SET ปิดวันนี้ที่ 1,302.35 จุด เพิ่มขึ้น 11.63 จุด (+0.90%) มูลค่าซื้อขาย 51,176.38 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นได้ดีจากแรงซื้อกลุ่มแบงก์-พลังงาน และช่วงบ่ายดีดขึ้นแรงหลัง รมช.คลัง ไขก๊อก ทำให้ลดความเสี่ยงต่อรัฐบาลจากข้อครหาเกี่ยวข้องสแกมเมอร์กัมพูชา แต่ลดช่วงบวกลงมาบ้างจากแรงขายทำกำไรก่อนเข้าวันหยุด และวันศุกร์คาบเกี่ยวเข้าวันหยุดสุดสัปดาห์ปกติคาดแกว่งไซด์เวย์ ให้แนวรับ 1,295 จุด แนวต้าน 1,310 จุด
SET ปิดวันนี้ที่ 1,302.35 จุด เพิ่มขึ้น 11.63 จุด (+0.90%) มูลค่าซื้อขาย 51,176.38ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีดีดขึ้นก่อนทะยานแรงช่วง โดยทำจุดสูงสุด 1,311.24 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,287.29 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 213 หลักทรัพย์ ลดลง 210 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 224 หลักทรัพย์
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดี รับแรงหนุนจากกลุ่มแบงก์ผลประกอบการดีกว่าคาด และกลุ่มพลังงานฟื้นตัวจากราคาน้ำมันเด้งขึ้นหลังยกเลิกการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อีกทั้งอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐระบุว่าอากาศจะหนาวขึ้นเป็นตัวเร่งดีมานด์น้ำมัน ประกอบกับ เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธไปยังน่านน้ำญี่ปุ่นหนุนราคาน้ำมันปรับขึ้นด้วย
ช่วงบ่ายดัชนี SET ปรับตัวขึ้นแรงหลังจากนายวรภัค ธันยาวงษ์ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง รมช.คลัง ช่วยลดแรงกดดันของความเสี่ยงต่อรัฐบาลจากข้อกล่าวหาที่เป็นหนึ่งใน 7 นักการเมืองที่เชื่อมโยงขบวนการสแกมเมอร์
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายตลาด ดัชนีลดช่วงบวกลงมาเพราะวันพรุ่งนี้ (23 ต.ค.) เป็นวันหยุดปิยมหาราช และวันศุกร์ก็คาบเกี่ยวกับวันหยุดสุดสัปดาห์ปกติ
แนวโน้มตลาดหุ้นในวันศุกร์ (24 ต.ค.) คาดแกว่งตัวไซด์เวย์ ให้แนวรับ 1,295 จุด แนวต้าน 1,310 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,262.72 ล้านบาท ปิดที่ 180.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 4,253.20 ล้านบาท ปิดที่ 159.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,612.67 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,975.80 ล้านบาท ปิดที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,720.12 ล้านบาท ปิดที่ 31.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท