กระแสขั้วอำนาจเศรษฐกิจโลกเริ่มร้อนระอุอีกครั้ง เมื่อจีนและบราซิลประกาศสนับสนุนมาเลเซียเข้าร่วมกลุ่ม BRICS อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากสหรัฐฯ ที่มองว่าการขยายตัวของพันธมิตรเศรษฐกิจกลุ่มนี้เป็น “การโจมตีต่อดอลลาร์สหรัฐ” โดยตรง
สำนักข่าว Global Times ของจีนรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ยืนยันความพร้อมในการขยายสมาชิกภาพของกลุ่ม BRICS โดยโฆษก “กั๋ว เจียคุน” (Guo Jiakun) ระบุว่า กลุ่มยินดีต้อนรับมาเลเซียและประเทศพันธมิตรจากโลกใต้ (Global South) ที่มีแนวคิดสอดคล้องกันเข้าสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับโลกนี้ หลังจากประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา แห่งบราซิล ออกมาสนับสนุนอย่างเป็นทางการ
กั๋วกล่าวย้ำว่า BRICS ถือเป็น “เวทีสำคัญของตลาดเกิดใหม่” ที่มุ่งส่งเสริมแนวคิดพหุขั้วทางเศรษฐกิจ (global multipolarization) และผลักดันการปฏิรูประบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เพื่อสร้างดุลอำนาจใหม่ในเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม ท่าทีดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับทำเนียบขาวอย่างรุนแรง โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ตอบโต้ในเชิงแข็งกร้าว ระบุว่า “นี่คือการโจมตีต่อดอลลาร์สหรัฐ และเราจะไม่ยอมให้ใครทำลายอำนาจของเงินดอลลาร์ได้” พร้อมขู่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดียเกินกว่าอัตรา 25% หากยังคงมีส่วนร่วมกับกลุ่ม BRICS และรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียต่อไป
หนึ่งในยุทธศาสตร์หลักของ BRICS คือการส่งเสริมการค้าระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่น และพัฒนาระบบการชำระเงินทางเลือก เพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ในธุรกรรมระหว่างประเทศ แม้สมาชิกบางประเทศจะยืนยันว่าไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อล้มล้างอิทธิพลของดอลลาร์โดยตรง แต่แนวโน้มดังกล่าวได้กลายเป็นแรงสั่นสะเทือนเชิงยุทธศาสตร์ต่อระบบการเงินโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขณะที่ฝั่งนักวิเคราะห์มองว่าการขยายสมาชิกภาพของ BRICS โดยเฉพาะการดึงประเทศจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย เข้าร่วม เป็นสัญญาณของการขยับขยายอำนาจทางเศรษฐกิจในโลกกำลังพัฒนา เพื่อสร้างกลไกทางการเงินและการค้าทางเลือก ที่อาจท้าทายสถานะผู้นำของสหรัฐฯ ในระบบเศรษฐกิจโลกในอนาคต
ทั้งนี้กลุ่ม BRICS ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2009 ปัจจุบันประกอบด้วย 10 ชาติสมาชิก ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้ อียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอินโดนีเซีย ขณะที่กลุ่มประเทศพันธมิตร (partner countries) ที่เข้าร่วมการประชุมแต่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ ได้แก่ เบลารุส โบลิเวีย มาเลเซีย คาซัคสถาน คิวบา ไทย ยูกันดา อุซเบกิสถาน ไนจีเรีย และเวียดนาม
                    

