xs
xsm
sm
md
lg

กูรู คาด KTB-SCB-BBL ลุยตั้ง JV AMC ตามแผนแบงก์ชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กูรู มองบวกหลังแบงก์ชาติ ประกาศเปิดทางตั้ง JV AMC แก้หนี้รายย่อย แนะจับตา 3 แบงก์ใหญ่ KTB-SCB-BBL ผนึก BAM ตั้ง JV AMC หลัง ธปท.เปิดทาง หวังช่วยลด NPL ในระบบ ขณะที่ประเมินกลุ่ม Non-Bank รับประโยชน์เต็มๆ ทั้ง AEONTS - TURBO-SAWAD พร้อมคงน้ำหนักแบงก์ “มากกว่าตลาด” เลือก KTB เป็น Top pick

บทวิเคราะห์จาก บล.ดาโอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมประกาศเปิดทางตั้ง JV AMC เพื่อดูดซับ NPL คาดว่าจะเริ่มเฟสแรกใน 1-2 สัปดาห์นี้

ทั้งนี้ บริษัทมีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว โดยการตั้ง JV AMC ครั้งนี้ ธปท.คาดหวังจะช่วยลด NPL ลง 20-30% ของทั้งระบบ จากปัจจุบันที่ลดลงได้ราว 10% ขณะที่คาดว่าจะช่วยเร่งให้ NPL ในส่วนของสินเชื่อรายย่อยลดลงได้ในอนาคต เพราะรอบนี้จะเน้นแก้หนี้รายย่อยที่ไม่มีหลักประกันก่อน ซึ่งจะมี BAM และ SAM (เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่) เข้ามาเป็นตัวกลางในการจัดการหนี้

โดยอ้างอิงจากข่าวรอบก่อนระบุว่าจะใช้วงเงินเบื้องต้นทั้งหมด 1 หมื่นล้านบาท (มาจากเงินที่เหลือจากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ปัจจุบันยังเหลือเงินอยู่ 26,000 ล้านบาท) โดยจะซื้อหนี้ที่ 7 พันล้านบาท (ที่ราคา 5% ของหนี้รวม 123,000 ล้านบาท) และอีก 3 พันล้านบาท เป็นค่าบริหารจัดการของ BAM และ SAM

 ระบุ KTB-SCB-BBL ผนึก BAM ตั้ง AMC - Non-bank ได้ประโยชน์

ขณะที่คาดว่ากลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 3 แห่งที่ BAM กำลังหารือคือ KTB, SCB, BBL (โดย KBANK มี JV AMC อยู่แล้วกับ JMT และ BAM) แต่อย่างไรก็ดี ยังคงต้องรอรายละเอียดเงื่อนไขการร่วมทุน ในเรื่องของสัดส่วนการถือหุ้นและสิทธิ-หน้าที่ของ AMC และแต่ละธนาคาร) อีกที

ทั้งนี้ธนาคารขนาดใหญ่ที่มีสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีหลักประกันเรียงจากมาก-น้อยคือ TTB (7%), BAY (6%), KBANK (6%), SCB (5% รวมกลุ่มบริษัทย่อย)

นอกจากนี้ คาดว่ากลุ่ม Non-bank จะได้ประโยชน์มากกว่ากลุ่มธนาคาร จากวงเงินรับซื้อหนี้ที่มากกว่า (AEONTS และ TURBO สัดส่วน Nano finance ที่ 20%, MTC สัดส่วนสินเชื่อไม่มีหลักประกัน 5-10%, SAWAD มี P-loan ที่ 3%) และ BAM ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์โดยตรง

อย่างไรก็ดี การทำ JV AMC เป็นรูปแบบเดิมที่ปัจจุบันมีอยู่แล้ว โดยปัจจุบัน KBANK มีการทำ JV ร่วมกับ JMT และ BAM (ซึ่งมีระยะเวลาที่อนุญาตให้ดำเนินธุรกิจ JV AMC ได้ไม่เกิน 15 ปี) โดย KBANK เริ่มทำ JV AMC กับ JMT (JK AMC) เมื่อช่วง 3Q22 ทำให้ NPL ของ KBANK ลดลงได้ดีมาก มาอยู่ที่ 3.07% จาก 2Q22 ที่ 3.80%

ขณะที่ดูจากงบของ JMT พบว่ามีส่วนแบ่งกำไรที่ได้จาก JK AMC งวด 1H25 อยู่ที่ 144 ล้านบาท (จาก 1H24 ที่ 228 ล้านบาท) ซึ่งหากคิดทั้งปี จะคิดเป็นสัดส่วนที่ 0.6% ของกำไรสุทธิปี2025E ของ KBANK

ยังคงน้ำหนักเป็น “มากกว่าตลาด” เพราะ valuation ยังถูก โดยเทรดที่ระดับเพียง 0.72x PBV (-1.00SD below 10-yr average PBV) และระดับ Dividend yield ของกลุ่มที่อยู่สูงถึง 7% จากค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นที่ 3% โดยยังคงเลือก KTB (ซื้อ/เป้า 27.00 บาท), SCB (ซื้อ/เป้า 145.00 บาท) เป็น Top pick

ทั้งนี้การตั้ง JV AMS หนี้ที่ถูกโอนในเฟสแรกจะเป็นลูกหนี้จากธนาคารพาณิชย์ ราว 700,000 ราย โอนให้บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) เช่นเดียวกับหนี้ของ Non-bank ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ ราว 800,000 ราย ส่วนที่เหลือคือ หนี้ของธนาคารรัฐราว 400,000-500,000 ราย โอนให้บริษัท Ari AMC ที่ถือหุ้นระหว่างธนาคารออมสิน และ BAM


กำลังโหลดความคิดเห็น