“วิทัย รัตนากร” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบสื่อมวลชล” “GovernorConnect”ครั้งแรกหลังจากได้รับตำแหน่ง ประกาศชัดพร้อมลดดอกเบี้ยนโยบาย ตามนโยบายผ่อนคลายการเงิน เปิดภารกิจ 3 ด้าน คือ 1) เสถียรภาพทางการเงิน ผ่านการดูแลเงินเฟ้อ และจับตาความเสี่ยงภาวะเงินฝืด 2) ระบบสถาบันการเงินต้องมีเสถียรภาพ และ 3) ดูแลเสถียรภาพระบบการชำระเงิน เดินเครื่อง Social AMC เรื่องหารือรายละเอียดกับสมาคมธนาคาร หวังแก้หนี้ต่ำ 1 แสนบาท คาดได้ข้อสรุปใน ต.ค.68 นี้ พร้อมจับตาเทรดทองผ่านแอปฯ ดูแลค่าบาทไม่ให้ผันผวนจนผิดปกติ
นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน ได้มีความเห็นตรงกันที่ดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีความผันผวน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยอยู่ที่ 1.50% ยังมี Policy Space (ช่องว่างของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย) เหลืออยู่ และอาจลดอัตราดอกเบี้ย ลงได้ถ้าจำเป็นต้องทำเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจหรือเงินเฟ้อ การประชุม กนง. ครั้งล่าสุด(8 ต.ค.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้คงดอกเบี้ย เนื่องจากมีการปรับลดดอกเบี้ยไปบ้างแล้ว กว่า 1% นับจากปี 67 ดังนั้นครั้งนี้จึงรอจังหวะและผลให้นโยบายที่เหมาะสม โดยปกติการส่งผ่านจะใช้เวลามากกว่า 2 ไตรมาสขึ้นไป ซึ่งประเทศไทย มี Policy Space ที่จำกัด
ดึง AMC แก้หนี้ต่ำ 1 แสนบาท ได้ข้อสรุปใน ต.ค.68
สำหรับนโยบายการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ยังคงทำต่อเนื่อง จากโครวการ”คุณสู้เราช่วย”นับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ในระยต่อไป เป็นการต่อยอกให้ AMC ช่วยหนี้เสียต่ำกว่า 100,000 บาทที่มีกว่า 3 ล้านรายในลูกหนี้ 4 กลุ่ม คือ ลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ และ สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารนั้น เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง กระทรวงการคลัง ธปท. และสมาคมธนาคารไทย
โดยอยู่ระหว่างการหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุป โดยหลักเป็นการรับซื้อหนี้เสียเพื่อให้ปรับโครงสร้างหนี้ ในแบบผ่อนปรนมากๆเพื่อให้ปลดหนี้ได้เร็ว โดยจะช่วยแก้หนี้เสียที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อไม่ให้กระทบวินัยการเงิน และไม่ให้เกิด Moral Hazard
“ไม่ได้เป็นเรื่อง National AMC แต่จะเป็นการทำผ่าน บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM โดยจะถูกปรับเป็น Social AMC เพื่อทำภารกิจแก้หนี้ โดยภายในสิ้นเดือนต.ค.68 จะได้ข้อสรุปเรื่องรูปแบบของเรื่องนี้ เพื่อเสนอต่อรัฐบาลนำเข้าสู่ขั้นตอนต่างๆและหวังว่าจะสำเร็จและเริ่มได้ในต้นปี 2569 โดยอาจจะเลือกบางกลุ่มที่สามารถทำได้มาทำก่อน”
สำหรับเงินทุนที่จะใช้ในการซื้อหนี้เสียครั้งนี้มาจากเงินที่เหลือจากโครงการคุณสู้เราช่วย ที่ปิดโครงการไปเมื่อ 30 ก.ย. 2568 ที่เป็นการนำเงินจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ที่ปรับลดอัตรานำส่งของสถาบันการเงินชั่วคราวจาก 0.46% เหลือ 0.23% และมีอีกส่วนหนึ่งที่ธนาคารพาณิชย์เติมไว้ให้ โดยเงินจากโครงการจะเหลือเท่าไหร่และจะเติมใน Social AMC ผ่าน SAM ได้เท่าไหร่ต้องรอสรุปอีกครั้ง
จับตาเทรดทองผ่านแอปฯ ไม่ให้กระทบค่าบาท
นายวิทัย กล่าวว่า ธปท.ให้ความสำคัญกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยปัจจุบันพบว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 4.5% ตั้งแต่ต้นปีซึ่งแข็งค่าลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้ โดยธปท.พร้อมดูแลการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทให้เหมาะสมและจะเข้าไปดูแลหากมีเงินไม่พึงประสงค์และมีความสงสัยว่าเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินและจะตามไปดู ส่วนเรื่องของเงินไม่พึงประสงค์ลำพังหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะเห็นทั้งหมดต้องเอาข้อมูลมาต่อกัน โดยทุกปัจจัยมีผลต่อค่าเงินมากน้อยแตกต่างกัน
“ทองคำ เป็น Amplifier หรือ ตัวขยายผลการเคลื่อนไหวของค่าเงิน โดยเฉพาะการซื้อขายทองผ่านแอปพลิเคชั่นเป็นเงินบาทที่ทำให้เพิ่มแรงซื้อบาทเข้ามา ซึ่งไม่เกี่ยวกับการซื้อขายทองคำแท่งหรือรูปพรรณ การเทรดทองเป็นเงินบาททำให้มีแรงซื้อเงินบาทเข้ามาเวลาที่ราคาทองคำขึ้น โดยกำลังหารือกับกระทรวงการคลังและร้านทองในเรื่องนี้ โดยจะไม่มีการออกนโยบายโดยไม่มีความจำเป็น โดยจะทำด้วยความระมัดระวัง”