xs
xsm
sm
md
lg

MR.D.I.Y.ระดมทุน 5.6 พันล.เสนอขายหุ้น IPO ใหญ่สุดในรอบ 3 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




"มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย)" เตรียมระดมทุนสูงสุด 5.6 พันล้านบาท ด้วยการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งถือเป็นการเสนอขาย IPO ที่มีมูลค่าตลาด (Market Capitalisation) สูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา อ้างอิงมูลค่าตามราคาตลาด


บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) หรือ MR. D.I.Y. ผู้นำธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไป ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ "MRDIYT" เตรียมระดมทุนสูงสุด 5.6 พันล้านบาท (173 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งถือเป็นการเสนอขาย IPO ที่มีมูลค่าตลาด (Market Capitalisation) สูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา อ้างอิงมูลค่าตามราคาตลาด

 โดยการระดมทุนครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ (Cornerstone Investors) ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ BBL Asset Management, InnovestX Securities Company Limited, FIL Investment Management, Lion Global และ Fiera Capital (UK).

นายเอเดรียน ออง ประธานกรรมการ MR. D.I.Y. เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประกอบธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไป ภายใต้แบรนด์ "MR. D.I.Y." ที่มีขนาดใหญ่และเติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ขับเคลื่อนด้วยทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ที่มุ่งมั่นการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้ครบทุกสิ่ง ในทุกวัน ด้วยราคาถูกคุ้มเสมอ ผ่านการนำเสนอสินค้ากว่า 16,000 รายการ ครอบคลุมใน 6 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ (1) เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน (2) อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และเครื่องมือช่าง (3) เครื่องใช้ไฟฟ้า (4) เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา (5) ของเล่น และ (6) สินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะมอบสินค้าที่คุ้มค่าคุ้มราคา พร้อมประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบาย โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายใต้ชื่อย่อ MRDIYT ถือเป็น ก้าวสำคัญของบริษัท ในการเสริมสร้าง ธรรมาภิบาล (Corporate Governance) ภาพลักษณ์ของแบรนด์ และการเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

นายแอนดี้ ชิน กวานกุ้ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MR. D.I.Y. กล่าวว่าอุตสาหกรรมค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านในประเทศไทยคาดการณ์ว่ามีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ร้อยละ 5.4 จากมูลค่าตลาด 182.6 พันล้านบาท ในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 237.8 พันล้านบาท ในปี 2572 ที่สำคัญกว่านั้น ผู้ค้าปลีกในรูปแบบ Chain Retailer เช่น MR. D.I.Y. ก็กำลังเติบโตเร็วกว่าตลาดโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 15.3%

โดย MR. D.I.Y. วางแผนขยายสาขาทั่วประเทศไทยด้วยการเพิ่มสาขาใหม่ไม่น้อยกว่า 500 สาขาภายในระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2568–2570) เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดและขยายการดำเนินงานให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยยังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการในทุกวันด้วยราคาถูกคุ้มเสมอ (“Always Low Prices”) ผ่านสินค้าที่หลากหลายและสาขาที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทั่วประเทศ และมีแผนลงทุน 4.5 พันล้านบาท เพื่อสร้างคลังสินค้าอัตโนมัติขนาดใหญ่ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน (supply chain) ให้สามารถรองรับการเติบโตของบริษัทได้มากกว่า 1,500 สาขาหลังปี พ.ศ. 2570 พร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนาประสิทธิภาพด้านต้นทุนอย่างต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น