xs
xsm
sm
md
lg

กูรูเตือนตลาดอาจซ้ำรอยอดีต สัญญาณกราฟบิทคอยน์สะท้อนฟองสบู่ถั่วเหลืองยุค 70s?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ปีเตอร์ แบรนดท์ ตำนานเทรดเดอร์โลก
ตำนานเทรดเดอร์โลก “ปีเตอร์ แบรนดท์” ส่งสัญญาณเตือนแรง หลังพบกราฟราคาบิทคอยน์เริ่มแสดงรูปแบบคล้ายตลาดถั่วเหลืองช่วงทศวรรษ 1970 ที่เคยพุ่งแรงก่อนร่วงฮวบ 50% พร้อมเตือนว่าหากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย อาจสะเทือนถึงบริษัทของ “ไมเคิล เซย์เลอร์” และบั่นทอนความเชื่อมั่นตลาดคริปโตทั่วโลก ขณะที่อีกฝ่ายยังเชื่อว่าบิทคอยน์ยังมีรอบกระทิงสุดท้ายรออยู่

“Broadening Top” บนกราฟบิทคอยน์ทำให้นึกถึงยุคทอง-ยุคดับของถั่วเหลือง

“ปีเตอร์ แบรนดท์” เทรดเดอร์ระดับตำนานและนักวิเคราะห์กราฟชื่อดัง ออกโรงเตือนว่ากราฟราคาบิทคอยน์ในปัจจุบันกำลังแสดงสัญญาณ “Broadening Top” หรือ “ยอดแผ่กว้าง” ซึ่งเป็นรูปแบบที่มักปรากฏก่อนการกลับตัวครั้งใหญ่ของตลาด โดยเขาเทียบปรากฏการณ์นี้กับตลาด ถั่วเหลืองในทศวรรษ 1970 ที่เคยพุ่งขึ้นแรงจากภาวะขาดแคลนทั่วโลก ก่อนราคาทรุดลงกว่าครึ่งเมื่ออุปทานเริ่มล้นตลาด

“ในยุค 70s ถั่วเหลืองเคยสร้างกราฟลักษณะเดียวกัน ก่อนจะร่วงลง 50% จากจุดสูงสุด” แบรนดท์ระบุ พร้อมเสริมว่า “ตอนนี้บิทคอยน์กำลังทำสิ่งเดียวกัน และถ้าประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เราอาจได้เห็นราคาที่ต่ำจนหลายคนคาดไม่ถึง”

“ไมโครสแตรทิจี” เสี่ยงจมใต้น้ำ หากราคาดิ่งยาว

แบรนดท์เตือนเพิ่มเติมว่า หากบิทคอยน์เข้าสู่ขาลงลึกจริง ผลกระทบอาจลามไปถึงบริษัท MicroStrategy (MSTR) ของ “ไมเคิล เซย์เลอร์” ที่ถือบิทคอยน์จำนวนมหาศาลในฐานะสินทรัพย์สำรอง โดยปัจจุบันราคาหุ้น MSTR ร่วงลงแล้วกว่า 10.13% ภายใน 30 วัน สะท้อนแรงกดดันต่อบริษัทที่พอร์ตสินทรัพย์คริปโตเริ่มสูญเสียมูลค่า (NAV) อย่างต่อเนื่อง

“ถ้าบิทคอยน์ไม่สามารถรักษาระดับปัจจุบันไว้ได้ สถานการณ์ของ MicroStrategy อาจกลายเป็นตัวอย่างสำคัญของ ‘ความศรัทธาที่ถูกทดสอบ’ ในตลาดคริปโตยุคใหม่” เขากล่าว

บิทคอยน์ลดลง 5.32% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ที่มา: CoinMarketCap
แบรนดท์เตือน “แรงดันสุดท้าย” อาจไม่มา ราคามีสิทธิ์ถอยลึกถึง 60,000 ดอลลาร์

แม้ตลาดจะรอการพุ่งรอบใหญ่ แต่แบรนดท์กลับมองว่าการดีดแรงครั้งสุดท้ายของบิทคอยน์ อาจไม่เกิดขึ้น โดยประเมินว่าราคามีโอกาสถอยไปถึง 60,000 ดอลลาร์ หากแนวรับสำคัญถูกเจาะลงมา

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์อีกหลายรายยังคงมองโลกในแง่ดี โดย อาร์เธอร์ เฮย์ส (Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX เชื่อว่าราคายังมีโอกาสพุ่งสูงถึง 250,000 ดอลลาร์ ภายในรอบวัฏจักรนี้ โดยเฉพาะในช่วง ไตรมาส 4 ซึ่งตามสถิติของ CoinGlass มักเป็นช่วงเวลาที่บิทคอยน์ทำผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดถึง 78.49%

Peter Brandt ใช้แผนภูมิถั่วเหลืองในปี 1977 เพื่อชี้ให้เห็นความคล้ายคลึงกับแผนภูมิราคาบิทคอยน์ในปัจจุบัน ที่มา: Peter Brandt
ตลาดหวั่นผันผวนหลัง “ทรัมป์” เขย่าภาษีนำเข้า - ดัชนี “กลัวสุดขีด” แตะระดับต่ำสุดในรอบเดือน

แม้เดือนตุลาคมจะถูกมองว่าเป็นเดือนทองของบิทคอยน์แต่ความเชื่อมั่นตลาดกลับสั่นคลอนหลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแนวทางขึ้นภาษีสินค้านำเข้า ส่งผลให้ตลาดทั่วโลกปรับฐานแรง ดันดัชนี Crypto Fear & Greed Index ร่วงแตะระดับ 25 (“Extreme Fear”) สะท้อนภาวะวิตกของนักลงทุนคริปโตทั่วโลก

ขณะที่นักเทรดชื่อ “AlphaBTC” บนแพลตฟอร์ม X ระบุว่า “บิทคอยน์จำเป็นต้องยืนเหนือแนวรับปัจจุบันให้ได้ เพื่อรักษารูปแบบ Higher Lows และกลับไปทดสอบระดับเปิดเดือนที่เพิ่งถูกปฏิเสธเมื่อวานนี้”

ไตรมาสที่ 4 ถือเป็นไตรมาสที่มีแนวโน้มขาขึ้นมากที่สุดสำหรับคริปโต ที่มา: CoinGlass
สัญญาณบวกยังไม่ดับ "เงินเฟ้อสหรัฐฯ" อาจช่วยจุดเชื้อไฟใหม่ให้บิทคอยน์

ในอีกมุมหนึ่ง เดวิด เอร์นันเดซ นักกลยุทธ์จาก 21Shares มองว่า หากตัวเลข ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ แสดงสัญญาณชะลอตัว อาจเป็น “หน้าต่างแห่งโอกาส” ที่จะผลักบิทคอยน์กลับขึ้นอีกครั้ง โดยกล่าวว่า “บิทคอยน์กำลังย่อตัว เพื่อรอจังหวะพร้อมดีดขึ้น เหลือเพียงจุดกระตุ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจเท่านั้น”

ด้าน มีคาเอล ฟาน เดอ ปอปเป ผู้ก่อตั้ง MN Trading Capital เสริมว่า การที่ราคาทองคำร่วงกว่า 5.5% จากจุดสูงสุด อาจสะท้อนถึงการ “หมุนเงินลงทุน” จากสินทรัพย์ปลอดภัยกลับเข้าสู่บิทคอยน์และ Altcoins ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวรอบใหม่ในตลาดคริปโตโลก

“บิทคอยน์” อยู่บนทางแยกแห่งศรัทธา

กราฟราคาบิทคอยน์ที่เริ่มสะท้อนรูปแบบฟองสบู่ยุค 70s อาจไม่ใช่แค่สัญญาณเทคนิคธรรมดา แต่เป็นจุดทดสอบศรัทธาของนักลงทุนทั่วโลก ระหว่าง “การเชื่อในวัฏจักรเดิม” กับ “การยอมรับว่าตลาดคริปโตเริ่มเข้าสู่ยุคใหม่”

โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดคริปโตที่เข้มงวดที่สุดในเอเชีย กำลังจับตาสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด เพราะหากบิทคอยน์เกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ ย่อมส่งผลต่อกระแสเงินทุนและนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วภูมิภาค ขณะที่รัฐบาลโซลเองกำลังเดินหน้าเปิดรับนวัตกรรมการเงินใหม่ แต่ยังต้องรักษาเสถียรภาพตลาดให้มั่นคง

อย่างไรก็ตามท่ามกลางแรงกดดันและความผันผวนนี้ คำถามที่ยังไม่มีคำตอบคือ บิทคอยน์จะกลายเป็นถั่วเหลืองแห่งศตวรรษใหม่ หรือจะพิสูจน์ว่าตนคือสินทรัพย์แห่งอนาคตอย่างแท้จริง