xs
xsm
sm
md
lg

"เรย์ ดาลิโอ" ชี้ "บิทคอยน์ด้อยกว่าทองคำ" เผยจุดอ่อนสำคัญที่รัฐบาลแทรกแซงได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มหาเศรษฐีนักลงทุนระดับตำนาน ‘Ray Dalio’ เปิดใจยอมรับมี Bitcoin ติดพอร์ตเพียง “เศษเสี้ยว” แต่ยังคงยกย่อง ‘ทองคำ’ คือสินทรัพย์ที่เหนือชั้นกว่าหลายขุม ชี้จุดอ่อนสำคัญของ Bitcoin คือความเป็นส่วนตัวจอมปลอมที่รัฐบาลสามารถ “สอดแนม” และ “แทรกแซง” ได้ทุกฝีก้าว เชื่อธนาคารกลางทั่วโลกเมินเก็บเข้าทุนสำรอง เพราะปัญหาและความเสี่ยงที่ยังแก้ไม่ตก

ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับ Nikhil Kamath ผู้ร่วมก่อตั้ง Zerodha, โดย เรย์ ดาลิโอ (Ray Dalio) ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates เฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ออกมาแสดงทัศนะที่อาจขัดใจชาวคริปโตฯ โดยเขายืนยันว่าแม้ตนเองจะถือครอง Bitcoin อยู่บ้างเล็กน้อยเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการเสื่อมค่าของเงินเฟียต (Fiat Currency) แต่เขาก็ยังมองว่ามัน “ด้อยค่ากว่า” (Inferior) ทองคำอย่างชัดเจน

ชี้จุดตาย Bitcoin เมื่อ ‘Public Ledger’ กลายเป็นดาบสองคม

ดาลิโอชี้เป้าไปที่หัวใจของ Bitcoin นั่นคือระบบบัญชีแยกประเภทสาธารณะ (Public Ledger) ที่แม้จะดูเหมือนเป็นจุดแข็งเรื่องความโปร่งใส แต่นั่นกลับเป็น “จุดอ่อนร้ายแรง” ในสายตาของเขา

“ธุรกรรมทุกอย่างบน Bitcoin สามารถถูกแกะรอยได้ รัฐบาลสามารถเฝ้าดูและรู้เห็นทุกการเคลื่อนไหว และที่สำคัญ รัฐบาลสามารถ ‘แทรกแซง’ ธุรกรรมเหล่านั้นได้ ซึ่งต่างจากทองคำที่เป็นสินทรัพย์เดียวที่คุณครอบครองได้โดยที่พวกเขา (รัฐ) ไม่สามารถเข้ามาวุ่นวายหรือควบคุมได้ง่ายๆ”

แม้ฝ่ายสนับสนุนจะโต้แย้งว่า Bitcoin คือสินทรัพย์ที่ผู้ถือครองมีสิทธิ์เด็ดขาด (Bearer Asset) เพียงแค่จำรหัส 12 คำได้ก็สามารถโอนย้ายความมั่งคั่งไปได้ทั่วโลก แต่ในทางปฏิบัติ รัฐบาลต่างๆ ได้ใช้วิธีทางอ้อมผ่านกฎเกณฑ์ KYC/AML บีบบังคับบริษัทคริปโตฯ ให้อายัดบัญชีและบล็อกธุรกรรมได้อยู่ดี

ความเสี่ยงด้านเทคนิค จะถูก ‘แฮก’ หรือ ‘ควบคุม’ หรือไม่?

นอกจากเรื่องความเป็นส่วนตัว ดาลิโอยังแสดงความกังวลเรื่องความปลอดภัยของเครือข่าย โดยเปรียบเทียบความเสี่ยงนี้กับการสร้าง “เพชรสังเคราะห์” ที่ลดทอนมูลค่าของจริง

“ในแง่ของการถูกเจาะระบบ ถูกทำลาย หรือถูกควบคุม Bitcoin ยังมีประเด็นเหล่านี้อยู่... ผมมองโลกในแง่ลบต่อเงินกระดาษ ดังนั้นผมจึงถามตัวเองว่า ‘ควรถืออะไรดี?’ ผมจึงมี Bitcoin นิดหน่อย แต่สำหรับผม มันไม่ได้มีเสน่ห์ดึงดูดใจเท่าทองคำ”

ความจริงที่ย้อนแย้ง "ประวัติศาสตร์ vs เทคโนโลยี"

แม้ดาลิโอจะกังวลเรื่องความเสี่ยง แต่สถิติชี้ว่า Bitcoin มีความเสถียร (Uptime) สูงกว่า 99.98% ตลอด 16 ปี และไม่เคยถูกแฮกที่ระดับโปรโตคอลสำเร็จเลยตั้งแต่ปี 2013 ในขณะที่ทองคำแม้จะเป็นเครื่องรักษามูลค่ามานานกว่า 6,000 ปี แต่ก็มีข้อครหาเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมือง ความยากลำบากในการพกพา และความเสี่ยงเรื่องทองปลอม

ความจริงที่ต้องยอมรับ ไม่มีสินทรัพย์ใดรอดพ้น ‘เงื้อมมือรัฐ’

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ประวัติศาสตร์สอนให้รู้ว่าไม่มีสินทรัพย์ใดที่ “ปลอดภัย 100%” จากการแทรกแซงของรัฐ สหรัฐฯ เคยออกคำสั่งยึดทองคำจากประชาชนในปี 1933 (Executive Order 6102) และล่าสุดในปี 2025 รัฐบาลสหรัฐฯ ก็สามารถยึด Bitcoin จากอาชญากรรมได้มูลค่ามหาศาลกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์

คำเตือนของดาลิโอจึงเป็นเครื่องเตือนใจให้นักลงทุนตระหนักว่า แม้ Bitcoin จะถูกเรียกว่า “ทองคำดิจิทัล” แต่มันอาจยังขาดคุณสมบัติบางประการที่จะทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกยอมรับมันเป็นสินทรัพย์สำรองหลักเฉกเช่นทองคำแท้