xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโผหุ้นรับนโยบายเลือกตั้ง 69 เชียร์ 5 หุ้น Election Play

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โบรกเกอร์ ชู 5 หุ้น Election Play ฯ CPALL, BDMS, MTC, PTTGC, GULF ระยะสั้นรับนโยบายเลือกตั้ง 3 พรรคการเมืองใหญ่ แถมลุ้นโอกาสเกิด Election Rally ต่อเนื่องถึงหลังเลือกตั้ง ขณะที่นโยบายระยะกลาง ช่วยหนุนกลุ่ม New S Curve 3 กลุ่มหลัก การแพทย์และสุขภาพ ยานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด รวมทั้งกลุ่ม Digital & Tec มองหุ้นได้ประโยชน์ ตั้งแต่กลุ่มโรงพยาบาล เครื่องมทอแพทย์ EV นิคมฯ และโครงสร้างพื้นฐานไอที ดิจิทัล

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้สรุปนโยบาย 3 พรรคการเมืองหลักที่ตลาดคาดหมายจะแข่งขันเพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จากการเลือกตั้งวันที่ 8 ก.พ. ภายหลังการแถลงนโยบายชุดแรกแล้ว สรุปได้ดังนี้

- พรรคภูมิใจไทย (BJT) ธีมเสถียรภาพ และ การเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยนโยบายเร่งด่วน เช่น คนละครึ่ง พลัส เฟส 2 , ปิดหนี้ไวไปต่อได้ , เยียวยาภัยพิบัติ เน้นความต่อเนื่องของนโยบาย และ ประชานิยมเชิงผสม (“Thailand Plus”) ซึ่งตั้งเป้าอัตราการเติบโต GDP ในระดับอนุรักษ์นิยม (~3%+) นอกจากนี้ มุ่งควบคุมค่าครองชีพ ส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ และ ระบบทหารสมัครใจ โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พลังงานสีเขียว และ ยานยนต์ไฟฟ้า(EV)
 
- พรรคประชาชน (PP) ธีมปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและการกระจายรายได้ โดยนโยบายเร่งด่วน เช่น เติมเงิน 1,000 บาท กลุ่มเป้าหมาย 12 ล้านคน + หวยใบเสร็จ + เติมสภาพคล่อง และ กลุ่มธุรกิจทุนน้อย + กวาดล้างทุนเทา และ จัดการทุนสีเทาในระบบเศรษฐกิจ ตลอดจนให้ความสำคัญกับ SMEs อุปสงค์ภายในประเทศ และ ระบบรัฐดิจิทัล และ เสนอระบบสวัสดิการถ้วนหน้า(เด็กและผู้สูงอายุ) และ ผลักดันการปฏิรูปต่อต้านคอร์รัปชัน และ คุ้มครองผู้เปิดโปงข้อมูล ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น เครื่องมือแพทย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และ โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ

- พรรคเพื่อไทย (PTP) ธีมเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ ยุทธศาสตร์ภูมิเศรษฐศาสตร์ โดยนโยบายเร่งด่วน คือ แก้หนี้เสียเรื้อรัง (หนี้ดีมีรางวัล) - พักหนี้เกษตรกร - ประกันกำไรสินค้าเกษตร 30% โดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตเชิงรุกสูงสุดในกลุ่ม (~5% GDP) ซึ่งใช้กลไกศูนย์กลางการค้า–การเงิน และ การลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ตลอดจนเน้นประกันราคาสินค้าเกษตร และ การยกระดับระบบสาธารณสุข โดยให้น้ำหนักสูงกับ AI เซมิคอนดักเตอร์ และ Medical Hub

เชียร์ 5 หุ้น Election Play รับนโยบายเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม ประเมินบวกต่อนโยบายระยะสั้นทั้ง 3 พรรคหลักที่มีจุดร่วมกันในส่วนการกำหนดนโยบายเร่งด่วนเน้นเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งน่าจะส่งผลบวกต่อหุ้นอิงเศรษฐกิจภายใน เช่น ค้าปลีก CPALL เช่าซื้อ MTC รวมถึงโอกาสเกิด Election Rally ที่ต่อเนื่องไปถึงหลังเลือกตั้ง

กลยุทธ์แนะนำเน้น 5 หุ้น Best Picks ธีม Election Play (หุ้นอิงภายใน + Deep Value เป้าหมาย Fund Flows) : CPALL, BDMS, MTC, PTTGC, GULF

ขณะที่นโยบายระยะกลางทุกพรรคเน้นไปที่การสร้าง New S Curve ใหม่ คล้ายกัน 3 จุด

1.Healthcare & Medical (การแพทย์และสุขภาพ) ทั้ง 3 พรรคเน้นเรื่องนี้(BJT : ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ / PP : เครื่องมือแพทย์และสวัสดิการ / PTP : Medical Hub และ ยกระดับ 30 บาท) หุ้นที่ได้ประโยชน์ เช่น กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS , BH) , ผู้ผลิต/นำเข้าเครื่องมือแพทย์ , ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ

2.Future Mobility & Green Energy (ยานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด) : เป็นเมกะเทรนด์ที่ทุกพรรคสนับสนุน (BJT : EV / PP : Smart Grids / PTP : AI & Semiconductors ซึ่งเป็นฐานของ EV) หุ้นที่ได้ประโยชน์ เช่น นิคมอุตสาหกรรม AMATA , WHA ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ DELTA , KCE โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน GULF , GUNKUL

3.Digital & Tech Adoption : ทุกพรรคต้องการนำเทคโนโลยีมาใช้(PP : รัฐดิจิทัล / PTP : AI / BJT : EV Ecosystem) หุ้นที่ได้ประโยชน์ เช่น กลุ่มที่ปรึกษาด้านไอที BBIK , BE8 , วางระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล WHA , AMATA , GULF , BGRIM , STECON , INSET โทรคมนาคม ADVANC , TRUE

อย่างไรก็ตาม จุดแตกต่างของทั้ง 3 พรรคยังอยู่ที่แนวทางขับเคลื่อนนโยบายที่อาจจะมีภาพน้ำหนักที่ให้ด้านต่างๆ ไม่เท่ากัน ซึ่งประเมินอาจเป็นจุดกำหนดระดับผลบวกที่ตลาดตอบรับระยะถัดไป


กำลังโหลดความคิดเห็น