xs
xsm
sm
md
lg

กูรู ”บิทคอยน์” พานักเก็งกำไรไปตาย / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นักเก็งกำไรเงินสกุลดิจิทัล แทบเจ็บปางตาย หลังขากราคาคอยน์สกุลต่าง ๆ ร่วงกันระเนระนาด โดยเฉพาะบิทคอยน์ เงินดิจิทัลยอดนิยมที่สุด ซึ่งทรุดลงเหลือเพียง 89,409 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 บิทคอยน์

การคาดหมายว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะไม่ลดลงในเดือนธันวาคมนี้ โดยจะตรึงอยู่ที่ 4% ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทุกประเภทปักหัวลงอย่างหนัก ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นทั่วโลก น้ำมัน ทองคำและเงินดิจิทัล

ราคาบิทคอยน์เคยสร้างจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 126,110 จุด เมื่อไม่นานมานี้

การพุ่งทะยานของบิทคอยน์ ทำให้เกิดกูรู เกิดผู้รู้ เกิดผู้เชี่ยวชาญในเงินสกุลดิจิทัลมากมาย ทั้งที่ในโลกใบนี้ ไม่มีใครรู้จริงในแนวโน้มราคาเงินดิจิทัล รวมทั้งบิทคอยน์ มีแต่พวกขี้โม้ พวกคุยโว เพื่อเรียกเรตติ้ง

คนจำนวนมาก กันกลับมาให้ความสนใจ การเก็งกำไรบิทคอยน์กันอีกครั้ง หลังจากถอยหนี้ และหมดเนื้อหมดตัวกันครั้งใหญ่ ในการพังทะลายของเงินดิจิทัลรอบก่อน

โบรกเกอร์เงินดิจิทัลเจ้าใหญ่ ทั้งในและต่างประเทศ กำลังปลุกกระแสการเก็งกำไร เงินดิจิทัล โดยการจัดสัมมนาเกี่ยวกับเงินดิจิทัลเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนของโบรกเกอร์ซื้อขายเงินดิจิทัลแห่งหนึ่ง ผู้คนแห่เข้าร่วมฟังสัมมนาอย่างล้นหลาม

ความเพ้อฝันในความร่ำรวยเพียงพริบตา การเก็งกำไรเงินดิจิทัลถูกปลุกเร้า จากบรรดากูรูเงินดิจิทัล ซึ่งจำนวนไม่น้อยเป็นกูรูที่สถาปนาตัวเองขึ้นมา และมองโลกสุดสวย พูดถึงแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของบิทคอยน์อย่างสดใส เชียร์สุดลิ่มทิ่มประตูให้ทุกคนต้องซื้อบิทคอยน์เก็บ เพราะราคาจะขึ้นไปถึงดวงดาว

การสถาปนาตัวเองเป็นกู้รูเงินดิจิทัล เชียร์สนั่นให้ผู้คนแห่เข้าไปเก็งกำไร โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต และไม่ต้องรับผิดชอบใดๆต่อความเสียหายที่จะตามมา ไม่แตกต่างจากบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ที่ออกมาขายสินค้าตามหน้าจอทีวีหรือสื่อโซเชียล โดยบรรยายสรรพคุณสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพหรืออาหารเสริมอย่างเลิศหรู และเข้าข่ายเกินจริง

แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปตรวจสอบว่า มีการโฆษณาเกินจริงหรือไม่ โดยเฉพาะการที่สินค้าถูกสั่งซื้อหมดในพริบตา จนต้องขอเพิ่มยอดสินค้าที่นำเสนอขายในราคาพิเศษช่วงที่โฆษณาขาย

จีนเพิ่งออกประกาศควบคุมใชบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้นำเสนอคอนเทน เกี่ยวกับสุขภาพ การเงิน กฎหมายและการศึกษาอย่างจริงจัง โดยต้องมีประกาศนียบัตรปริญญาหรือใบอนุญาตในวิชาชีพ เพื่อยืนยันว่าเป็นรผู้ที่มีความรู้จริง ไม่ใช่พวกอวดอ้างสถาปนาตัวเองเป็นผู้รู้ เหมือนที่เกิดขึ้นเกร่อในประเทศไทย

ใครแหกกฎ จะมีโทษปรับประมาณ 4.5 แสนบาท และกฎระเบียบใหม่ควบคุมอินฟลูเอนเซอร์ของจีน ปรากฏว่า ได้รับการตอบสนองจากประชาชนผู้บริโภคจำนวนมาก เพราะจะช่วยปกป้องประชาชนจากเนื้อหาที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือคำแนะนำที่เป็นอันตรายในโลกออนไลน์

เงินดิจิทัลถือเป็นส่วนหนึ่งในภาคการเงิน แม้ว่าประชาคมโลก อาจมจำนวนครึ่งต่อครึ่งที่ยอมรับและไม่ยอมรับก็ตาม แต่ต้องยอมรับว่า มีคนจำนวนไม่น้อย พร้อมจะเสี่ยงดวง หวังรวยเร็วรวบรัดจากการเล่นบิทคอยน์หรือเงินดิจิทัลสกุลอื่นก็ตาม

ยิ่งมีเสี่ยงยุ มีแรงเชียร์ของบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ จะยิ่งปลุกเร้าให้ผู้คนกระเหี้ยนกระหือรือเข้าไปวัดดวงกับเงินในอากาศที่ไม่อาจจับต้องได้มากขึ้น ซึ่งอาจเกิดหายนะครั้งใหญ่ตามมาอีก หลังจากที่เกิดภาวะล่มสลายของเงินดิจิทัลหลายรอบแล้ว

จีนเริ่มสกัดกั้น ต้นตอของบการปลุกเร้าเรื่องทางการเงินแล้ว โดยเข้มงวดกับกฎการควบคุมอินฟูเอนเซอร์ที่แนะนำด้านการเงินผ่านสื่อ แต่ไทยยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ในการออกกฏควบคุมอินฟลูเอนเซอร์ที่แนะนำการลงทุน แนะนำการเก็งกำไร

ปล่อยให้บรรดากูรูที่ไร้สังกัด ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีใบอนุญาต ออกมาเชียร์หุ้น ปลุกเร้าเก็งกำไรเงินดิจิทัล เล่นทองคำกันอย่างโจ๋งครึ่ม

และมีส่วนเป็นตัวการพากันไปตายกับความล่มสลายของบิทคอยน์ในรอบนี้








กำลังโหลดความคิดเห็น