หน่วยงานกำกับเกาหลีใต้รื้อฟื้นการทบทวนดีลไบแนนซ์ (Binance) เทกโอเวอร์ Gopax อีกครั้ง หลังค้างเติ่งมานานกว่า 2 ปี สะท้อนท่าทีเปิดทางรับยักษ์คริปโตคืนสังเวียน แต่ก็ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันด้านกฎหมายและมาตรฐาน AML ที่เข้มข้น ท่ามกลางบรรยากาศตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกาหลีใต้กำลังเร่งปฏิรูปสู่ระบบกำกับดูแลเต็มรูปแบบ พร้อมเปิดประตูรับ ETF และสเตเบิลคอยน์ในประเทศ
หน่วยงาน Financial Intelligence Unit (FIU) ของเกาหลีใต้กลับมาเปิดการตรวจสอบรายงานการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของแพลตฟอร์มเทรดคริปโต Gopax อีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการพิจารณาคุณสมบัติของ Binance ในฐานะ “ผู้ถือหุ้นใหญ่” ของบริษัท โดยแหล่งข่าวจาก Newsis ระบุว่า การตรวจสอบครั้งนี้ “มีแนวโน้มเป็นบวก” และอาจได้ข้อสรุปภายในสิ้นปี 2568
อย่างไรก็ตามหากการอนุมัติเดินหน้าได้สำเร็จ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Binance สามารถกลับเข้าสู่ตลาดเกาหลีใต้ได้อย่างเป็นทางการ หลังดีลเข้าซื้อกิจการ Gopax ถูกแช่แข็งตั้งแต่ปี 2566
กฎหมายยังเข้ม แต่โอกาสกลับมาชัด
ตามกฎหมายเกาหลีใต้ ไม่มีระบบแยกเฉพาะสำหรับการประเมิน “ผู้ถือหุ้นรายใหญ่” ของบริษัทคริปโตโดยตรง ทำให้การตรวจสอบผู้บริหารของ Gopax ครั้งนี้ถูกใช้เป็นกลไกแทนในการพิจารณาความเหมาะสมของ Binance โดยปริยาย
โดย Binance เข้าถือหุ้น 67% ของ Gopax เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 และยื่นรายงานการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารร่วมกับ Gopax ในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน ทว่า FIU กลับ “หยุดกระบวนการอนุมัติ” กลางคัน เนื่องจากความกังวลด้านการฟอกเงิน (AML) และคดีที่ Binance เผชิญในสหรัฐฯ
กระทั่ง Binance ยอมจ่ายค่าปรับกว่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีร่วมกับหน่วยงาน SEC และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ทำให้แรงกดดันเริ่มคลี่คลายลง และดูเหมือนหน่วยงานกำกับเกาหลีใต้เริ่มเปิดทางให้ Binance ได้รับโอกาสอีกครั้ง
"Gopax" จากวิกฤติสู่โอกาส
Gopax ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่แพลตฟอร์มในเกาหลีใต้ที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกรรม “เงินสด–คริปโต” โดยตรง ซึ่งต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน KYC และ AML อย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มนี้เคยเจอ “วิกฤติสภาพคล่อง” ครั้งใหญ่ในต้นปี 2566 หลังพันธมิตรด้าน DeFi อย่าง Genesis Global Capital ระงับการถอนเงินของผลิตภัณฑ์ GoFi จนเงินผู้ใช้กว่า 47 ล้านดอลลาร์ (ราว 56.6 พันล้านวอน) ติดค้างในระบบ
อย่างไรก็ตามการเข้าซื้อกิจการของ Binance จึงถูกมองว่าเป็น “ภารกิจช่วยชีวิต” ที่จะฟื้นความเชื่อมั่นและคืนทุนให้ผู้เสียหาย แต่เมื่อดีลต้องหยุดชะงักจากแรงกดดันทางกฎหมาย Binance จึงเคยพยายามขายหุ้นบางส่วนให้บริษัทคลาวด์ท้องถิ่น Megazone เพื่อลดสัดส่วนถือครอง ทว่าข้อตกลงดังกล่าวก็ล่มลงในปลายปี 2567
ทางการเกาหลีเร่งปฏิรูปตลาดคริปโต
ขณะที่ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการบริการการเงิน (FSC) ของเกาหลีใต้สั่งให้แพลตฟอร์มคริปโตทั้งหมด “ระงับบริการให้กู้ยืมคริปโต” ชั่วคราว เพื่อลดความเสี่ยงในระบบ จนกว่าจะมีกรอบกฎหมายใหม่ที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม นโยบายโดยรวมของรัฐบาล อี แจ-มยอง (Lee Jae Myung) กลับชี้ให้เห็นถึงแนวโน้ม “เปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัล” มากขึ้น ทั้งการเตรียมเปิดตัว กองทุน ETF คริปโตแบบ Spot และการออกกรอบกำกับดูแล Stablecoin ที่อิงค่าเงินวอน (KRW) ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของประเทศ
ขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการรายใหญ่ในประเทศอย่าง Dunamu เจ้าของแพลตฟอร์ม Upbit ก็เปิดตัวบริการ Custody สำหรับลูกค้าสถาบัน โดยเก็บสินทรัพย์ไว้ใน “Cold Wallet” แบบออฟไลน์ 100% เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์และตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น
Binance เดินหน้าทดสอบ “เส้นแบ่งใหม่” ของตลาดเกาหลีใต้
การกลับมาของ Binance ในเกาหลีใต้ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการกลับมาทางธุรกิจ แต่ยังเป็น “การทดสอบเชิงนโยบาย” ของรัฐบาลเกาหลีใต้ ว่าจะเปิดรับผู้เล่นระดับโลกในอุตสาหกรรมคริปโตมากน้อยเพียงใด
ในอีกด้านหนึ่ง การทบทวนดีล Gopax สะท้อนสัญญาณ “ผ่อนคลาย” จากฝั่งหน่วยงานกำกับ
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเกาหลีใต้ต้องการให้ตลาดคริปโตเติบโตภายใต้กรอบกฎหมายที่เข้มงวด โปร่งใส และยั่งยืน
และหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน Binance อาจกลายเป็น “จิ๊กซอว์สำคัญ” ที่ช่วยยกระดับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของเกาหลีใต้ให้กลับมาเป็นศูนย์กลางระดับเอเชียอีกครั้ง หลังถูกทิ้งห่างโดยญี่ปุ่นและสิงคโปร์มานาน