xs
xsm
sm
md
lg

อีซี่มันนี่โชว์พอร์ต2.7หมื่นล้าน-รุกสินเชื่อมีทรัพย์ประกัน-วาดแผนเข้าตลาดฯใน2-3ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายสิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ ประธานกรรมการบริหาร อีซีมันนี่ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา อีซี่มันนี่มีแนวทางที่จะพัฒนาการดำเนินธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นจากโรงรับจำนำมาเป็นสินเชื่อทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อเป็นการเปลี่ยนมุมมองของสังคมที่มีต่อโรงรับจำนำมาเป็น 'เครื่องมือสร้างโอกาส'ที่โปร่งใส รวดเร็ว และให้เกียรติผู้ใช้บริการ โดย 20 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเติบโตต่อเนื่องจนมีเครือข่าย 98 สาขา และพอร์ตสินเชื่อคงค้างจำนวน 27,000 ล้านบาท จำนวนลูกค้าประมาณ 7 แสนราย

"หนึ่งในช่องว่างสำคัญในระบบการเงินไทยคือ ผู้คนจำนวนมากมีทรัพย์สินอยู่ในมือ แต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนในระบบ ช่องว่างดังกล่าวเหมือน 'จิ๊กซอว์ที่หายไป' โดยคำว่าเครื่องมือสร้างโอกาสของเรานั้น หมายถึง ไม่ใช่การก่อหนี้ใหม่ แต่เป็นการกู้ยืมจากสินทรัพย์ของตัวเองมาเปลี่ยนเป็นเงินนำไปเสริมสภาพคล่องหรือต่อยอดในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มฟรีแลนซ์ SME ที่ระบบหลักมองข้าม ยกตัวอย่างเช่น กรณีลูกค้าได้งานชิ้นใหญ่ทำให้เงินที่มีอยู่ไม่พอลงทุน ก็เอาทรัพย์ที่มีมาไว้ที่เรา เมื่อเสร็จงานได้ค่าจ้างก็มาไถ่คืน หรือถ้าโครงการยาวก็ต่อสัญญาได้ เพราะกฎหมายระบุระยะเวลาไว้ที่รอบละ 5 เดือน ซึ่งเรามองที่กลุ่มนี้เพราะเป็นกลุ่มที่ทำมาหากินแล้วถึงมีทรัพย์ เมื่อขาดสภาพคล่องจึงนำมาค้ำฯเพื่อเดินหน้าต่อไปมากกว่ากลุ่มที่เอาเงินไปแล้วใช้ผิดวัตถุประสงค์"

นายสุธี พนาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตั้งธนสิน จำกัด กล่าวว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้ 11,997 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,188 ล้านบาท เติบโต 2.68%% และ 43.96% คาดการณ์พอร์ตสินเชื่อ ณ สิ้นปีนี้ใกล้เคียง 30,000 ล้านบาทเติบโต 30% หรือแตะระดับ 40,000 ล้านบาทในปีหน้า ประเมินจากยอดสินเชื่อต่อเดือนเฉลี่ยประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยทรัพย์ยอดนิยม 5 อันดับแรกได้แก่ ทองคำ ,เพชร, นาฬิกา ,พระเครื่อง และสินค้าแบรนด์เนม ในอัตราดอกเบี้ย 1.25%ต่อเดือน มีอัตราหลุดไถ่ถอน 4%

"ในช่วงที่ผ่านมาตัวแปรที่มีความสำคัญเพิ่มขึ้นก็คือราคาทองคำที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างรวดเร็ว และมีผลต่อรายได้ของเราเช่นกัน ซึ่งตรงนี้ก็จะต้องมีความระมัดระวังแล้วก็จะส่วนต่างระหว่างมูลค่าสินทรัพย์กับราคารับจำนำที่เพิ่มขึ้น-ลดลงตามความผันผวนของราคาทองคำ แต่รายได้หลักๆของเราคือรายได้จากดอกเบี้ย ส่วนรายได้จากการขายมีไม่มาก เนื่องจากอัตราทรัพย์หลุดมีประมาณ 4 เท่านั้น"

ด้านเงินทุนนั้นปัจจุบันที่บริษัทมีวงเงินสินเชื่อจาก 3 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ,ธนาคารออมสิน และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ รวมมูลค่า 3,000 ล้านบาทแล้ว ก็ยังมีวงเงินกู้จากธนาคารพันธมิตรอยู่อีกจำนวนหนึ่งซึ่งก็นับว่าเพียงพอรองรับการดำเนินธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีแผนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม

"ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ทำงานอย่างหนักเพื่อลบภาพจำเดิมของ'โรงรับจำนำ'ที่เป็นเพียงทางเลือกสุดท้าย สู่การเป็นสถาบันการเงินที่มอบประสบการณ์ใหม่ และจะยังเดินหน้าทำอย่างต่อเนื่อง โดยการเปลี่ยนแปลงในทางปฏิบัติจะขับเคลื่อนผ่าน 3 เสาหลัก ได้แก่ ประสบการณ์ใหม่ , เทคโนโลยี และการพัฒนาคน โดยที่ผ่านมาเราได้ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในด้านของ Warehouse และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ขณะเดียวกันก็ขาดการพัฒนาบุคลากรไม่ได้ เนื่องจากธุรกิจของเรา การประเมินราคาสินทรัพย์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก และยังต้องใช้คนทำเป็นหลัก"
กำลังโหลดความคิดเห็น