เที่ยวเกาะเลาะเมืองตราด ชมธรรมชาติสุดทางบูรพา

ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยวของทะเลฟากฝั่งอ่าวไทย ก็เลยส่องกล้องหันทิศการเที่ยวไปที่ภาคตะวันออกมองหาจังหวัดที่น่าสนใจ ไปสะดุดกับจังหวัดตราด ซึ่งมีคำขวัญว่า “เมืองเกาะครึ่งร้อย พลอยแดงล้ำค่า ระกำแสนหวาน หลังอานหมาดี ยุทธนาวีเกาะช้าง สุดทางบูรพา” แสดงว่าต้องเป็นจังหวัดที่มีเกาะให้เที่ยวอยู่มากแน่ เพราะดูแค่ตราประจำจังหวัดก็ยังเป็นรูปเรือใบแล่นในทะเลกับโป๊ะของชาวประมง เบื้องหลังก็เป็นเกาะ อย่างนี้ต้องไปดูว่ามีที่ไหนที่น่าไปเที่ยวบ้าง

แต่ก่อนอื่น อยากเล่าประวัติศาสตร์ของจังหวัดตราดเล็กๆน้อยๆ ให้ได้รู้กันก่อน ว่าเมืองตราดหรือในอดีตคือเมืองทุ่งใหญ่ เป็นหัวเมืองชายทะเล ที่มีชัยภูมิเหมาะกับการแวะจอดเรือ เพื่อขนถ่ายซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า เติมเสบียงอาหารและน้ำจืด ถือเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงปลายอยุธยา เมื่อครั้งสงครามกู้เอกราชสมเด็จพระเจ้าตากสินก็ทรงเลือกตราดเป็นเมืองหน้าด่านกันชน ทำหน้าที่ส่งเสบียงอาหารก่อนเคลื่อนกองทัพเรือออกจากจันทบุรี

ในช่วงที่ฝรั่งเศสล่าอาณานิคมในแถบเอเชียอาคเนย์ ได้บังคับให้ไทยต้องยอมมอบเมืองตราดให้อยู่ในการปกครองของฝรั่งเศส แต่ด้วยพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฝรั่งเศสจึงได้ยินยอมทำสัญญายกเมืองตราดคืนให้กับประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 โดยแลกเปลี่ยนกับเมือง พระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ชาวตราดจึงมีการจัด งานวันตราดรำลึก ในวันที่ 23-27 มีนาคมของทุกปี เพื่อสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระพุทธเจ้าหลวงในการปกป้องเอกราชและอธิปไตยของไทยไว้

รู้จักประวัติศาสตร์เมืองตราดกันพอหอมปากหอมคอ ก็มุ่งหน้าไปเที่ยวกันเริ่มต้นที่ แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล หมู่เกาะช้าง ซึ่งมีมากถึง 52 เกาะ (นี่ก็ครึ่งร้อยไปแล้ว) โดยมีเกาะช้างซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากเกาะภูเก็ต กิจกรรมหลักของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะช้าง เช่น การเล่นน้ำทะเล การดำน้ำดูปะการัง การเดินป่า เล่นน้ำตก ตกปลา พายเรือคายัก ขี่จักรยาน โดยส่วนใหญ่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญจะอยู่ด้านทิศตะวันตกของเกาะ เช่น หาดทรายขาว ชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด หาดคลองพร้าว เป็นหาดทรายที่สวยงามร่มรื่น ติดกับแหลมไชยเชษฐ์ ซึ่งเป็นแหลมหินที่มีทัศนียภาพสวยงาม หาดไก่แบ้ ก็สวยแต่ก่อนนี้เป็นหาดที่มีบรรยากาศสงบเงียบ ไม่พลุกพล่าน แต่ตอนนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวมากแล้ว ส่วนที่อ่าวสลักเพชรและอ่าวบางเบ้า ก็น่าสนใจเพราะมีหมู่บ้านชาวประมงให้ดูวิถีชีวิตชาวเกาะ มีเรือเช่าพาชมปะการังและที่อยู่แบบโฮมสเตย์ด้วย

ที่เกาะช้างมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติและน้ำตกที่เหมาะแก่การเล่นน้ำ อย่าง น้ำตกคลองพลู และ น้ำตกธารมะยม ซึ่งน้ำตกแห่งนี้เคยเป็นที่เสด็จประพาสของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ ทั้งยังมีพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธย ปรากฏอยู่บนก้อนหินบริเวณน้ำตกด้วย นอกจากนี้ยังมีท่องเที่ยวเชิงเกษตรอยู่หลายสวน เช่นที่ สวนผลไม้รวมบ้านสลักเพชร ของคุณป้าบุญศรี สลักเพชร ภายในสวนกว่า 100 ไร่ มีผลไม้เกือบทุกชนิดซึ่งเป็นน้ำพักน้ำแรงที่เฝ้าดูแลรักษามากว่า40 ปี ถ้าสนใจจะเข้าชมสวนไหนก็สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานเกษตรกิ่ง อ. เกาะช้าง โทรศัพท์ 0- 3958-6100

นอกจากนี้ยังมีเกาะในบริเวณใกล้เคียงที่สวยงาม เช่น เกาะหมาก ซึ่งมีรูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก มีอ่าวและชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง บริเวณชายฝั่งรอบเกาะมีแนวปะการังที่สมบูรณ์ ชุมชนดั้งเดิมบนเกาะหมากส่วนใหญ่เป็นเขมรเชื้อชาติไทยที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานเมื่อครั้งเมืองประจันตคีรีเขตต์หรือเกาะกงเป็นของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2447 มีอาชีพเกษตรกรรมทำสวนยางพาราและสวนมะพร้าว จนเกาะหมากได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวที่สำคัญของจังหวัดตราด สำหรับ เกาะขาม ที่อยู่ใกล้ๆ กับเกาะหมาก ก็ยังมีสภาพธรรมชาติทางทะเลที่สวยงาม มีบรรยากาศที่เงียบสงบร่มรื่นเพราะยังมีนักท่องเที่ยวไม่มากเท่าใดนัก

ห่างออกไปเป็น เกาะกูด ซึ่งนับเป็นเกาะสุดท้ายของน่านน้ำทะเลตราด เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทยอุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และความงดงามของหาดทราย สายน้ำ ลำธาร น้ำตก และแนวปะการังใต้ท้องน้ำ มีสถานที่น่าสนใจ จึงได้รับการขนานนามว่า “อันดามันแห่งทะเลตะวันออก” ชนพื้นถิ่นดั้งเดิมของเกาะกูดส่วนใหญ่เป็นคนไทยและคนเขมร หมู่บ้านคลองมาดเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุด มีอาชีพทำเกษตรกรรม ทั้งทำสวนยางพารา สวนมะพร้าว สวนผลไม้ และทำประมงชายฝั่ง

แนะนำว่าถ้าไปเกาะกูด แล้วอยากนั่งชมวิวพระอาทิตย์ที่สวยงามต้องเป็นที่ อ่าวจาก แต่ถ้าอยากซื้อของทะเลสดๆ ก็ต้องไปที่ชุมชนชาวประมงที่ อ่าวสลัด อยากเที่ยวน้ำตกต้องไปที่ น้ำตกคลองเจ้า หรือ น้ำตกธารสนุก ส่วนทางฝั่งตะวันตกของเกาะ นับตั้งแต่อ่าวตาดีน หาดคลองละหาน หาดคลองยายกี๋ หาดตาโพธิ์ หาดคลองเจ้า หาดอ่าวพร้าว จนสุดปลายแหลมเทียน ก็ล้วนแต่เป็นหาดที่มีหาดทรายสวยงามและน้ำทะเลใส หรือถ้าอยากชมปะการังต้องไปที่ เกาะแรด และ เกาะไม้ซี้ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเกาะกูด

แต่ที่ดูเหมือนจะเป็นที่สนใจและมีนักท่องเที่ยวไปเยือนเพิ่มขึ้นทุกปี เห็นจะเป็น เกาะกระดาด อันซีนหนึ่งเดียวของจังหวัดตราด เพราะเป็นเกาะที่มีสัณฐานแบนราบเหมือนกับกระดาษ แต่มีชื่อว่า เกาะกระดาด ตามชื่อของต้นกระดาด ที่ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก และยังนับเป็นเกาะเดียวในประเทศไทยที่มีการออกโฉนดถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากฝรั่งเศสพยายามยึดครองดินแดนของไทย เกาะกระดาดก็เป็นที่หมายหนึ่ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกโฉนดที่ดินของเกาะขึ้น ลักษณะของเกาะมีหาดทรายยาวขาวสะอาด มีแนวปะการังอยู่รอบเกาะ จึงเหมาะในการดำน้ำชมปะการัง

จบการทัวร์เกาะก็จะไปย้อนรอยหาที่มาของ พลอยแดงล้ำค่า จังหวัดตราด ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งของพลอยแดงน้ำงามที่มีชื่อเสียงโด่งดังในนาม “ทับทิมสยาม” เคยพบในเขตอำเภอบ่อไร่เมื่อปี พ.ศ.2514 ตอนนั้นได้ก่อกระแสการตื่นพลอยอย่างมาก มีผู้คนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้ามาแสวงโชค จนพื้นที่ที่เคยเป็นป่าทึบกลายเป็นหลุมบ่อไปทั่ว แต่อย่างว่าของดีมีน้อย แล้วอัญมณีมีค่าก็ไม่ได้เกิดขึ้นมามีง่าย ๆทรัพย์สินในดินจึงหมดไป ในปี พ.ศ.2534 และปัจจุบันนี้ ตลาดพลอย ในเขตอำเภอบ่อไร่ได้ประสบปัญหาในเรื่องหาแหล่งพลอยได้ยากจึงทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายพลอยซบเซาลง แต่ถ้านักท่องเที่ยวที่สนใจจะไปซื้อพลอยหรือชมสภาพโดยทั่วๆไปของตลาดพลอยนั้น ก็ยังพอมีเหลือให้ชมและซื้ออยู่บ้าง

ถ้าอยากได้เพื่อนแท้พันธุ์ไทยสักตัวที่มีความฉลาด และซื่อสัตย์ ก็ต้องเป็น สุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน ซึ่งจะมีลักษณะพิเศษ คือ มีอานหรือขวัญบนแผ่นหลัง ที่จังหวัดตราดมีฟาร์มสุนัขหลังอานอยู่หลายแห่งเหมือนกัน แต่สำหรับของกินของฝากที่เป็นผลไม้ที่มีชื่อที่สุดของตราด ก็คือ ระกำหวาน ที่มีรสชาติหวานหอมเมื่อแก่จัด เป็นที่นิยมของนักชิมผลไม้ มีการจัด งานวันระกำหวาน เป็นประจำทุกปีประมาณปลายเดือนพฤษภาคม หรือต้นเดือนมิถุนายน บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัด ในงานมีการจัดนิทรรศการและจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์การเกษตร มีการประกวดผลไม้ต่างๆ โดยเฉพาะระกำหวาน และมีการแสดงมหรสพตลอดงาน

ถ้ามีโอกาสในช่วงวันหยุดสั้นๆ ก็ไม่น่าจะพลาดการไปเที่ยวเกาะเลาะทะเลตะวันออก โดยเฉพาะทะเลเมืองตราด เพราะความสวยงามของธรรมชาตินั้นไม่แพ้ที่ไหนๆเลย แถมช่วงนี้เป็นฤดูผลไม้ ได้เที่ยวไป กินไป แหม...ช่างแสนสุขอุรายิ่งนัก

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

การเดินทาง จากกรุงเทพฯใช้เส้นทางสายบางนา-ตราด (ทางหลวงหมายเลข 3 ) ผ่านชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี หรือใช้ทางหลวงหมายเลข 344 ผ่านชลบุรี-แกลง-จันทบุรี ก็ได้ แล้วเดินทางสู่จังหวัดตราดอีกทีหนึ่ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ ททท.ภาคกลางเขต 5 โทร.0-3959-7255,0-3959-7259-60