ใบมีลักษณะเป็นรูปรีค่อนข้างแคบ แผ่นใบเรียบไม่มีขน ก้านใบยาวประมาณ 10 เซนติเมตร กาบใบสีเขียว โคนสีแดง

ส่วนดอกเป็นกลีบซ้อนๆกัน มีทั้งดอกสีชมพูอมม่วง ดอกสีแดง ดอกสีขาว โดยดอกระเจียวนั้นแบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆคือ ดอกกระเจียว หรือขมิ้นที่มีดอกอ่อนบางชนิดสามารถนำไปรับประทานได้

อีกชนิดหนึ่งเป็นดอกกระเจียวที่เรียกว่า ปทุมมา หรือ บัวสวรรค์ ชนิดนี้รับประทานไม่ได้แต่ว่าเมื่อบานเต็มท้องทุ่งแล้วจะสวยงามมาก

สำหรับเมืองไทย ผืนป่าและขุนเขาที่มีทุ่งดอกกระเจียวบานละลานตาเต็มท้องทุ่งให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสในความงามก็มีอยู่ 2 ที่ คือที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง ที่อยู่ในจังหวัดชัยภูมิทั้งคู่

อุทยานฯป่าหินงาม ไฮไลต์แห่งท้องทุ่งดอกกระเจียว

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ นับเป็นสถานที่เที่ยวชมความงามของทุ่งดอกกระเจียว ที่จัดอยู่ในระดับไฮไลต์ของเมืองไทย เนื่องจากอุทยานฯแห่งนี้นับเป็นดินแดนที่มีทุ่งดอกกระเจียวบานแหล่งที่ใหญ่ที่สุดและงดงามที่สุดในเมืองไทย โดยเมื่อฝนมาคราใดดอกกระเจียวที่ป่าหินงามก็จะพากันผลิดอกออกใบโผล่พื้นดินขึ้นมาชูช่อเริงร่า อวดโฉมป่าเขา และเราๆ ท่านๆ ด้วยสีม่วงอมชมพูละลานตาเต็มผืนป่า โดยมีองค์ประกอบของธรรมชาติอย่างโขดหิน ต้นไม้ และทุ่งหญ้าเพ็กที่เขียวขจี ช่วยส่งเสริมให้ทุ่งดอกกระเจียวที่ป่าหินงามงดงามตระการตานัก

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวชมความงามของทุ่งดอกกระเจียวที่อุทยานฯป่าหินงาม หรือที่อื่นก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎของอุทยานฯอย่างเคร่งครัด โดยที่อุทยานฯป่าหินงามจะมีเส้นทางบังคับให้นักท่องเที่ยวเดินเพื่อป้องกันคนลงไปเหยียบย่ำทำลายทุ่งดอกกระเจียว เนื่องจากในอดีตก่อนที่จะมีการสร้างทางเดินมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากชอบเดินลงไปเหยียบย่ำ สัมผัส ถ่ายรูปแบบใกล้ชิดกับดอกกระเจียว ทำให้ทุ่งดอกกระเจียวบอบช้ำจากน้ำมือ และฝีเท้าของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ทางอุทยานฯจึงได้หาวิธีป้องกันด้วยการสร้างทางเพื่อบังคับเดินขึ้นมา

แต่กระนั้นก็ยังไม่วายที่จะมีนักท่องเที่ยวมักง่ายหลายๆ คน เดินลุยถั่วลงไปในท้องทุ่งดอกกระเจียว นัยว่าข้าสัมผัสดอกกระเจียวอย่างใกล้ชิด ซึ่งก็ร้อนถึงเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าผู้ดูแลที่ต้องคอยเป่านกหวีดปรี๊ดๆ เตือน รวมถึงต้องเรียกมาเทศนาตักเตือนกันอยู่บ่อยๆ

นอกจากทุ่งดอกกระเจียวแล้ว อุทยานฯป่าหินงามก็ยังมีสถานที่น่าสนใจให้เที่ยวชมอีก อย่าง ลานหินงาม ซึ่งกินเนื้อที่ 10 กว่าไร่ โดยบริเวณลานหินงามจะมีประติมากรรมหินที่เกิดจากการกระทำของธรรมชาติ กัดเซาะเป็นก้อนหินรูปร่างแปลกตาต่างๆ กันไปตามจินตนาการของแต่ละคน อาทิ ก้อนหินรูปยานอวกาศ รูปช้าง รูปตะปู รูปเรดาร์ รูปถ้วยฟีฟ่า

อีกจุดหนึ่งที่ถือเป็นดาวเด่นใน อุทยานฯป่าหินงามก็คือ จุดชมวิวสุดแผ่นดิน ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเทือกเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล 846 เมตร เมื่อมองลงไปจากสุดแผ่นดินก็จะเห็นทิวทัศน์อันสวยงามชวนมองของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จังหวัดลพบุรี ได้เป็นอย่างดี

สำหรับปีนี้งานชมทุ่งดอกกระเจียวบานมีความพิเศษกว่าปีก่อนๆ โดย พงษ์ศักดิ์ นาคประดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาเทศกาลชมทุ่งดอกกระเจียวจะขึ้นเพียงปีเดียว แต่สำหรับปีนี้จัดเทศกาลชมทุ่งดอกกระเจียวยาวถึง 2 เดือนเต็ม คือตั้งแต่ วันที่ 1 มิ.ย.-31 ก.ค. เพื่อต้องการกระตุ้นให้คนเดินทางมาท่องเที่ยวใน จ.ชัยภูมิมากขึ้น

ทั้งนี้กิจกรรมในงานก็จะประกอบด้วย สัปดาห์ที่ 1-3 “เที่ยวป่าสีสันชัยภูมิ”ที่มีการตั้งแคมป์ และขบวนแรลลี่ สัปดาห์ที่ 4 “เปิดสีสันกระเจียวบานละลานตา” ซึ่งเป็นการประกวดภาพถ่ายและธรรมชาติที่ป่าหินงาม สัปดาห์ที่ 5 “เข้าป่าผจญภัยหัวใจสีเขียว” สัปดาห์ที่ 6 “สีสันประทับใจไม่รู้ลืม” สัปดาห์ที่ 7 “ครอบครัวหรรษา” สัปดาห์สุดท้าย “มาราธอนดอกกระเจียวงาม”

ใครที่สนใจก็สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมในวันเวลาราชการได้ที่ สำนักงาน จ.ชัยภูมิ 0-4481-1573 ที่ว่าการ อ.เทพสถิต 0-4485-7099, 0-4485-7105, ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อบจ.ชัยภูมิ 0-4481-1376 ททท.ภาคตะวันออเฉียงเหนือเขตหนึ่ง 0-4421-3666,0-4421-3030

อุทยานฯไทรทอง น้องใหม่แห่งทุ่งดอกกระเจียว

ไม่เพียงแต่ที่อุทยานฯป่าหินงามเท่านั้นที่มีทุ่งดอกกระเจียวให้ดู แต่ว่าในจังหวัดชัยภูมิที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง ก็มีทุ่งดอกกระเจียวสวยงามบานเต็มท้องทุ่งให้ดูด้วยเช่นกัน

จริงอยู่แม้ว่าทุ่งดอกระเจียวที่อุทยานฯไทรทองจะไม่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางใหญ่โตเท่าที่ป่าหินงาม แต่ว่าเสน่ห์ของทุ่งดอกกระเจียว หรือทุ่งบัวสวรรค์ของที่นี่ก็คือเป็นทุ่งดอกกระเจียวที่บานละลานตาท่ามกลางธรรมชาติอันพิสุทธิ์ นอกจากนี้ก็ยังมีดอกกระเจียวขาวที่สวยงามไม่แพ้ดอกกระเจียวสีม่วงอมชมพูให้เลือกชมตามพื้นดิน แล้วแต่ว่าตาของใครจะหาเจอ

สำหรับทุ่งดอกกระเจียวที่อุทยานฯไทรทอง จะมีให้เที่ยวชมกันถึง 5 ทุ่งใหญ่ๆ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 12 กม.

และด้วยความที่อุทยานฯไทรทองเป็นน้องใหม่ที่เริ่มมาแรงในด้านการเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียว ทางอุทยานฯ จึงได้จัดให้มีการท่องเที่ยวเชิงนิเวศโดยได้จัดให้มีรถบริการของประชาชนในท้องถิ่น เพื่อขนนักท่องเที่ยวเดินศึกษาธรรมชาติและชมความงามทุ่งกระเจียวหรือบัวสวรรค์ที่บานชูช่อสีสดสวยงามแซมหญ้าเพ็ก ท่ามกลางแมกไม้ขุนเขาและไอหมอกที่เย็นสบาย

นอกเหนือไปจากทุ่งดอกกระเจียวแล้ว อุทยานฯไทรทองก็มีสถานที่น่าสนใจให้เลือกเที่ยวชมสัมผัสความงามของธรรมชาติอีกหลายแห่ง ที่เด่นๆ ก็มี

น้ำตกไทรทอง อยู่ใกล้ๆ กับที่ทำการอุทยานฯ เป็นน้ำตกที่สูงประมาณ 5 เมตร แต่ว่ามีความกว้างถึงประมาณ 80 เมตร ตัวน้ำตกมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ชื่อ “วังไทร” ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ ส่วนบริเวณเหนือตัวน้ำตกขึ้นไปมี “วังเงือก” ซึ่งเป็นวังน้ำขนาดใหญ่ ในหน้าฝนจะมีน้ำไหลลงตามความคดเคี้ยวและความลาดชันของลานหินลงสู่น้ำตกไทรทอง ยาวประมาณ 150 เมตร นอกจากนี้บริเวณน้ำตกไทรทองก็ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เป็นเส้นทางร่มรื่น และมีพันธุ์ไม้ที่สวยงามหลากหลายให้เลือกชม

น้ำตกชวนชม อยู่เหนือน้ำตกไทรทองขึ้นไปประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีความร่มรื่นตลอดทั้งปี

จุดชมวิวเขาพังเหย เป็นจุดชมวิวข้างทางที่อยู่ ริมทางหลวงหมายเลข 225 (สายชัยภูมิ-นครสวรรค์) ประมาณกิโลเมตรที่ 70 ซึ่งถือเป็นที่พักรถยนต์ของผู้ผ่านทางไปในตัว ในบริเวณนั้นจะมีจุดชมทิวทัศน์ที่มองลงไปเห็นธรรมชาติอันงดงามให้ชม โดยเฉพาะทิวทัศน์ช่วงยามเย็นที่อาทิตย์อัสดงจะดูสวยงามมาก

จุดชมทิวทัศน์ผาหำหด สูงจากระดับน้ำทะเล 864 เมตร เป็นสันเขาตรงจุดสูงของเทือกเขาพังเหย เมื่อมองเห็นทิวทัศน์สวยงามรอบด้าน แต่ก็น่าหวาดเสียวมากสำหรับคนที่ไปยืนริมผา ซึ่งผู้ชายหลายๆ คนก็มักจะพูดว่าเมื่อไปยืนแล้วหำหดสมชื่อจริงๆ

ผาพ่อเมือง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรทอง ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นผาที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 700 - 908 เมตร เมื่อมองลงไปข้างล่างจะเห็นตัวอำเภอภักดีชุมพล และเทือกเขาพญาฝ่อ ที่เป็นแนวเขตกั้นระหว่าง จ.เพชรบูรณ์ กับ จ.ชัยภูมิ

ชอบทุ่งดอกกระเจียวแบบไหนก็ไปแบบนั้น

ในหน้าฝนปีนี้ใครที่อยากจะชมความงามของทุ่งดอกกระเจียวก็ลองเดินทางไปสัมผัสกันได้ ซึ่งทั้งทุ่งดอกกระเจียวที่อุทยานฯป่าหินงาม และที่อุทยานฯไทรทองต่างก็มีความสวยงามแต่โดดเด่นกันไปคนละแบบ ใครที่ชอบชมทุ่งดอกกระเจียวที่สวยงาม กว้างใหญ่ แถมสามารถเดินชมแบบสบายๆ แต่ว่ามีคนพลุกพล่านหน่อยก็ให้ไปที่อุทยานป่าหินงาม ส่วนใครที่อยากชมทุ่งดอกกระเจียวที่ขึ้นท่ามกลางธรรมชาติอันพิสุทธิ์ และมีดอกกระเจียวสีขาวขึ้นแซมก็ควรไปที่อุทยานฯไทรทอง

เรียกว่าใครใคร่ชมทุ่งดอกกระเจียวแบบไหนก็ไปชมกันตามใจชอบ ส่วนใครจะเหมาไปชมทุ่งดอกกระเจียวทั้ง 2 อุทยานฯ เลยก็เก๋ไม่หยอก แถมยังได้อารมณ์ต่างกันไปคนละแบบ แต่ว่ายังไงๆ ทุ่งดอกกระเจียวก็มีแค่หน้าฝนนี้เท่านั้น ใครที่มัวแต่ยึกยักชักช้าเงื้อง่ารอเวลา บางทีอาจช้าเกินไป... ดอกกระเจียวร่วงโรยหมดปีนี้อดดูไม่รู้ด้วยนะตัวเอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
นั่งรถไฟเที่ยว ดูดอกกระเจียวบานที่ “อุทยานฯป่าหินงาม”
อุทยานฯป่าหินงาม สามารถไปได้โดย กรุงเทพฯใช้เส้นทางสายกรุงเทพฯ-สระบุรี และใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ผ่าน อ.พัฒนานิคม ตรงไปจนถึงแยกลำนารายณ์ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 205 ลำนารายณ์-เทพสถิต-ชัยภูมิ เลี้ยวซ้ายไปตามทางหมายเลข 2354 ประมาณ 14 กม. จะเจอป้ายทางแยกเข้าป่าหินงาม แยกเข้าอีกประมาณ 14 กม.ก็จะถึงที่ทำการ อุทยานฯป่าหินงาม

ส่วนใครที่อยากสัมผัสอารมณ์โรแมนติกก็สามารถนั่งรถไฟขบวน บางซื่อ 2 –หนองคาย ไปลงที่สถานีเทพสถิตจากนั้นนั่งรถสองแถวต่อไปยังอุทยานฯป่าหินงาม โดยขบวนไฟขบวนนี้มีไฮไลท์อยู่ที่การวิ่งผ่านกลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่ให้อารมณ์รถไฟกำลังวิ่งลอยอยู่บนน้ำ ทั้งนี้ติดต่อได้ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 0-2222-0175, 0-2621-8701, 0-2220-4567 และใครที่อยากสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่งดอกกระเจียวที่ป่าหินงาม ก็สอบถามได้ที่ อช.ป่าหินงาม 0-4481-0222

ทางด้านอุทยานฯไทรทอง หากไปจากกรุงเทพฯ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านรังสิต ไปจนถึงสระบุรี จากนั้นไปทางลำนารายณ์ เข้าสู่ อ.เทพสถิต ไปบ้านนายางกลัก บ้านซับมงคลแล้วเลี้ยวขวาไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรทอง รวมระยะทาง ประมาณ 300 กิโลเมตร หรือสอบถามรายละเอียดที่ อช.ไทรทอง โทร.01-4630952, 01-2663781

กำลังโหลดความคิดเห็น