แพลตฟอร์มซื้อขายบิทคอยน์สัญชาติญี่ปุ่นที่ล้มละลายไปกว่า 10 ปีขยับสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งใหญ่ โอน 10,608 BTC มูลค่า 953 ล้านดอลลาร์เข้าสู่กระเป๋าใหม่ ท่ามกลางความกังวลว่าการเคลื่อนไหวอาจเป็นสัญญาณเตรียมขาย ขณะที่กระบวนการชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ถูกเลื่อนออกไปถึงปลายปี 2569 ส่งผลให้บิทคอยน์ราว 4 พันล้านดอลลาร์ยังไม่ถูกอัดฉีดกลับสู่ตลาด ลดแรงขายก้อนใหญ่ในระยะสั้น แม้ผู้เชี่ยวชาญบางฝ่ายมองว่าโครงสร้างตลาดวันนี้แข็งแกร่งกว่าเดิมมากจากแรงดูดซับของสถาบันการเงินขนาดใหญ่
การเคลื่อนไหวล่าสุดของ Mt. Gox แพลตฟอร์มซื้อขายบิทคอยน์ที่ล่มสลายในปี 2557 กลายเป็นประเด็นร้อนในชุมชนคริปโตอีกครั้ง หลังพบการโอนบิตคอยน์จำนวน 10,608 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 953 ล้านดอลลาร์ ไปยังกระเป๋าคริปโตแห่งใหม่ ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 8 เดือน และเป็นดีลที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านดอลลาร์ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปีเดียวกัน
ข้อมูลจาก Arkham Intelligence ระบุว่า แม้จะมีการโอนครั้งใหญ่ดังกล่าว แต่ Mt. Gox ยังคงถือบิทคอยน์อยู่อีก 34,689 BTC คิดเป็นราว 3.14 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งยังคงถูกจัดเก็บในคอลด์วอลเล็ตที่ถูกติดตามอย่างใกล้ชิดจากทั้งนักลงทุนสถาบันและนักวิเคราะห์
การโอนครั้งใหญ่ท่ามกลางความล่าช้าในการชำระหนี้
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากผู้ดูแลการฟื้นฟูกิจการประกาศเลื่อนกำหนดการชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ออกไปอีกหนึ่งปีเต็ม จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2569 โดยให้เหตุผลว่ากระบวนการเอกสารและยืนยันตัวตนของเจ้าหนี้ยังไม่แล้วเสร็จและจำเป็นต้องยืดเวลาเพื่อให้การจ่ายชำระเป็นไปอย่างถูกต้อง
การเลื่อนดังกล่าวหมายความว่าบิตคอยน์กว่า 4 พันล้านดอลลาร์ที่ควรถูกจ่ายคืนให้เจ้าหนี้ในรอบนี้จะยังไม่ไหลเข้าสู่ตลาดในเร็ววัน ช่วยลดความเสี่ยงของแรงขายมหาศาลที่นักลงทุนกังวลมาตลอดปีที่ผ่านมา
ผลกระทบต่อราคาบิทคอยน์ อาจน้อยกว่าที่ตลาดเคยกังวล
นักวิเคราะห์จำนวนมากมองว่าการเคลื่อนไหวของ Mt. Gox มีผลกระทบต่อราคาบิทคอยน์ลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับรอบก่อนหน้า เนื่องจากตลาดปัจจุบันมีผู้เล่นสถาบันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะ ETF บิทคอยน์สปอตในสหรัฐและบริษัทที่ถือบิทคอยน์ในคลังสำรอง ซึ่งสามารถดูดซับอุปทานส่วนเกินได้ดี
สะท้อนจากข้อมูลช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ Mt. Gox เริ่มทยอยชำระหนี้ล็อตแรกในรอบหลายปี ราคาบิทคอยน์กลับฟื้นตัวขึ้นมากกว่า 60% จากระดับประมาณ 56,160 ดอลลาร์ สู่ระดับกว่า 91,172 ดอลลาร์ในปัจจุบัน แสดงถึงแรงรับที่แข็งแกร่งของตลาดโลก
ภาคอุตสาหกรรมจับตา "โอนเพื่อขายหรือแค่ย้ายจัดการสินทรัพย์?"
แม้หลายฝ่ายมองว่าการย้ายสินทรัพย์อาจเป็นกิจกรรมตามปกติของผู้ดูแลทรัพย์สิน แต่เสียงเตือนจากบางนักวิเคราะห์ยังคงสะท้อนถึงความกังวล
ด้าน Jacob King นักวิเคราะห์การเงินและซีอีโอ SwanDesk แสดงความคิดเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า การย้ายบิทคอยน์มากกว่า 900 ล้านดอลลาร์ “อาจเป็นสัญญาณเตรียมขาย” ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันให้การปรับฐานของตลาดยืดเยื้อ
อย่างไรก็ตาม กระเป๋าปลายทางซึ่งถูกติดป้ายว่า “1ANkD” ยังคงเก็บบิทคอยน์ทั้งหมดไว้ครบถ้วนโดยไม่ปรากฏการโอนไปยังแพลตฟอร์มเทรดใด ๆ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนกว่าของการเตรียมขายออกสู่ตลาด
"Mt. Gox" จากยักษ์ใหญ่สู่กรณีศึกษาในประวัติศาสตร์คริปโต
Mt. Gox เคยเป็นศูนย์กลางซื้อขายบิตคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คิดเป็นสัดส่วนการซื้อขายมากกว่า 70% ของตลาดทั้งหมดในยุคเริ่มต้นหลังเปิดดำเนินงานในปี 2553 ก่อนจะล่มสลายในปี 2557 หลังเผยว่าถูกแฮกและสูญเสียบิตคอยน์มากกว่า 850,000 BTC กลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกคริปโต
หลังการล่มสลาย ทางการญี่ปุ่นได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการทางแพ่ง ซึ่งลากยาวมากกว่าทศวรรษ และเจ้าหนี้ต้องเผชิญความล่าช้าและกำหนดการชำระหนี้ที่เปลี่ยนแปลงหลายต่อหลายครั้ง
ตลาดยังรับแรงสั่นสะเทือนได้แม้ผันผวนแรง
แม้การโอนครั้งล่าสุดของ Mt. Gox จะสร้างแรงสะเทือนด้านจิตวิทยา แต่ตลาดบิทคอยน์ในปัจจุบันมีโครงสร้างแข็งแรงกว่าหลายปีก่อน ทั้งจากสถาบันการเงินที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ระบบกำกับดูแลที่รัดกุมขึ้น และสภาพคล่องที่กระจายตัวกว้างกว่าเดิม
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า หากไม่มีการเคลื่อนไหวของเหรียญเข้าสู่ตลาดซื้อขายโดยตรง แรงกดดันต่อราคาน่าจะจำกัด และความเสี่ยงถูกเทขายก้อนใหญ่จาก Mt. Gox ยังไม่ใช่ประเด็นเร่งด่วนในระยะสั้น
ทั้งนี้ ชุมชนคริปโตทั่วโลกยังคงจับตาการเคลื่อนไหวครั้งถัดไปของกระเป๋า Mt. Gox อย่างใกล้ชิด เพราะทุกการโอนอาจเป็นสัญญาณสำคัญในเกมใหญ่ที่ยังไม่จบลงในรอบสิบปีที่ผ่านมา


