xs
xsm
sm
md
lg

'การ์เด้น แอทลาส'ปั้น'อ่าวมะขาม'ภูเก็ต ขึ้นโครงการ'วิลล่าหรู'จับมหาเศรษฐีโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายต่อศักดิ์ ใจชื่น ซีอีโอ บริษัท การ์เด้น แอทลาส เบย์วิว วิลล่า จำกัด
‘การ์เด้น แอทลาส’ Trendsetter อสังหาฯ ปั้นโปรเจ็กต์ GARDEN ATLAS BAYVIEW มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ขายวิลล่าสุดหรูสไตล์ Modern Bali Contemporary ราคาเฉลี่ยหลังละ 150 ล้านบาท บนทำเลอ่าวมะขาม แหลมพันวา “Rare Coastal Location” ฝั่งตะวันออกของเกาะภูเก็ต มั่นใจ 10 ปีทำเลอ่าวมะขามสามารถก้าวสู่ Monaco of Asia เทียบชั้นเมืองมหาเศรษฐี อย่าง “โมนาโก”วางเป้าหมายผลักดันแบรนด์ GARDEN ATLAS สู่การเป็น Residences Brand ระดับโลกเจาะตลาดบ้านหรูมูลค่า 5 ล้านดอลล่าร์

นายต่อศักดิ์ ใจชื่น ซีอีโอ บริษัท การ์เด้น แอทลาส เบย์วิว วิลล่า จำกัด กล่าวว่า บริษัทเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ "GARDEN ATLAS BAYVIEW" โครงการ 3 ที่ลงทุนทำธุรกิจพัฒนาอสังหาฯในรูปแบบบ้านพักอาศัยระดับ Ultra Luxury บนทำเลอ่าวมะขาม แหลมพันวา จังหวัดภูเก็ต บนพื้นที่ 16 ไร่ จำนวน 15 ยูนิต ราคาเฉลี่ยหลังละ 150 ล้านบาท (ไม่รวมราคาเฟอร์เจอร์ ที่มีความหรูหรา) มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้ชมบ้านสั่งสร้างตัวอย่างครั้งแรกในเดือนเมษายน 2569 และมั่นใจที่อยู่อาศัยทั้งหมดจะสร้างแล้วเสร็จภายใน 2 ปีครึ่ง

การที่บริษัทเลือกพัฒนาโครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW ในทำเลอ่าวมะขาม แหลมพันวา เพราะเป็นทำเลศักยภาพทั้งในปัจจุบันและอนาคต บริเวณแห่งนี้มีความเหมือนกับเมืองชายฝั่งสำคัญของโลกอย่างโมนาโกที่มีพื้นที่เพียง 2.02 ตารางกิโลเมตร เล็กที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่หรูหราและมั่งคั่ง คาดว่าไม่เกิน 10 ปี จะได้รับความนิยมเช่นเดียวกับโมนาโก เพราะปัจจุบันโมนาโกมีข้อจำกัดไม่สามารถพัฒนาโครงการใหม่ได้ และราคาอสังหาฯเพิ่มสูงมากขึ้น ราคาคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 52,000-130,000 ยูโรต่อตารางเมตร หากเปรียบด้านราคาอสังหาฯ บนพื้นที่อ่าวมะขาม แหลมพันวา ถือว่าแพงกว่าหลายเท่าตัว ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่อ่าวมะขาม แหลมพันวา ยังเป็นราคาอสังหาฯที่จับต้องได้ และเป็นราคาที่คุ้มค่า แต่มีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามศักยภาพของพื้นที่ที่จะถูกพัฒนาให้เจริญมากขึ้น

GARDEN ATLAS BAYVIEW
“จากประสบการณ์ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านพักอาศัยมากว่า 20 ปี ผ่านมากว่า 10 แบรนด์ มาร์เก็ตแคปหลายหมื่นล้าน มองเห็นศักยภาพของทำเลดังกล่าว ซึ่งจะพัฒนาและเติบโตเป็นจุดหมายปลายทางของ Maritime Luxury Living พื้นที่การอยู่อาศัยระดับบนและไลฟ์สไตล์แบบเมืองชายฝั่ง เพราะมองเห็นวิวทะเลบนเนินเขา (Hilltop) เห็นวิวได้แบบพาโนรามา ได้ถึง 3 อ่าว และมีท่าจอดเรือ ถือว่าเป็น Rare Coastal Location ซึ่งอยู่ในฝั่งทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ต แหลมพันวา จะกลายเป็น Monaco of Asia เมืองชายทะเลชั้นนำระดับนานาชาติ”

ทำเลอ่าวมะขาม แหลมพันวา ยังมีความโดดเด่น คือ 1.True Coastal Privacy เป็นพื้นที่ชายฝั่งสงบ หายาก และไม่ถูกรบกวน 2.Maritime-Ready Location สภาพอ่าวเป็นพื้นที่ทะเลมีน้ำลึกและสันอ่าวนิ่ง จึงเหมาะสมสำหรับการการจอดเรือยอร์ชและการเดินเรือสากล 3.Seamless Yachting Access ใกล้ท่าเรือระดับนานาชาติ และบริการ Ocean Leisure ครบวงจร 4.Scarcity Drives Value ทำเลติดอ่าวที่มีจำนวนจำกัด คือ สินทรัพย์ที่มูลค่าเพิ่มขึ้นตามเวลา และ 5.Prestigious อ่าวเดียวในภูเก็ตที่สามารถเดินทางด้วยเรือ ในอนาคตเดินทางได้ด้วยเครื่องบินสำหรับการเดินทางทางน้ำ

“จากจุดเริ่มต้นในการพัฒนาโครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW เชื่อว่าจะมีส่วนผลักดันให้พื้นที่บริเวณอ่าวมะขาม แหลมพันวา กลายเป็น Monaco of Asia เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้เป็นเพียงผู้พัฒนาอสังหาฯ แต่คือผู้สร้างทิศ ทางการตลาดใหม่ในระดับโลก หรือผู้นำเทรนด์ (Trendsetter) ไม่ได้เป็นเพียงผู้พัฒนาออกแบบโครงการเท่านั้น ประสบการณ์ที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนา วิลล่าระดับราคา 1 ล้านดอลล่าร์ที่เป็น Villa Inland โครงการใหม่จะโฟกัสกลุ่ม Ultra Rich หรือผู้มีสินทรัพย์ระดับพันล้านดอลล่าร์ เลือกมาพักอาศัยที่นี่ รวมถึงกลุ่ม Hybrid Billionaire มองเห็นโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการเป็นเจ้าของวิลล่าในโครงการ ที่สร้างผลตอบแทนจากการให้เช่ากับกลุ่มลูกค้าระดับบนได้คืนละ 1,650-4,200 ดอลล่าร์ และยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มตามกาลเวลาเมื่อถือครองต่อไปในอนาคต เป็นสินทรัพย์ที่มูลค่าสูง ”

สำหรับโครงการดังกล่าว วิลล่าถูกออกแบบมีฟังก์ชันแบบบ้านขนาดใหญ่ 6 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว 3 สเปซพักผ่อน 3 ที่จอดรถ 2 สระว่ายน้ำ พร้อมพูลเดย์เบดแบบฮันนีมูนซีท 6 ชุดอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 6x15 เมตร วิลล่ามีพื้นที่ใช้สอยทั้งภายในและภายนอกรวมประมาณ 1,585 ตร.ม.

“แผนต่อไป บริษัทวางเป้าหมายผลักดันแบรนด์ Garden Atlas สู่การเป็น Residences Brand ระดับโลก เจาะตลาดบ้านหรูมูลค่า 5 ล้านดอลล่าร์"


ด้านนางสาวประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดที่พักอาศัยตากอากาศประเภทวิลล่า ปี 2567 มียอดขายเพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อนหน้า ซึ่งต้องถือว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

หากพิจารณาโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ที่มีมูลค่ามากกว่าหลังละ 90 ล้านขึ้นไป (ตามนิยามของ CBRE) ซัพพลายในตลาดมีเพียง 6.89% ซึ่งมียอดขายแล้วกว่า 76% โดยทำเลที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดคือทำเลชายฝั่งตะวันออก (ทิศใต้) สามารถทำยอดขายได้สูงที่สุดถึง 92.8%

ทั้งนี้ ลูกค้าซื้อวิลล่านี้ เพื่อการลงทุน 68% และเพื่ออยู่อาศัยเอง 31% แบ่งเป็นสัดส่วนลูกค้าชาวไทย 57% และชาวต่างชาติ 43% ซึ่งลูกค้าชาวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากโซนยุโรป อเมริกาและโซนเอเชีย ได้แก่ อังกฤษ ฮ่องกงและอเมริกาตามลำดับ.








กำลังโหลดความคิดเห็น