ท่ามกลางแรงเทขายระลอกใหม่และราคาบิทคอยน์หลุดระดับ 90,000 ดอลลาร์ เอลซัลวาดอร์กลับเดินเกมสวนทางชัดเจน ล่าสุดเสริมคลังสำรองเพิ่มกว่า 1,098 BTC ภายในสัปดาห์เดียว มูลค่ารวมแตะ 688 ล้านดอลลาร์ แม้ตลาดผันผวนหนักก็ยังยึดกลยุทธ์ “ซื้อวันละ 1 BTC” อย่างไม่ลังเล ขณะผู้เชี่ยวชาญชี้ปรากฏการณ์นี้สะท้อนการปรับตัวของรัฐชาติยุคใหม่ที่เริ่มสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลเชิงกลยุทธ์ ขณะเทรดเดอร์รายสั้นเทขาย 148,000 BTC ขาดทุนหนัก ยิ่งกดดันตลาดเข้าสู่โหมดทดสอบแรงรับรายใหญ่
เอลซัลวาดอร์กลับมาอยู่ใต้สปอตไลต์โลกคริปโตอีกครั้ง หลังประกาศเดินหน้าสะสมบิทคอยน์ต่อเนื่องแม้ตลาดผันผวนรุนแรง โดยข้อมูลจาก Bitcoin Office ระบุว่า ประเทศได้ซื้อเพิ่มอีก 1,091 BTC เมื่อวันอังคาร รวมทั้งสัปดาห์สะสมไปแล้ว 1,098.19 BTC ส่งผลให้ยอดถือครองรวมพุ่งแตะ 7,474.37 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 688 ล้านดอลลาร์
เดินเกมไม่สนราคาผันผวนซื้อวันละ 1 BTC ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565
ประธานาธิบดีนายิบ บูเคเล แสดงหลักฐานผ่านบัญชี X พร้อมเผยภาพคลังบิทคอยน์ของรัฐบาลที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเอลซัลวาดอร์ยึดแนวทางซื้อสะสมวันละ 1 BTC มาตั้งแต่ประกาศนโยบายในเดือนพฤศจิกายน 2565 และไม่เคยหยุดแม้เพียงวันเดียว แม้ราคาหลุดแนวรับหลายครั้งในช่วงตลาดปี 2566-2568
ท่าทีดังกล่าวสะท้อนยุทธศาสตร์ระยะยาวในการเสริม “ทุนสำรองดิจิทัล” คล้ายกับที่หลายประเทศใช้ทองคำเป็นหลักประกันทางการเงินในอดีต
นานาชาติเริ่มจับจังหวะ “ซื้อช่วงราคาลงแรง” กลายเป็นเกมรัฐชาติ
André Dragosch หัวหน้าฝ่ายวิจัยประจำยุโรปของ Bitwise ระบุว่า การที่เอลซัลวาดอร์และรัฐชาติอื่นเริ่มสะสมบิทคอยน์ในช่วงตลาดขาลงถือเป็นสัญญาณสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในระบบการเงินโลก โดยเฉพาะเมื่อประเทศต่าง ๆ ต้องการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์และเพิ่มสัดส่วนสินทรัพย์ที่ไม่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลชาติใดชาติหนึ่ง
ด้าน Stacy Herbert ผู้อำนวยการ Bitcoin Office ของเอลซัลวาดอร์ ชี้ว่า บิทคอยน์คือ “เสรีภาพ โปร่งใส และพลังอำนาจรายบุคคล” พร้อมระบุว่า ประธานาธิบดีบูเคเลนำบิทคอยน์มาใช้เป็นเงินถูกกฎหมาย “ไม่ใช่เพื่อรวบอำนาจ แต่เพื่อกระจายอำนาจ”
แม้แต่ธนาคารกลางเช็ก (CNB) ยังประกาศถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรงเป็นครั้งแรก รวมถึงบิทคอยน์และคริปโตอื่น ๆ มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ ยิ่งตอกย้ำแนวโน้มที่ธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มทยอยศึกษาหรือทดลองถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล
ตลาดร่วงแรง-เทรดเดอร์รายสั้นเทขาย 148,000 BTC ขาดทุนหนัก
เช้าวันอังคาร ตลาดเอเชียเปิดมาพร้อมแรงเทขายหนัก ส่งราคาบิทคอยน์ร่วงลงต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์ โดยราคาดิ่ง 4.91% ลงมาที่ราว 90,708 ดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมง จากแรงขายตื่นตระหนกของนักลงทุนระยะสั้น
ข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่า ณ เวลาจัดทำรายงาน ราคาบิตคอยน์ทรงตัวบริเวณ 90,268 ดอลลาร์ ขณะเดียวกัน ผู้ถือระยะสั้น (กระเป๋าที่ถือไม่เกิน 3 เดือน) เทขายรวมกว่า 148,000 BTC แบบขาดทุน ถือเป็นเหตุการณ์เทขายขาดทุนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2568
ตามการวิเคราะห์ของ Cryptonews รูปแบบนี้คล้ายกับพฤติกรรมใกล้จุดยอดรอบก่อน ๆ ซึ่งมักเกิดก่อนตลาดเข้าสู่ช่วงปรับฐานลึก ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าผู้ขายอาจยังไม่หมดแรงกดดันตลาด
แรงซื้อรัฐชาติประคองตลาดได้ไม่พอ-ตลาดรอวัดพลังรายใหญ่ระยะยาว
ขณะที่การช้อนซื้อกว่า 100 ล้านดอลลาร์ของเอลซัลวาดอร์แม้สร้างแรงค้ำระยะสั้น แต่ก็ถูกกลบด้วยแรงเทขายเชิงระบบจากนักลงทุนรายย่อยและรายสั้น ทำให้ตลาดยังคงทดสอบระดับรับสำคัญว่า ผู้ถือระยะยาว (long-term holders) จะรับแรงขายที่ราคาถูกลงนี้ได้มากน้อยเพียงใด
ภาพรวมสะท้อนชัดว่า “รัฐชาติ” เริ่มมีบทบาทสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ ในตลาดบิทคอยน์ ขณะเดียวกันแรงขายจากฝั่งเทรดเดอร์ระยะสั้นยังเป็นตัวกำหนดจังหวะราคาครั้งสำคัญในระยะสั้น อย่างไรก็ตามการที่ตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้องจับตาว่าแรงดูดซับจากผู้ถือรายใหญ่จะเพียงพอพลิกโมเมนตัมหรือจะเปิดประตูไปสู่การปรับฐานรอบใหม่ของบิทคอยน์


