‘Gemini’ แพลตฟอร์มคริปโตฯ ยักษ์ใหญ่ของคู่แฝด Winklevoss ได้รับไฟเขียวจากหน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ (CFTC) คว้าใบอนุญาตตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าผ่านบริษัทลูก ‘Gemini Titan’ เตรียมกระโจนสู่สมรภูมิ “ตลาดทำนายผล” (Prediction Markets) ในแดนลุงแซมเต็มตัว พร้อมขยายทัพสินค้าอนุพันธ์ครบวงจร ข่าวดีดันราคาหุ้น GEMI พุ่งทะยานกว่า 13.7% ในช่วง After-hours รับความหวังใหม่ท่ามกลางวิกฤตราคาหุ้นที่ดิ่งหนักนับแต่ IPO มั่นใจตลาดทำนายผลคือ “ขุมทรัพย์ใหม่” ที่อาจใหญ่กว่าตลาดทุนดั้งเดิม
Gemini แดนดินถิ่นคริปโตฯ ที่ก่อตั้งโดยมหาเศรษฐีฝาแฝด ไทเลอร์ และ คาเมรอน วิงเคิลวอสส์ (Tyler and Cameron Winklevoss) ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหม่ให้กับวงการสินทรัพย์ดิจิทัลสหรัฐฯ เมื่อประกาศว่าบริษัทในเครืออย่าง Gemini Titan ได้รับใบอนุญาตเป็น “ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า” (Designated Contract Market - DCM) จากคณะกรรมาธิการการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ความสำเร็จในครั้งนี้เปรียบเสมือนการปลดล็อกประตูบานใหญ่ให้ Gemini สามารถรุกเข้าสู่ “ตลาดทำนายผล” (Prediction Markets) ในสหรัฐอเมริกาได้อย่างเต็มภาคภูมิและถูกกฎหมาย โดยบริษัทระบุว่า “ในเร็วๆ นี้” ผู้ใช้งานในสหรัฐฯ จะสามารถซื้อขายสัญญาทำนายผลเหตุการณ์ต่างๆ (Event Contracts) ผ่านแพลตฟอร์มเว็บได้โดยตรง
ไม่เพียงแค่นั้น ใบอนุญาต DCM ยังเปิดทางให้ Gemini ขยายขอบเขตบริการด้านอนุพันธ์ (Derivatives) ในสหรัฐฯ ให้ครอบคลุมทั้ง Crypto Futures, Options และ Perpetual Contracts ซึ่งถือเป็นการเติมเต็มระบบนิเวศการเทรดให้ครบวงจรยิ่งขึ้น
หุ้นเด้งรับข่าวดี สัญญาณชีพกลับมาเต้นแรง
ทันทีที่มีการประกาศข่าว ราคาหุ้นของ Gemini (GEMI) ได้ตอบรับในเชิงบวกอย่างรุนแรง โดยพุ่งขึ้นถึง 13.7% แตะระดับ 12.92 ดอลลาร์ ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ (After-hours) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แม้ว่าในระหว่างวันจะปิดลบเล็กน้อยที่ 0.7% ก็ตาม
การดีดตัวครั้งนี้ถือเป็น “น้ำทิพย์ชโลมใจ” สำหรับนักลงทุน หลังจากที่หุ้น Gemini ต้องเผชิญมรสุมลูกใหญ่นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) เมื่อวันที่ 12 กันยายน โดยราคาร่วงลงไปแล้วกว่า 64.5% ท่ามกลางสภาวะตลาดคริปโตฯ ที่ยังลูกผีลูกคนและไม่สามารถรักษาระดับการฟื้นตัวได้
วิสัยทัศน์ ‘Winklevoss’ เดิมพันที่ใหญ่กว่าตลาดทุน
คาเมรอน วิงเคิลวอสส์ ประธานของ Gemini แสดงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าต่อทิศทางใหม่นี้ โดยกล่าวว่า “ตลาดทำนายผลมีศักยภาพที่จะเติบโตจนมีขนาดเท่ากับ หรืออาจจะ ‘ใหญ่กว่า’ ตลาดทุนแบบดั้งเดิมเสียอีก”
ขณะที่ ไทเลอร์ วิงเคิลวอสส์ ซีอีโอของบริษัท เปิดเผยเบื้องหลังความสำเร็จว่า Gemini ได้ยื่นขอใบอนุญาตนี้มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 การอนุมัติในครั้งนี้จึงถือเป็น “บทสรุปของการเดินทางยาวนาน 5 ปี และเป็นจุดเริ่มต้นบทใหม่ของ Gemini”
สมรภูมิเดือด ท้าชนเจ้าถิ่น-ฝ่ากระแสดราม่า ‘การพนัน’
การกระโจนเข้าสู่ตลาดทำนายผลของ Gemini เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดนี้กำลัง “บูม” ถึงขีดสุด แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Polymarket และ Kalshi ต่างทำสถิติปริมาณการซื้อขายสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน โดย Kalshi เพิ่งปิดดีลระดมทุน 1 พันล้านดอลลาร์ ดันมูลค่าบริษัทแตะ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ตลาดทำนายผลยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์จากบางฝ่ายว่ามีลักษณะคล้าย “การพนัน” และหน่วยงานกำกับดูแลในหลายรัฐของสหรัฐฯ ได้เริ่มดำเนินการทางกฎหมายกับแพลตฟอร์มบางแห่ง โดยอ้างว่าเป็นการเปิดรับพนันกีฬาโดยไม่ได้รับอนุญาต
ยุทธศาสตร์ ‘Super App’ มากกว่าแค่กระดานเทรด
การรุกคืบครั้งนี้เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในแผนยุทธศาสตร์ใหญ่ของ Gemini ที่ต้องการยกระดับตัวเองสู่การเป็น “Super App” ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์คริปโทฯ หลากหลายรูปแบบไว้ในที่เดียว เพื่อสร้างความแตกต่างและหารายได้จากช่องทางใหม่ๆ เพื่อชดเชยผลขาดทุนจากการเข้าตลาดหลักทรัพย์
Gemini กำลังวิ่งแข่งกับเวลาและคู่แข่งรายอื่นๆ ที่เริ่มขยับตัวขยายบริการเกินกว่าการเทรดแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น Trust Wallet ที่เพิ่งเปิดตัวตลาดทำนายผล หรือแม้แต่ Coinbase ที่มีข่าวลือหนาหูว่ากำลังซุ่มสร้างแพลตฟอร์มทำนายผลโดยมี Kalshi หนุนหลัง
การคว้าใบอนุญาต CFTC ในครั้งนี้ จึงเป็นแต้มต่อสำคัญที่ทำให้ Gemini ก้าวขึ้นมายืนในจุดที่ “ได้เปรียบ” ในฐานะผู้เล่นที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานระดับชาติ ท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังดุเดือดเลือดพล่าน


