xs
xsm
sm
md
lg

คดีอาชญากรรมตลาดหุ้นยังพุ่งพรวด / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ต้นสัปดาห์นี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แถลงถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเปิดเผยถึงคดีความผิดในตลาดหุ้นที่ดำเนินการลงโทษย้อนหลัง 3 ปีคือ ระหว่างปี 2566 ถึง 2568 ซึ่งมีสถิติการกระทำผิดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การใช้มาตรการลงโทษผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฯ มีทั้งการกล่าวโทษทางอาญา การดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่ง และการลงโทษทางปกครอง โดยความผิดหลัก เช่น การกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขาย สร้างราคาหุ้น ใช้ข้อมูลภายใน การทุจริต การแสดงข้อความอันเป็นเท็จ และการประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต

ช่วง3 ปีที่ผ่านมา คดีความผิดต่าง ๆ ในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นตลอด โดยปี 2566 ก.ล.ต.ดำเนินคดีอาญาผู้กระทำความผิด 72 คดี ผู้กระทำผิด 217 ราย การดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่ง 10 คดี ผู้กระทำผิด 44 ราย และ และดำเนินมาตรการทางปกครอง 19 ราย

ปี 2567 ดำเนินคดีอาญา 112 ราย ผู้กระทำผิด 261 ราย ดำเนินมาตรการทางแพ่ง 16 คดี ผู้กระทำผิด 73 ราย และดำเนินการทางปกครอง 12 ราย ปี 2568 ดำนินคดีอาญา 136 คดี ผู้กระทำผิด 242 ราย ดำเนินมาตรการทางแพ่ง 22 คดี ผู้กระทำผิด 119 รายและดำเนินการทางปกครอง 12 ราย

สถิติการกระทำความผิดในตลาดทุนที่เพิ่มขึ้น เป็นผลพวงของการเพิ่มประสิทธิภาพงานตรวจสอบและการบังคับใช้กฎหมาย โดยเริ่มจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง การรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่า มีการกระทำผิดตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบแต่ละกรณีมีระยะเวลาที่แตกต่างกัน ขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น แหล่งที่มาของพยานหลักฐาน ปริมาณข้อมูลที่ต้องพิจารณา และความซับซ้อนของการกระทำความผิด

สถิติการดำเนินคดีอาชญากรรมในตลาดทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความผิดในตลาดหุ้น หรือความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ฯ ถ้ามองในแง่ดี จะสะท้อนให้เห็นว่า ก.ล.ต.มีการตรวจสอบและการดำเนินคดีที่เข้มข้นขึ้น

แต่ถ้ามองในมุมกลับ ตัวเลขคดีที่เพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นถึง การกระทำความผิดในตลาดหุ้น ซึ่งไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย แม้ว่า ภาวะตลาดหุ้นโดยรวมซบเซาขนาดหนัก แต่บรรดาแก๊งมิจฉาชีพ หรือกลุ่มอาชญากรในตลาดหุ้น ยังคงปฏิบัติการปล้น สร้างความเสียหายซ้ำเติมประชาชนผู้ลงทุนอยู่ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย หรือบทลงโทษของ ก.ล.ต. แต่อย่างใด

ปี 2568 เป็นอีกปีที่ตลาดหุ้นตกต่ำอย่างหนัก ดัชนี ฯ ถอยรูดนับจากต้นปี มูลค่าซื้อขายหุ้นเบาบางที่สุดในรอบหลายปี นักลงทุนรายย่อยขาดทุนกันถ้วนหน้า จนส่วนหนึ่งต้องถอยห่างจากตลาดหุ้น หยุดการซื้อขายชั่วคราว ซึ่งสถิติการก่ออาชญากรรมหรือการกระทำความผิด โดยการเอารัดเอาเปรียบนักลงทุนทั่วไปน่าจะลดลง

แต่สถิติคดีความผิดร้ายแรง และมีการดำเนินคดีทางอาญากลับพุ่งพรวด เพียง 11 เดือนแรกถึง 136 คดี แสดงว่า บรรดาอาชญากรในตลาดหุ้นไม่เคยหยุด โดยรอจังหวะเวลาที่จะโกงนักลงทุนอยู่ตลอดเวลา และไม่สนใจว่า ก.ล.ต.จะมีความเข็มงวดในการตรวจสอบ และมีประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายอย่างไร

นักลงทุนคงไม่ต้องการเห็นสถิติคดีอาชญากรรมในตลาดหุ้นที่เพิ่มขึ้น แต่อยากให้ ก.ล.ต. ดำเนินมาตรการที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ปราบอาชญากรในตลาดหุ้นให้สิ้นซ่าก ทำกฎหมายให้มีความศักดิ์สิทธิ์ ลงโทษหนักผู้กระทำความผิด โดยไม่ต้องหวั่นเกรงผลกระทบใด

สถิติอาชญากรรมในตลาดหุ้นตามที่พุ่งพรวด อาจเป็นการอวดผลงานการปราบโกงของ ก.ล.ต. แต่สำหรับนักลงทุน กลายเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่า

ตลาดหุ้นยังเป็นศูนย์รวมของเหล่ามิจฉาชีพ ที่แฝงตัวเข้ามาในคราบกลุ่มคนหลากหลายอาชีพ โดยเฉพาะอาชญากรในคราบผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน

ประชาชนผู้ลงทุน ไม่ได้ชื่นชมกับผลงานการดำเนินคดีผู้กระทำผิดในตลาดหุ้นเท่าไหร่นัก แต่ต้องการให้ ก.ล.ต.ทำให้ตลาดหุ้น ปลอดจากการกระทำผิดใด ๆ

ทุกคนต้องการให้การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นไปอย่างโปร่งใส การซื้อขายหุ้นเป็นไปอย่างบริสุทธิ ยุติธรรม บนความเท่าเทียมกัน โดยไม่มีใครปล้นหรือเอานักลงทุนเหมือนที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้








กำลังโหลดความคิดเห็น