xs
xsm
sm
md
lg

สินทรัพย์ทางเลือกเลือดนอง! เหรียญมีม-NFT กอดคอดิ่งนรกทำนิวโลว์ปี 68 เซ่นวิกฤตศรัทธา-มูลค่าหายวับ 5 พันล้านดอลล์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดคริปโต ฯ เผชิญ “วันวิปโยค” ครั้งใหญ่ หลังแรงเทขายมหาศาลถล่มภาค Meme Coin และ NFT จนมูลค่าสูญไปกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ในชั่วพริบตา เป็นผลพวงจากการล่มสลายของเหรียญคนดังและเหรียญการเมือง ขณะที่ตลาด NFT อาการสาหัส ดิ่งลงกว่า 43% แตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ตอกย้ำสัญญาณ “อวสานนิยายขายฝัน” ของสะสมดิจิทัลสุดหรู ที่นักเก็งกำไรพากันเทขายล้างพอร์ตยอมจำนน

ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทางเลือก (Alternative Crypto Assets) ต้องจารึกสถิติอันเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อเหรียญมีม (Meme Coins) และสินทรัพย์ประเภท NFT (Non-Fungible Tokens) ถูกถล่มขายจนมูลค่าหายไปหลายพันล้านดอลลาร์ ขยายผลการปรับฐานลงที่ยืดเยื้อมาหลายสัปดาห์ในภาคสินทรัพย์ดิจิทัล

ข้อมูลจาก CoinMarketCap และ CoinGecko ชี้ชัดไปในทิศทางเดียวกันว่า สินทรัพย์เก็งกำไรเหล่านี้ได้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดของปี 2568 (2025) โดยได้รับแรงกดดันจากการขาดทุนอย่างหนักของพี่ใหญ่อย่าง Bitcoin, Ethereum และสกุลเงินดิจิทัลหลักอื่นๆ

 มูลค่าตลาดเหรียญมีม ที่มา : CoinMarketCap
เหรียญมีมกระอักเลือด! ทรุดฮวบ 66% จากยอดดอยมกราคม

ภาคส่วนเหรียญมีมถือเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักหนาสาหัสที่สุด มูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) ของกลุ่มนี้ดิ่งลงเหลือเพียง 3.94 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันก่อนหน้า เท่ากับว่าเม็ดเงินกว่า 4.6 พันล้านดอลลาร์ ได้อันตรธานหายไปภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง แม้ปริมาณการซื้อขายจะพุ่งสูงขึ้นถึง 40% ซึ่งสะท้อนถึงแรงขายหนีตายของผู้เล่นในตลาด

การเทขายครั้งนี้เป็นการซ้ำเติมภาวะขาลงที่เริ่มก่อตัวมาตั้งแต่จุดสูงสุดของวัฏจักรเมื่อวันที่ 5 มกราคม ซึ่งขณะนั้นมูลค่าตลาดเคยพุ่งทะยานถึง 1.167 แสนล้านดอลลาร์ เท่ากับว่ามูลค่าปัจจุบันได้หายไปแล้วถึง 66.2% จากจุดสูงสุดดังกล่าว

เหรียญหมา-กบ-หมู’ เละยกแผง

ความเสียหายแผ่ขยายไปทั่วกระดาน โดยเฉพาะเหรียญขวัญใจมหาชน เช่น
Dogecoin (DOGE) : ซื้อขายอยู่ที่ 0.1426 ดอลลาร์ แม้จะมีแรงรีบาวด์รายชั่วโมง แต่ภาพรวมยังติดลบ 4.21% รายวัน และทรุดลงกว่า 12.88% ในรอบสัปดาห์

Shiba Inu (SHIB) : ตามรอยลูกพี่ ร่วงลงมาที่ 0.000057987 ดอลลาร์ ลบไปถึง 14.04% ในรอบสัปดาห์

ขณะที่ Pepe, Bonk และ Floki : อาการหนักกว่า โดยดิ่งลงแรงกว่า 17% ในรอบสัปดาห์

และ Dogwifhat (WIF) : บาดเจ็บสาหัสที่สุด ปรับตัวลดลงถึง 21.13% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องการซื้อขายยังคงกระจุกตัวอยู่ในสินทรัพย์ขนาดใหญ่ โดย Dogecoin มีปริมาณการซื้อขายเกือบ 3.95 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่เหรียญเล็กเหรียญน้อยมีวอลุ่มเพียงหลักล้านต้นๆ เท่านั้น

ท่ามกลางทะเลเลือด มีเพียงสินทรัพย์ไม่กี่ตัวที่ยังพอต้านทานแรงโน้มถ่วงได้บ้าง เช่น เหรียญ Official Trump ที่ขยับขึ้นเล็กน้อยในรายชั่วโมงแต่ยังคงปิดสัปดาห์ลบ 13.53% ขณะที่ SPX6900 เป็นเหรียญมีมหลักเพียงหนึ่งเดียวที่ปิดสัปดาห์ในแดนบวกที่ 14.04% แม้จะมีความผันผวนระยะสั้นก็ตาม

ที่มา: CoinMarketCap
แรงกดดันมหภาค ฉุดตลาดรวมสูญ 8 แสนล้านดอลล์ ใน 3 สัปดาห์

ภาพความอ่อนแอของตลาดมีม เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพใหญ่ที่กำลังทรุดตัว มูลค่าตลาดคริปโตฯ โดยรวมลดลงเหลือ 2.99 ล้านล้านดอลลาร์ หายไป 2.2% จากวันก่อนหน้า และลดลงฮวบฮาบจากระดับ 3.77 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 8 แสนล้านดอลลาร์ ในเวลาเพียง 3 สัปดาห์

โดย Bitcoin (BTC) ซื้อขายที่ระดับ 85,023 ดอลลาร์ ลดลงเกือบ 15% ในรอบสัปดาห์ ส่วน Ethereum (ETH) เคลื่อนไหวทรงตัวแถว 2,785 ดอลลาร์ สะท้อนความผันผวนหนัก

ขณะที่ Solana และ BNB กอดคอกันร่วงสองหลักในรายสัปดาห์ และยังไม่สามารถกลับตัวจากโมเมนตัมขาลงของเดือนนี้ได้

มูลค่าตลาดรวมของคริปโตที่มา: CoinGecko
ปิดฉากของหรู? ตลาด NFT ดิ่งเหว 43% แตะจุดต่ำสุดใหม่

ตลาด NFT (Non-Fungible Token) ซึ่งเคยเปรียบเสมือน “งานศิลปะแห่งโลกอนาคต” ก็พังทลายลงไม่ต่างกัน ข้อมูลจาก CoinGecko ระบุว่า มูลค่าตลาด NFT ทั่วโลกเมื่อวันศุกร์ เหลือเพียง 2.78 พันล้านดอลลาร์ทรุดลงถึง 43% จากระดับ 4.9 พันล้านดอลลาร์เมื่อ 30 วันก่อนหน้า

ตัวเลขนี้ถือเป็นจุดต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่เดือนเมษายน และหากเทียบกับยุคทองช่วงต้นปี 2565 ที่มูลค่าเคยพุ่งสูงเฉียด 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ เท่ากับว่าตลาดนี้ได้หดตัวลงไปแล้วกว่า 80% กราฟระยะยาวบ่งชี้ชัดเจนว่า NFT กำลังเข้าสู่ช่วงการปรับฐานที่ยาวนาน (Prolonged Correction) หลังจากฟองสบู่แตก โดยปริมาณการซื้อขายทั่วโลกเหลือเพียง 3.99 ล้านดอลลาร์ต่อวัน สะท้อนปัญหาสภาพคล่องที่เหือดแห้ง

มูลค่าตลาด NFT ทั้งหมด ที่มา : CoinGecko
คอลเลกชันดังพาเหรดร่วง - OpenSea ดิ้นปรับโมเดลหนีตาย

คอลเลกชันระดับบลูชิปต่างเผชิญกับแรงเทขายอย่างหนักในรอบเดือน ไม่ว่าจะเป็น Hypurr (Hyperliquid) ปรับตัวร่วง 41.1% ขณะที่ Moonbirds ดิ่ง 32.7% ส่วน CryptoPunks แม้จะยังครองบัลลังก์มูลค่าสูงสุด (Floor Price 29.89 ETH) แต่ราคาก็ลดลงถึง 27.1% ขณะที่ Pudgy Penguins เองก็ลดลง 26.6%

ทั้งนี้มีเพียง Infinex Patrons ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น +11.3% และ Autoglyphs ที่เคลื่อนไหนทรงตัวและยังพอเอาตัวรอดได้

ที่มา: CoinGecko
ในแง่ของกิจกรรมบนเครือข่าย Ethereum ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดที่ 62.4% ของปริมาณการซื้อขาย 38.5 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ ตามมาด้วย HyperEVM, Base และ Solana

อย่างไรก็ตาม ในแง่จำนวนผู้ใช้งาน Base กลับมาแรงด้วยยอดเทรดเดอร์ 253,000 ราย ทิ้งห่างเครือข่ายอื่นแบบไม่เห็นฝุ่น

ท่ามกลางวิกฤตนี้ แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง OpenSea อดีตราชันย์แห่งยุค NFT Boom ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ด้วยการรีแบรนด์สู่การเป็น “Aggregator” หรือผู้รวบรวมการซื้อขายคริปโต ฯ แบบ Multi-chain หลังจากวอลุ่ม NFT หายไปกว่า 90% จากปี 2564 โดยล่าสุด OpenSea รายงานยอดธุรกรรมคริปโต ฯ 1.6 พันล้านดอลลาร์ และ NFT 230 ล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปี สะท้อนการดิ้นรนหาทางรอดในสมรภูมิสินทรัพย์ดิจิทัลที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง