จับตาความเคลื่อนไหวจักรวาลคริปโตฯ “SpaceX” ของเจ้าพ่อเทคโนโลยี “อีลอน มัสก์” สร้างแรงกระเพื่อมอีกครั้ง หลังตรวจพบธุรกรรมโอนย้ายบิทคอยน์จำนวน 1,163 BTC มูลค่ากว่า 105 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3,600 ล้านบาท ไปยังกระเป๋าเงินใบใหม่ในช่วงเช้าตลาดเอเชีย นักวิเคราะห์ประสานเสียง เชื่อเป็นการจัดระเบียบสินทรัพย์เข้าสู่ระบบผู้ดูแลรับฝาก (Custody) มากกว่าการทุบขายทิ้ง ชี้เป้าหมายปลายทางส่อแววเป็น Coinbase Prime ขณะที่ราคาบิทคอยน์ดีดตัวกลับเหนือ 90,000 ดอลลาร์ รับข่าวความเชื่อมั่นสถาบันที่ยังเหนียวแน่น
SpaceX บริษัทสำรวจอวกาศยักษ์ใหญ่ภายใต้การอุ้งมือของ อีลอน มัสก์ ได้ทำการโอนย้ายบิทคอยน์จำนวน 1,163 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าตลาดประมาณ 105 ล้านดอลลาร์ ไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลใบใหม่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยธุรกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเช้าตามเวลาการซื้อขายในเอเชีย และมีการคาดการณ์อย่างหนาหูว่าปลายทางของธุรกรรมนี้คือ Coinbase Prime ซึ่งเป็นบริการดูแลรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับลูกค้าสถาบัน สะท้อนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการความปลอดภัยทรัพย์สิน (Custody Strategy) มากกว่าสัญญาณการเทขาย
ข้อมูลเชิงลึกจาก Arkham Intelligence ระบุว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งเดือนหลังจากที่ SpaceX ได้ทำการโอนย้ายบิทคอยน์ล็อตใหญ่ไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้นมีการกระจายเหรียญจำนวน 1,215 BTC ไปยังกระเป๋าเงินใหม่หลายบัญชี รวมมูลค่ากว่า 133.7 ล้านดอลลาร์
ภายหลังจากการโอนย้ายล่าสุด ส่งผลให้ปัจจุบันกระเป๋าเงินของ SpaceX ถือครองบิทคอยน์รวมทั้งสิ้น 6,095 BTC คิดเป็นมูลค่าเกือบ 553 ล้านดอลลาร์ และจากการจัดอันดับของ BitcoinTreasuries ส่งผลให้ SpaceX รั้งอันดับ 4 ในทำเนียบบริษัทเอกชน (Private Companies) ที่ถือครองบิทคอยน์มากที่สุดในโลก
เน้นถือครอง ไม่เน้นทุบ
เส้นทางการเงินของ SpaceX มีความน่าสนใจในเชิงยุทธศาสตร์ โดยพบว่ากระเป๋าเงินของบริษัทเคยตกอยู่ในภาวะจำศีล (Dormant) มานานถึง 3 ปี ก่อนจะกลับมามีความเคลื่อนไหวอีกครั้งในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2568 ทั้งนี้ ย้อนกลับไปในปี 2565 บริษัทเคยถือครองบิทคอยน์สูงสุดถึง 25,000 BTC ก่อนจะมีการปรับพอร์ตและลดสัดส่วนการถือครองลงมาสู่ระดับปัจจุบัน
แม้เหตุผลเบื้องหลังการโอนย้ายครั้งล่าสุดจะยังคลุมเครือ และทางบริษัทยังคงสงวนท่าที ไม่ได้ออกแถลงการณ์ใดๆ ว่าเป็นการเตรียมขาย ปรับโครงสร้างภายใน หรือเพียงแค่ยกระดับมาตรการความปลอดภัย แต่นักวิเคราะห์ตลาดส่วนใหญ่มองเกมขาดว่า “นี่คือการจัดระเบียบระบบรับฝากทรัพย์สิน (Custody)” ไม่ใช่การเตรียมชิงเทขาย (Liquidation)
เสียงสะท้อนจากชุมชนนักลงทุนบนแพลตฟอร์ม X (Twitter) มองว่า การขยับตัวของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง SpaceX มักเป็นการ “วางตำแหน่ง” (Positioning) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับบางสิ่ง
“นี่อาจเป็นเพียงขั้นตอนปกติของการดูแลสินทรัพย์ แต่ก็สร้างความไม่แน่นอนในระดับที่ไม่อาจเพิกเฉยได้” ผู้ใช้งานรายหนึ่งระบุ
อย่างไรก็ตาม จุดสังเกตสำคัญคือ กระเป๋าเงินปลายทางที่รับเหรียญไปนั้น ยังคงอยู่ในสถานะ “นิ่งสนิท” ไม่มีการโอนออก ไม่มีการปฏิสัมพันธ์กับกระดานเทรด (Exchange) และไร้ร่องรอยของการเทขาย ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันในระดับหนึ่งว่าเหรียญเหล่านี้ยังถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย
“เมื่อสถาบันระดับ SpaceX ขยับบิทคอยน์ พวกเขาไม่ได้ทำด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ตลาดอาจต้องใช้เวลาตีความเจตนา แต่สัญญาณนั้นชัดเจนแล้ว บางครั้งการโอนย้ายที่เงียบเชียบ ก็ส่งเสียงดังกว่าคำแถลงการณ์” นักลงทุนอีกรายให้ความเห็น
ในขณะเดียวกัน อีกหนึ่งอาณาจักรของอีลอน มัสก์ อย่าง Tesla ยังคงรักษาสถานะการลงทุนในบิทคอยน์ไว้อย่างเหนียวแน่น โดยปัจจุบันถือครองอยู่ 11,509 BTC มูลค่าประมาณ 1.05 พันล้านดอลลาร์ ครองอันดับ 11 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Publicly Traded Firms) ที่ถือครองบิทคอยน์มากที่สุด
บิทคอยน์ผงาดเหนือ 90,000 ดอลล์ รับแรงซื้อกลับ
ด้านสถานการณ์ราคาตลาด บิทคอยน์ (BTC) ดีดตัวขึ้นแรง 4.35% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เป็นการฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากร่วงลงหนักเกือบ 20% ในรอบเดือน สอดคล้องกับภาพรวมตลาดคริปโตฯ ที่ปรับตัวขึ้น 3.35%
ราคาสามารถดีดกลับ (Rebound) จากโซนแนวรับสำคัญที่บริเวณ 86,000 ดอลลาร์ ตามที่นักวิเคราะห์ เลนนาร์ต สไนเดอร์ ได้ชี้เป้าไว้ โดยการพุ่งขึ้นครั้งนี้กำลังเผชิญกับแนวต้านระยะสั้นที่ 89,000 ดอลลาร์ ซึ่งหากสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ 93,000 ดอลลาร์
ล่าสุด ข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่า บิทคอยน์มีการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 91,348 ดอลลาร์ ณ เวลาที่รายงานข่าว สะท้อนให้เห็นว่าแรงซื้อยังคงกลับเข้ามาหนุนตลาด ท่ามกลางข่าวความเคลื่อนไหวของวาฬตัวเป้งระดับโลก


