xs
xsm
sm
md
lg

แฉนโยบายคริปโตแอฟริกากลาง เบื้องหลัง State Capture ขายชาติผ่านบล็อกเชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฝันสลายกลางกาฬทวีป! รายงานระดับโลกแฉยับ นโยบายผลักดัน ‘คริปโทเคอร์เรนซี’ ของสาธารณรัฐแอฟริกากลาง (CAR) ไม่ได้มุ่งช่วยคนจนอย่างที่อ้าง แต่กลับกลายเป็นมหกรรม ‘State Capture’ ที่เอื้อประโยชน์ให้ชนชั้นนำและเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติเข้ามากอบโกยทรัพยากร ท่ามกลางสภาพบ้านเมืองที่ล่มสลายและประชาชนที่ยังไม่มีแม้แต่ไฟฟ้าใช้

การเดิมพันครั้งใหญ่ของ สาธารณรัฐแอฟริกากลาง (Central African Republic - CAR) ที่หวังใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นทางลัดกู้วิกฤตชาติ กำลังถูกกระชากหน้ากาก เมื่อรายงานฉบับล่าสุดจาก Global Initiative Against Transnational Organized Crime (GI-TOC) ระบุชัดเจนว่า นโยบายดังกล่าวไม่ได้สร้างความเท่าเทียมทางการเงิน (Financial Inclusion) แต่กลับทำให้ประเทศตกเป็นเหยื่อของ “การยึดกุมกลไกรัฐ” (State Capture) โดยกลุ่มผู้มีอิทธิพล

ภาพฝัน vs ความจริงอันโหดร้าย

รายงานชื่อ “Behind the blockchain” ตอกหน้าความจริงอันเจ็บปวดว่า การที่รัฐบาล CAR พยายามชูบิทคอยน์เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย (Legal Tender) เป็นชาติที่ 2 ของโลก รวมถึงการออกเหรียญแห่งชาติ ‘Sango Coin’ และ ‘CAR memecoin’ นั้น เป็นเรื่อง “เพ้อฝันและผิดที่ผิดเวลา” อย่างรุนแรง

ตัวเลขสถิติฟ้องชัดเจน ในขณะที่รัฐบาลฝันถึงโลกดิจิทัล ประชากร 15.7% เท่านั้นที่มีไฟฟ้าใช้ และไม่ถึง 40% ที่มีโทรศัพท์มือถือ ในประเทศที่ GDP ต่อหัวต่ำเตี้ยเพียง 467 ดอลลาร์ และประชาชนยังต้องเผชิญกับชะตากรรมจากการสังหารหมู่และการทรมาน การจะดึงคนเหล่านี้เข้าสู่โลกการลงทุนจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และตอกย้ำว่าโครงการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ “นักลงทุนต่างชาติ” มากกว่าคนในชาติ

ความคืบหน้าของโครงการคริปโตเคอร์เรนซีของ CAR แหล่งที่มา: The GI-TOC
เงาทะมึนหลังบัลลังก์ เครือข่ายสีเทาและรัสเซีย

สิ่งที่น่ากลัวกว่าความล้มเหลว คือเครือข่ายที่รายล้อมประธานาธิบดี โฟสแตง-อาร์ชองจ์ ตูอาเดรา รายงานระบุว่าทำเนียบประธานาธิบดีเต็มไปด้วย “ผู้คลั่งไคล้คริปโตฯ, นักธุรกิจโปร-รัสเซีย และพ่อค้าผู้ทรงอิทธิพลที่มีประวัติฉาว”

มีการเปิดเผยชื่อบุคคลอันตรายอย่าง Nicolae Bogdan Buzaianu ซึ่งมีประวัติพัวพันกับการลักลอบค้าไม้ผิดกฎหมาย และ Émile Parfait Simb ผู้มีคดีฉ้อโกงติดตัว การออกกฎหมายเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 เพื่อเปิดทางให้มีการ Tokenization ทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งน้ำมัน, ทองคำ, ไม้ และที่ดิน จึงถูกนักวิเคราะห์มองว่าเป็นความพยายาม “ขายสมบัติชาติ” ผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนแคบ ๆ และเปิดช่องให้อิทธิพลต่างชาติแทรกซึม

บทสรุปความพังพินาศ เจ๊งระเนระนาด


สุดท้ายแล้ว ความจริงก็คือความจริง CAR จำต้องถอยกรูด ยกเลิกสถานะ Legal Tender ของบิตคอยน์ในเดือนมีนาคม 2566 หลังทนแรงบีบจาก IMF และกลุ่มการเงินภูมิภาค (CEMAC) ไม่ไหว

ส่วนโปรเจกต์ความหวังอย่าง ‘Sango Coin’ ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ขายเหรียญได้ไม่ถึง 10% ของเป้าหมาย ขณะที่ ‘CAR memecoin’ ราคาดิ่งนรกกว่า 93% เหลือมูลค่าเพียง 0.004 ดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่านี่คือบทเรียนราคาแพงของรัฐที่ล้มเหลว (Fragile State) ซึ่งพยายามใช้นวัตกรรมบังหน้าเพื่อซ่อนเร้นวาระซ่อนเร้นของผู้มีอำนาจ