xs
xsm
sm
md
lg

“ฉางเผิงจ้าว” สวนกลับ Forbes ยันตัวเลขสินทรัพย์ 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์สูงเกินจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ฉางเผิง จ้าว ผู้ก่อตั้ง Binance มหาเศรษฐีอันดับที่ 21 ของโลก
กระแสสั่นสะเทือนวงการคริปโต เมื่อ ฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao (CZ)) ผู้ก่อตั้ง Binance ออกโรงปฏิเสธการจัดอันดับมหาเศรษฐีของ Forbes ที่ระบุว่ามีทรัพย์สินทะลุ 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ติดอันดับที่ 21 ของโลก โดย “CZ” ย้ำว่า ตัวเลขดังกล่าวสูงเกินจริง และยืนยันว่า “ความมั่งคั่งที่แท้จริง” ไม่ได้วัดจากตัวเงิน แต่จากจำนวนชีวิตที่เขาสามารถช่วยเหลือได้ ขณะที่ราคาของ BNB พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ ดันมูลค่าทรัพย์สินของซีแซดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

Forbes จัดอันดับ “CZ” มหาเศรษฐีอันดับ 21 ของโลก มูลค่าทรัพย์สิน 8.73 หมื่นล้านดอลลาร์

โดยการจัดอันดับมหาเศรษฐีประจำปีของ Forbes สร้างแรงสะเทือนครั้งใหม่ในโลกคริปโต หลังเปิดเผยว่านาย ฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao (CZ)) ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Binance มีทรัพย์สินสุทธิกว่า 87.3 พันล้านดอลลาร์ (ราว 3.2 ล้านล้านบาท) ส่งผลให้เขาทะยานขึ้นเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับที่ 21 ของโลก อยู่เหนือ Thomas Peterffy และตามหลัง Françoise Bettencourt Meyers มหาเศรษฐีหญิงทายาท L’Oréal เพียงไม่กี่อันดับ

อย่างไรก็ตาม “CZ” ได้ออกแถลงโต้ผ่านช่องทางส่วนตัวว่า ตัวเลขดังกล่าว “ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง” พร้อมย้ำว่า Forbes ประเมินสูงเกินไปอย่างมาก โดยระบุว่า “ความมั่งคั่งที่แท้จริงของตนต่ำกว่าตัวเลขที่สื่อรายงานอย่างมาก”

สัดส่วนความมั่งคั่งจาก Binance และ BNB พุ่งรับกระแสคริปโตบูม

ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของนายจ้าวมาจากการถือหุ้นใน Binance ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายคริปโตที่มีปริมาณเทรดสูงสุดในโลก และจากการถือครองเหรียญ BNB ซึ่งล่าสุดราคาพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่กว่า 1,200 ดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ

แม้ว่านายจ้าว ไม่เคยเปิดเผยจำนวนเหรียญที่ถืออยู่ แต่มีการประเมินว่าเขาครอบครอง BNB มากกว่า 90 ล้านเหรียญ ขณะที่บางส่วนของทรัพย์สินยังอยู่ในรูปของการลงทุนผ่าน YZi Labs กองทุนที่เน้นลงทุนในเทคโนโลยี Web3, AI และชีวเทคโนโลยี ซึ่งบริหารสินทรัพย์มูลค่ากว่า 10 พันล้านดอลลาร์ และมีพอร์ตโฟลิโอครอบคลุมกว่า 230 โครงการทั่วโลก

วาทะโคตรหล่อ “เงินไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือจำนวนชีวิตที่เราช่วยได้”

นายจ้าว ยังระบุเพิ่มเติมในแถลงการณ์ว่า การจัดอันดับความมั่งคั่งเป็นเพียง “ตัวเลขไร้สาระ” ที่ไม่มีความหมายในภาพรวมของชีวิต โดยกล่าวว่า “ผมไม่คิดว่าตัวเลขนี้แม่นยำเลย (มันสูงเกินจริงมาก) และผมก็ไม่คิดว่ามันสำคัญ สิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือ เราช่วยคนได้มากแค่ไหน และช่วยได้อย่างไรต่างหาก”

ท่าทีของนายจ้าวสอดคล้องกับแนวทางที่เขายึดถือมาโดยตลอดในเรื่อง การให้คืนแก่สังคม เนื่องจากเขาเคยบริจาคเหรียญ BNB มูลค่ากว่า 600,000 ดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว และล่าสุดได้เปิดโครงการ Giggle Academy ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มส่งเสริมการศึกษาแบบฟรีทั่วโลก พร้อมประกาศเจตนารมณ์ว่าจะบริจาคทรัพย์สินกว่า 99% ของตนเพื่อการกุศล

จากซีอีโอ Binance สู่ผู้สร้าง “เส้นทางใหม่” หลังคดีในสหรัฐฯ

ในปี 2566 นายจ้าว ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ Binance หลังยอมรับผิดฐานละเมิดกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน (AML) ของสหรัฐฯ โดยในข้อตกลงรับสารภาพ เขาถูกตัดสินจำคุก 4 เดือน ซึ่งถือว่าน้อยกว่าคำร้องขอของอัยการที่ต้องการโทษจำคุก 3 ปี

แม้ต้องผ่านมรสุมทางกฎหมาย แต่ซีแซดยังคงเป็นบุคคลทรงอิทธิพลในอุตสาหกรรมคริปโตทั่วโลก ด้วยบทบาทผู้นำเชิงความคิดและแนวทางการสร้างสมดุลระหว่าง “ธุรกิจ เทคโนโลยี และมนุษยธรรม”

ภาพลักษณ์ใหม่ของ “ฉางเผิง จ้าว” ในยุคหลัง Binance

ท่าทีของนายจ้าวที่เลือกปฏิเสธการจัดอันดับความมั่งคั่ง อาจสะท้อน “การรีแบรนด์ตัวตน” ครั้งสำคัญจากนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพล สู่ผู้นำเชิงจิตวิญญาณของวงการคริปโต เขากำลังเปลี่ยนเส้นทางจาก “ผู้สร้างแพลตฟอร์ม” มาเป็น “ผู้สร้างโอกาส” ให้กับผู้คน ผ่านแนวคิดการศึกษาและการแบ่งปัน

ท่ามกลางโลกการเงินดิจิทัลที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและการสะสมทรัพย์สิน ท่าทีของนายจ้าวครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณของ “แนวคิดใหม่” ที่กำลังเกิดขึ้นในโลกคริปโต และโลกที่ความมั่งคั่งไม่ถูกวัดจากตัวเงิน แต่อาจวัดจาก “คุณค่าที่ส่งต่อ” แทน

ทั้งนี้กรณี “ฉางเผิง จ้าว vs Forbes” จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของตัวเลขในบัญชี แต่คือสัญลักษณ์ของการปะทะกันระหว่าง “แนวคิดแห่งความมั่งคั่งแบบเก่า” กับ “คุณค่าทางจิตใจแบบใหม่” ที่นายจ้าวเลือกเดินบนเส้นทางหลังอย่างมั่นคงและชัดเจน