xs
xsm
sm
md
lg

ฆ่าตัดตอนปิดคดี "หมอบุญ" / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นมีคดีใหญ่ที่สร้างความเสียหายให้นักลงทุนในวงกว้าง 3 คดี มีผู้ร่วมกระทำผิดมากมายในลักษณะเป็นกระบวนการ และถูกดำเนินคดีในข้อหาหนัก แต่เริ่มมีการตั้งข้อสงสัยจากสาธารณชนขึ้นมาแล้วว่าบทสรุปสุดท้ายของการดำเนินคดี จะเป็นไปด้วยความโปร่งใสตรงไปตรงมาหรือไม่

และกลุ่มอาชญากรที่ร่วมกันก่อตวามผิดร้ายแรงในตลาดหุ้น สร้างความเสียหายให้ประชาชนจำนวนหลายหมื่นคน มูลค่าความเสียหายรวมกันหลายหมื่นล้านบาท ทั้งหมดจะถูกลงโทษหรือไม่

3 คดีดังประกอบด้วยคดีปั่นหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด(มหาชน) หรือ MORE คดีแต่งบัญชีหุ้น บริษัท สตางค์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK และการฉ้อโกงประชาชนในคดีหมอบุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG

คดีปั่นหุ้น MORE มูลค่าความเสียหายประมาณ 4,500 ล้านบาท มีผู้ร่วมขบวนการปั่นหุ้น 42 คน โดยถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ 28 คน ส่วนอีก 14 คน ซึ่งเป็นบุคคลในระดับแกนนำในการปั่นหุ้น และเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง กลับยังไม่ถูกส่งตัวเข้าคุมขัง โดยมีข่าวว่า บางคนหลบหนีออกนอกประเทศ ส่วนคนที่ไม่ได้หลบหนี แต่ไม่มาศาลตามนัด และมีเพียงข่าวว่า จะถูกออกหมายจับเท่านั้น

คดีหุ้น MORE ซึ่งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว แต่เกิดมีปัญหา ช่วงการเปลี่ยนถ่ายโยกย้ายผู้บริหารศาล เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหา 4 ราย ได้รับการอนุมัติให้ประกันตั้ง ทั้งที่ก่อนหน้า ศาลไม่อนุมัติให้ประกันตั้ง แม้จะยื่นขอประกันตัวมาหลายครั้ง ก็ตาม

ปมที่ถูกตั้งคำถามว่า ทำไมศาลอนุมัติให้ประกันตัว 4 ผู้ต้องหาคดี MORE ในวันสุดท้ายของฤดูการโยกย้ายเปลี่ยนถ่ายผู้บริหารศาล ทำให้ประธานศาลฎีกาที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ สั่งตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน

กระบวนการยุติธรรมการดำเนินคดีความผิดร้ายแรงในตลาดหุ้น กรณี MORE กำลังถูกตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมคำถามอีก 14 ผู้ร่วมกระทำผิด ซึ่งยังไม่รู้ที่มาที่ไปว่า ทั้ง 14 คนล่องหนอยู่ที่ไหน และทำไมยังไม่ถูกควบคุมตัวเข้าคุก

คดีหุ้น STARK การดำเนินคดีไปตั้งขั้นตอน แม้แต่หัวโจกใหญ่ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ยังต้องเข้าไปนอนในเรือนจำ เพียงแต่นักลงทุนที่ถือหุ้น STARK และเจ้าหนี้หุ้นกู้วงเงินเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ตงไม่ได้รับการเยียวยาในความเสียหายที่ได้รับ

คดีแต่งบัญชีตบตาประชาชนของ STARK เหลือเพียงการรอคอยบทสรุปว่า จะมีใครต้องติดคุกคนละกี่ปีเท่านั้น

ส่วนคดีหมอบุญ กระแสความสนใจเริ่มเงียบหายแล้ว แตกต่างจากช่วงแรกที่พฤติกรรมของหมอบุญแบละผู้ร่วมขบวนการถูกเปิดโปง

คดีฉ้อโกงประชาชนของหมอบุญ คาดกันว่าสร้างความเสียหายประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท โดยผู้ต้องหารวม 16 คน ถูกจับกุมแล้ว 13 คน แต่ยังไม่ได้ตัวหมอบุญที่หลบหนีไปต่างประเทศ

ในจำนวน 13 คนที่จับกุมตัวแล้ว นอกจากภรรยาและลูกสาวหมอบุญมี ยังมีพนักงานของบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด หรือ KFS อีก 2 คนร่วมขบวนการหมอบุญ

คดีหมอบุญได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก เพราะไม่มีใครคิดว่า คนที่มีชื่อเสียง และมีเงินระดับพันล้านหมื่นล้านบาท จะก่อพฤติกรรมฉ้อโกงชาวบ้าน

นอกจากนั้น คนในแวดวงธุรกิจหลักทรัพย์ยังเชื่อว่า คนในวงการโบรกเกอร์ที่ร่วมขบวนการหมอบุญ ไม่มีเพียงนางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกรและนายภาคย์ วัฒนาพร 2 พนักงาน บล.คิงส์ฟอร์ดเท่านั้น

ทุกฝ่ายได้แต่จับตาการสอบสวนขยายผลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพราะเชื่อกันว่า ผู้ร่วมขบวนการหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน จะไม่มีเพียง 16 คน แต่อาจมีผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์บางแห่งมีเอี่ยวด้วย โดยพนักงานสอบสวน อาจเค้นสอบจากผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ เพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ

แต่มาวันนี้ คดีหมอบุญเริ่มเงียบหายไปใน DSI พร้อมกับกระแสสังคมที่ลดระดับความสนใจและการตรวจสอบความคืบหน้าของคดี และดูเหมือนว่า คดีคงถูกฆ่าตัดตอนไปแล้ว โดยมีผู้ร่วมขบวนการหมอบุญเพียง 16 คนเท่านั้น

ทั้งความสงสัยให้คนในวงการโบรกเกอร์และผู้เสียหายบางกลุ่มที่มีคำถามคาใจว่า ทำไมจึงไม่มีการขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการโกงของหมอบุญอื่น ๆ อีก

คดีปั่นหุ้น MORE โดยผู้ต้องหาที่เคยยื่นขอประกันตัว และไม่เคยได้รับการประกันตัว แต่วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา กลับได้รับอนุมัติให้ประกันตัว 4 ราย ทำให้คดีมีข้อน่าฉงน จนประธานศาลฎีกาคนใหม่ต้องสั่งสอบสวนหาความกระจ่าง

คดีฉ้อโกงประชาชนของหมอบุญก็เช่นกัน วงการธุรกิจหลักทรัพย์กำลังตั้งข้อฉงนว่า ผู้ร่วมขบวนการจะถูกตัดตอน จนมีเพียง 16 คนเท่านั้นหรือ ทั้งที่ DSI น่าจะมีเบาะแสสาวถึงผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลงเหลือได้

รวมทั้งผู้ร่วมขบวนการที่อยู่ในบริษัทหลักทรัพย์บางแห่งซึ่งยังลอยนวล








กำลังโหลดความคิดเห็น