บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (“CPF”) ผู้ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร ใน 17 ประเทศทั่วโลก ภายใต้วิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” ประกาศดอกเบี้ยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุด อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง [2.02-3.20]%เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน จัดจำหน่ายผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 11 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารยูโอบี ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ผ่านทางสาขาและช่องทางออนไลน์ รวมถึงการขายผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุด มีรายละเอียดดังนี้
หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [2.02-2.27]% ต่อปี
หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 6 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [2.45-2.70]% ต่อปี
หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 8 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [2.95-3.20]% ต่อปี
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนบริษัทจะแจ้งทราบอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ หุ้นกู้ที่ออกครั้งนี้เป็นหุ้นกู้ ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A” แนวโน้ม “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568 สะท้อนถึงสถานะความเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมระดับโลกของบริษัทฯ ตลอดจนการมีฐานการผลิตที่กระจายตัวอยู่ในประเทศต่างๆ รวมถึงการมีสินค้าและตลาดที่หลากหลาย คาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 20 - 22 มกราคม พ.ศ. 2569 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
ด้านสถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ให้ความเห็นว่า หุ้นกู้ CPF ที่เสนอขายในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจในช่วงต้นปีแบบนี้ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการเริ่มต้นการลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานและเป็นผู้นำตลาดในอุตสาหกรรมนั้น ซึ่งหุ้นกู้ CPF น่าจะตอบโจทย์แล้วนั้นได้เป็นอย่างดี และยังรวมถึงนักลงทุนหน้าใหม่ที่ได้รับเงินก้อนในช่วงต้นปีและต้องการเริ่มสะสมหุ้นกู้คุณภาพดี หุ้นกู้ CPF ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวนแบบในปัจจุบัน ทำให้การเลือกลงทุนในหุ้นกู้ต้องพิจารณาให้มากขึ้น


