บิทคอยน์กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังตัวชี้วัด “apparent demand” พุ่งสูงสุดในรอบ 4 เดือน สะท้อนแรงซื้อจริงในตลาดสปอตที่กำลังเร่งตัว นักวิเคราะห์ชี้ หากราคาทะลุแนวต้าน 110,000 ดอลลาร์ได้ อาจเป็นสัญญาณกระทิงครั้งใหม่เต็มรูปแบบ
ตลาดคริปโตเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน เมื่อ “ความต้องการที่แท้จริง” (apparent demand) ของบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สอดคล้องกับปริมาณการซื้อขายในตลาดสปอตที่พุ่งแรง สะท้อนการกลับมาของนักลงทุนรายใหญ่ที่เริ่มเปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจมหภาคที่เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น
ข้อมูลจาก Capriole Investment ระบุว่า ตัวชี้วัด “Bitcoin Apparent Demand” ซึ่งคำนวณจากปริมาณเหรียญที่ผลิต (จากการขุด) ลบด้วยปริมาณเหรียญที่ไม่เคลื่อนไหวเกินหนึ่งปี ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแตะระดับ 5,251 BTC เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม
ก่อนหน้านี้ ตัวเลขดังกล่าวเคยติดลบต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม โดยแตะจุดต่ำสุดที่ -3,930 BTC เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ก่อนจะพลิกกลับเป็นบวกอย่างรวดเร็ว ขณะที่มูลค่าการซื้อขายในตลาดสปอตเพิ่มขึ้นกว่า 23% จาก 11.5 พันล้านดอลลาร์ เป็น 14.1 พันล้านดอลลาร์ในรอบสัปดาห์เดียว สะท้อนความเคลื่อนไหวเชิงเก็งกำไรที่เริ่มกลับมา
รายงานของ Glassnode ชี้ว่า การที่ราคาบิทคอยน์ดีดกลับขึ้นเหนือ 106,000 ดอลลาร์ ถือเป็น “สัญญาณแรกของการกลับมาของแรงซื้อ” พร้อมระบุว่า “การเพิ่มขึ้นของปริมาณซื้อขายในตลาดสปอต แปลถึงการเข้ามามีส่วนร่วมของนักลงทุนมากขึ้น และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเบรกทะลุครั้งใหม่”
แรงหนุนในรอบนี้มาจากความคาดหวังว่า สหรัฐฯ จะหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐ (government shutdown) และจากคำมั่นของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมอบเงินปันผลจากภาษี 2,000 ดอลลาร์ให้ประชาชน รวมถึงการคาดการณ์ว่าเฟด (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม และอาจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในระยะถัดไป ซึ่งทั้งหมดผลักให้นักลงทุนกลับมาถือสินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิตคอยน์เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 110,000 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์จาก Swissblock ระบุว่า การปิดแท่งสัปดาห์ของบิทคอยน์เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 สัปดาห์ ถือเป็นสัญญาณบวกชัดเจน แต่การจะยืนยันแนวโน้มขาขึ้นอย่างเต็มตัวนั้น จำเป็นต้อง “ยึดแนวรับ 110,000 ดอลลาร์ให้ได้”
Swissblock ระบุในโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า “หลังจากป้องกันแนวรับสำคัญได้แล้ว ขั้นต่อไปของ BTC คือการสะสมพลังและรอยืนยันแนวโน้ม หากสามารถยึดโซน 108,000–110,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จ จะเป็นจุดเริ่มต้นของแรงส่งขาขึ้นรอบใหม่” พร้อมเสริมว่า “แรงขายเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด และ BTC กำลังส่งสัญญาณการกลับตัวในเชิงบวก”
ด้าน Michael van de Poppe ผู้ก่อตั้ง MN Capital ประเมินว่า หากบิทคอยน์สามารถทะลุแนวต้าน 110,000 ดอลลาร์ได้จริง ราคามีโอกาสวิ่งต่อไปถึงระดับสูงสุดเดิมที่ 126,000 ดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์อีกคนชื่อ Jelle เตือนว่า “หากราคาถูกปฏิเสธที่แนวนี้ จะสะท้อนความอ่อนแอของตลาดในระยะสั้นทันที”
ก่อนหน้านี้ Cointelegraph รายงานว่า รูปแบบกราฟ “Double Bottom” ของบิทคอยน์อาจหนุนให้เกิดแรงซื้อผลักดันราคาสู่ 110,000 ดอลลาร์ได้ แต่ในระยะสั้นยังมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นการปรับฐานลงมาทดสอบช่องว่างของตลาดฟิวเจอร์ส (CME Gap) บริเวณ 104,000 ดอลลาร์ ก่อนดีดตัวขึ้นอีกครั้ง
สัญญาณกระทิงเริ่มก่อตัว แต่ยังต้องรอดูจุดยืนยัน
ภาพรวมตลาดบิทคอยน์กำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ขณะที่แรงซื้อจากนักลงทุนเริ่มกลับมา และปัจจัยเศรษฐกิจโลกเอื้อให้สินทรัพย์เสี่ยงเริ่มฟื้นตัว หากราคาสามารถยึดฐานเหนือระดับ 110,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จ ตลาดอาจเห็นการเปลี่ยนแนวโน้มจากการปรับฐานสู่รอบขาขึ้นใหม่อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงมีแรงต้านจากโซนจิตวิทยาและการทำกำไรระยะสั้นที่อาจทำให้ราคาเหวี่ยงตัวรุนแรง แต่สัญญาณพื้นฐานจากทั้ง “apparent demand” และปริมาณซื้อขายในตลาดสปอต บ่งชี้ชัดว่า “แรงซื้อจริงกำลังกลับมา” และนั่นอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของรอบกระทิงที่นักเทรดคริปโตหลายคนรอคอย.


