ตลาดคริปโตเข้าสู่ภาวะระส่ำอีกครั้ง หลังราคาบิทคอยน์ร่วงต่ำกว่า 112,000 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกเฝ้ารอฟังสุนทรพจน์ของประธานเฟด "เจอโรม พาวเวลล์" ซึ่งอาจชี้ทิศทางนโยบายการเงินและแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยในปลายเดือนตุลาคม ท่ามกลางแรงกดดันจากสงครามการค้า สถานการณ์การเมือง และการชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อ
ราคาบิทคอยน์ (BTC) ร่วงลงแตะระดับ 111,856 ดอลลาร์ หรือลดลงเกือบ 3% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังนักเทรดเริ่มชะลอการซื้อขายเพื่อรอความชัดเจนจากสุนทรพจน์ของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งจะกล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในงาน NABE Annual Meeting ที่เมืองฟิลาเดลเฟียในวันเดียวกัน
ขณะที่ตลาดคริปโตโดยรวมปรับตัวลดลงแรง โดยมูลค่ารวมตลาดร่วง 3.2% เหลือเพียง 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่เหรียญหลักอื่น ๆ ก็ได้รับแรงเทขายตาม เช่น Ethereum ลดลง 4% สู่ระดับ 4,012 ดอลลาร์ , BNB ดิ่งลง 10% เหลือ 1,205 ดอลลาร์ และ XRP** ร่วง 5.5% ปิดที่ 2.47 ดอลลาร์
ความไม่แน่นอนทางการเมืองจุดชนวนความวิตกของนักลงทุนทั่วโลก
บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกยังถูกกดดันจากปัจจัยเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการที่ "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเตรียมเก็บภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 100% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดการเงินทั่วโลกและทำให้มูลค่าตลาดคริปโตหายไปกว่า 125,000 ล้านดอลลาร์ ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
แม้ในวันจันทร์ ทรัมป์จะออกมาแสดงท่าทีอ่อนลงต่อจีนบ้าง แต่นักลงทุนยังคงระมัดระวังและพร้อมรับความผันผวนรอบใหม่
ด้าน Lukman Otunuga นักวิเคราะห์อาวุโสจาก FXTM ระบุว่า ปฏิกิริยาของตลาดครั้งนี้ “สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงอ่อนไหวต่อความเสี่ยงทางการเมืองและความไม่แน่นอนด้านการค้าอย่างมาก” พร้อมเตือนว่าทั้งภาษีศุลกากรและภาวะชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อ อาจฉุดความเชื่อมั่นของตลาดต่อไปในระยะสั้น
การล้างพอร์ตครั้งใหญ่สะท้อนความเปราะบางของเลเวอเรจ แต่ชี้โอกาสให้โครงการแข็งแกร่งโดดเด่น
ด้าน Kevin Lee ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจของ Gate มองว่าแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และมาตรการภาษีจะยังถ่วงตลาดในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 28–29 ตุลาคมนี้ อาจช่วยผ่อนคลายแรงกดดันและฟื้นความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงได้บางส่วน
ขณะเดียวกัน Yannik Schrade ซีอีโอของ Arcium วิเคราะห์ว่า การล้างพอร์ตครั้งใหญ่ที่ทำให้ตลาดสูญมูลค่ากว่า 19,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเสมือน “กระบวนการคัดกรอง” ที่ช่วยเปิดเผยตำแหน่งเลเวอเรจที่เปราะบางออกจากตลาด พร้อมดึงความสนใจกลับไปยังโปรเจกต์ที่มีประโยชน์ใช้งานจริง (utility-driven projects)
เขายกตัวอย่างกรณี Zcash ที่แสดงความแข็งแกร่งท่ามกลางความผันผวน และ Umbra ที่สามารถระดมทุนได้กว่า 155 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน DeFi ด้านความเป็นส่วนตัว ซึ่งสะท้อนว่าตลาดยังมีพื้นที่เติบโตสำหรับนวัตกรรมที่มีคุณค่า
ตลาดจับตา “พาวเวลล์” ชี้ชะตาอนาคตสินทรัพย์เสี่ยง
การเคลื่อนไหวของตลาดในระยะต่อไปยังขึ้นอยู่กับสัญญาณจากประธานเฟด ว่าจะส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ หากน้ำเสียงของพาวเวลล์มีท่าทีผ่อนคลาย อาจเป็นแรงหนุนสำคัญให้สินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงคริปโตฟื้นตัวในระยะสั้น แต่หากกลับมีน้ำเสียงระมัดระวังหรือตึงเครียดมากขึ้น ตลาดอาจเผชิญแรงเทขายต่อเนื่อง
ภายใต้ความผันผวนที่รุนแรงและปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน บิตคอยน์ยังคงเป็นศูนย์กลางความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก ที่กำลังรอคำตอบจากพาวเวลล์ ว่าจะ “จุดไฟ” ความหวังใหม่ หรือ “ดับฝัน” ตลาดคริปโตให้มืดมิดยิ่งกว่าเดิม