xs
xsm
sm
md
lg

ควอนตัมคอมพิวเตอร์ ภัยคุกคามบิทคอยน์เสี่ยงเจาะเหรียญซาโตชิทำตลาดพัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วงการคริปโทเคอร์เรนซีเปิดศึกวิวาทะเดือด! ชาวเน็ตผวา “ควอนตัมคอมพิวเตอร์” อาจกลายเป็นมัจจุราชที่เจาะระบบความปลอดภัย Bitcoin ขโมยเหรียญในตำนานของ “ซาโตชิ นากาโมโตะ” กว่า 1 ล้าน BTC มาเทขายจนตลาดพังพินาศเหลือมูลค่าแค่ 3 ดอลลาร์ ด้านเซียนรุ่นเก๋า ‘Willy Woo’ ออกโรงต้านกระต่ายตื่นตูม ชี้ต่อให้เกิดวิกฤตจริง เหล่า ‘OG’ กระเป๋าหนักก็พร้อมกระโดดรับของถูก มั่นใจเครือข่ายไม่มีวันตาย แม้จะมีช่องโหว่ในกระเป๋ายุคเก่าก็ตาม

ประเด็นร้อนฉ่าบนโลกโซเชียลมีเดียปะทุขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อชุมชนนักลงทุน Bitcoin เริ่มถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อนถึง “จุดจบทางปรัชญาและกลไกตลาด” หากวันหนึ่งเทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวเตอร์ (Quantum Computer) พัฒนาไปไกลจนสามารถแฮกกระเป๋าเงินยุคบุกเบิกที่มีช่องโหว่ได้สำเร็จ

ภาพหลอนวันสิ้นโลก BTC เหลือ 3 ดอลลาร์

จุดเริ่มต้นของความตื่นตระหนกมาจาก Josh Otten ยูทูปเบอร์สายคริปโต ฯ ที่เปิดกราฟราคาจำลองสถานการณ์เลวร้ายสุดขั้ว (Worst-case Scenario) โดยชี้ว่า หากมีควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่มีพลังประมวลผลสูงเกิดขึ้นจริง และสามารถเจาะรหัสลับเพื่อขโมยเหรียญจำนวน 1 ล้าน BTC ของผู้สร้างปริศนาอย่าง ซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto) ออกมาเทขายในตลาด ราคา Bitcoin อาจดิ่งนรกแตะระดับ 3 ดอลลาร์ ได้ทันที

‘Willy Woo’ สยบตื่นตูม ชี้วิกฤตคือโอกาสของตัวจริง

ท่ามกลางความหวาดกลัว Willy Woo นักวิเคราะห์และนักลงทุน Bitcoin รุ่นลายคราม (Long-term holder) ได้ออกมาสยบข่าวลือด้วยมุมมองที่เก๋าเกมกว่า โดยระบุว่า “เหล่า OG (นักลงทุนรุ่นเก๋า) จำนวนมากพร้อมที่จะเข้าซื้อทันทีหากเกิด Flash Crash”

ที่มา: จอช ออตเทน
Woo ยืนยันว่าเครือข่าย Bitcoin จะยังคงอยู่รอดปลอดภัย เพราะเหรียญส่วนใหญ่ในระบบไม่ได้อยู่ในสถานะที่เสี่ยงต่อการถูกเจาะในทันที แต่เขาก็ยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า ปัจจุบันมี Bitcoin ประมาณ 4 ล้าน BTC (รวมถึงเหรียญของซาโตชิ) ที่ถูกเก็บไว้ในที่อยู่กระเป๋าแบบเก่าที่เรียกว่า Pay-to-Public-Key (P2PK)

ความเสี่ยงของ P2PK คือรูปแบบนี้จะเปิดเผย “กุญแจสาธารณะ” (Public Key) แบบเต็มรูปแบบบนบล็อกเชนเมื่อมีการทำธุรกรรม ซึ่งตามทฤษฎีแล้ว หากคอมพิวเตอร์ควอนตัมมีพลังมากพอ ก็อาจคำนวณย้อนกลับเพื่อหา “กุญแจส่วนตัว” (Private Key) และเข้าถึงเงินในกระเป๋าได้ในอนาคต ในขณะที่กระเป๋าเงินรูปแบบใหม่ๆ จะปลอดภัยกว่า เพราะจะไม่เปิดเผย Public Key จนกว่าจะมีการใช้งานจริง ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเจาะข้อมูลได้

Adam Back ฟันธง อีก 40 ปีค่อยมาคุยกัน

ด้าน Adam Back ซีอีโอของ Blockstream และหนึ่งในตำนาน Cypherpunk ยุคบุกเบิก มองว่าภัยคุกคามนี้เป็นเรื่องไกลตัวมาก โดยเขามั่นใจว่า Bitcoin จะยังไม่เผชิญกับภัยจากควอนตัมในอีก 20-40 ปีข้างหน้า

Back แย้งว่า ช่วงเวลาดังกล่าวถือว่า “เหลือเฟือ” สำหรับการอัปเกรดระบบไปสู่มาตรฐานการเข้ารหัสแบบ Post-Quantum Cryptography ซึ่งมีเทคโนโลยีรองรับอยู่แล้ว ก่อนที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีศักยภาพระดับเจาะระบบความปลอดภัยไซเบอร์ยุคปัจจุบันจะถูกสร้างขึ้นจริง

จำนวนบิทคอยน์ที่ซาโตชิ นากาโมโตะถือครอง ที่มา: Arkham Intelligence
James Check เตือน เทคโนโลยีรอด แต่ราคาอาจร่วง

อย่างไรก็ตาม James Check นักวิเคราะห์ตลาดมองต่างมุมว่า ภัยคุกคามจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยี เพราะผู้ใช้งานสามารถย้ายเหรียญไปสู่กระเป๋าแบบใหม่ที่ต้านทานควอนตัมได้ทันเวลา แต่ความเสี่ยงที่แท้จริงอยู่ที่ “ราคาตลาด”

Check ชี้ว่า ชุมชน Bitcoin ไม่มีทางเห็นพ้องต้องกันที่จะทำการ “อายัด” (Freeze) เหรียญของซาโตชิไว้ล่วงหน้าเพื่อป้องกันเหตุ ดังนั้นหากเกิดการแฮกขึ้นจริง เหรียญในตำนานเหล่านั้นจะถูกเทกลับเข้ามาหมุนเวียนในระบบ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพราคาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มากกว่าความล้มเหลวของตัวเทคโนโลยีเอง