นักวิเคราะห์ชื่อดังจาก Fundstrat ฟันธงตลาดกำลังเข้าสู่จุดพลิกฟื้นครั้งใหญ่ก่อนสิ้นปี 2568 แม้บรรยากาศการลงทุนยังอึมครึมจากความกังวลด้านเครดิตเอกชนและสงครามการค้า โดยคาดดัชนี S&P 500 ทะยานแตะ 7,000 จุดได้ในปีนี้ พร้อมมองบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้น - คริปโต หลังเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน
ทอม ลี (Tom Lee) หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Fundstrat Global Advisors ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ล่าสุด ระบุว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วง “พักฐานเพื่อเตรียมพุ่ง” และจะเห็นการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งก่อนสิ้นปีนี้ แม้บรรยากาศการลงทุนในปัจจุบันยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความคลุมเครือในตลาดเครดิตเอกชน (Private Credit) ความตึงเครียดทางการค้า และความผันผวนในดัชนีความกลัวตลาด (VIX) ที่ปรับตัวขึ้น
ลีระบุว่า ความรู้สึกเชิงลบที่ปกคลุมตลาดในเวลานี้อาจกลายเป็น “สัญญาณซื้อเชิงกลับทิศ” (Contrarian Buy Signal) โดยอ้างถึงปัจจัยหนุนระยะกลางจากความต้องการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน นักลงทุนสถาบันส่วนใหญ่ยังถือเงินสดในสัดส่วนสูง ทำให้มีเม็ดเงินรอเข้าซื้อเมื่อราคาปรับฐานเสร็จสิ้น ทั้งนี้ มีเพียง 22% ของนักลงทุนสถาบันเท่านั้นที่สามารถทำผลตอบแทนชนะดัชนีในปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดยังไม่ถึงจุด “ร้อนแรงเกินจริง”
สำหรับประเด็นความเสี่ยงในตลาดเครดิตเอกชน ลียืนยันว่า “ไม่มีสัญญาณเสื่อมสภาพในเชิงระบบ” และไม่น่าจะสร้างแรงกระเพื่อมต่อเสถียรภาพของตลาดในไตรมาสนี้
นอกจากนี้ในเชิงคาดการณ์ Fundstrat ประเมินว่า ดัชนี S&P 500 มีแนวโน้มแตะระดับ 7,000 จุดภายในสิ้นปี ซึ่งสูงกว่าระดับปัจจุบันราว 5% และหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินตามคาด อัตราการเติบโตอาจขยายได้ถึง 10%
ขณะเดียวกันลียังระบุว่า “ผลตอบแทนเฉลี่ยในไตรมาสสุดท้ายตั้งแต่ปี 2493-2567 อยู่ที่ราว 5% แต่รอบนี้มีแรงหนุนจากเฟดที่กลับมาผ่อนคลายนโยบายหลังการหยุดยาว ซึ่งมีลักษณะคล้ายปี 2541 และ 2567 ดังนั้นตัวเลข 5% อาจเป็นเพียงฐานของรอบขาขึ้นนี้เท่านั้น”
เขายังมองว่า “ฤดูกาลประกาศผลประกอบการ” ที่เริ่มต้นอย่างแข็งแกร่งจะเป็นอีกแรงขับสำคัญ โดยขณะนี้กว่า 82% ของบริษัทที่รายงานผลแล้วสามารถทำกำไรได้ดีกว่าคาด “โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่เปิดได้สวย”
ลีเสริมว่า “ความต้องการสินค้าเริ่มกลับมาชัดเจนขึ้น และความกังวลเรื่องภาษีนำเข้าลดลง ทำให้บริษัทต่างๆ มองเห็นทิศทางรายได้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้าได้ดีขึ้น ผมเชื่อว่ามีช่องให้ตลาดขยายมูลค่า (Valuation Multiple) ได้อีกมาก และยังไม่ถึงจุดที่แพงเกินไป”
ด้านตลาดคริปโต ลีให้ความเห็นว่า การปรับฐานแรงในรอบที่ผ่านมาเป็นเพียง “การดีเลเวอเรจครั้งใหญ่” (Major Deleveraging) โดยปัจจุบันอัตราการถือครองสัญญาซื้อเก็งกำไรระยะยาว (Leverage Longs) อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบหลายปี ซึ่งเป็นสัญญาณบวกว่าตลาดอาจแตะ “จุดต่ำสุดของรอบ” แล้ว
เขากล่าวอย่างมั่นใจว่า “นักลงทุนบางส่วนยังคงเสียหายจากการปรับฐาน แต่ผมมองว่านี่ไม่ใช่จุดจบของวัฏจักรคริปโต หากดูจากระดับ Leverage ที่ลดลงและราคาทองคำที่พุ่งแรงในปีนี้ จะเห็นว่าความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น และเมื่อจังหวะหมุนกลับ สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ ก็จะได้รับแรงหนุนเช่นเดียวกัน”
บทวิเคราะห์ของ Fundstrat จึงสะท้อนภาพ “ตลาดในช่วงรอยต่อ” ที่แม้ยังเต็มไปด้วยแรงกดดัน แต่กลับมีเชื้อไฟรอการจุดติด ทั้งจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ความคาดหวังผลประกอบการเชิงบวก และการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะตลาดคริปโต ซึ่งทั้งหมดนี้อาจทำให้ปลายปี 2568 กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “รอบขาขึ้นครั้งใหม่” ของทั้งตลาดการเงินโลก.