xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 32.38-โมเมนตัมอ่อนค่าของเงินบาทลดกำลังลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.00-32.75 บาท/ดอลลาร์ และกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์ จากระดับเปิดเช้านี้(6ต.ค.68)ที่ 32.38 บาทต่อดอลลาร์
“แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”
จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์สัปดาห์ก่อนหน้า เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน (แกว่งตัวในกรอบ 32.30-32.42 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะทยอยแข็งค่าขึ้นเข้าใกล้โซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ ตามการย่อตัวลงบ้างของเงินดอลลาร์และการทยอยปรับตัวสูงขึ้นเข้าใกล้จุดสูงสุดใหม่ของราคาทองคำ (XAUUSD)

ทว่า เงินบาทก็พลิกกลับมาอ่อนค่าลง ในช่วงเช้าของตลาดการเงินเอเชีย หลังเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) อ่อนค่าลง ทะลุโซนระดับ 149.5 เยนต่อดอลลาร์ ตอบรับผลการเลือกหัวหน้าพรรค LDP คนใหม่ ซึ่งอาจกลายมาเป็นนายกฯ คนใหม่ของญี่ปุ่น โดย Sanae Takaichi ได้รับชัยชนะ ซึ่งหากได้รับการโหวตเป็นนายกฯ คนใหม่ (และนายกฯ หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น) ผู้เล่นในตลาดก็ประเมินว่า Sanae Takaichi อาจจะสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจการคลัง ควบคู่กับอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ไม่ต่างจากนโยบาย Abenomics ซึ่งอาจทำให้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังไม่สามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างที่ตลาดประเมินในช่วงก่อนหน้า สะท้อนจากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ปรับลดความคาดหวังโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง 25bps ในปีนี้ ของ BOJ เหลือราว 45% หลังรับรู้ผลการคัดเลือกหัวหน้าพรรค LDP ดังกล่าว

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์พลิกกลับมาอ่อนค่าลงบ้าง หลังรัฐบาลสหรัฐฯ เผชิญภาวะ Government Shutdown อีกทั้งรายงานข้อมูลเศรษฐกิจส่วนใหญ่กลับออกมาแย่กว่าคาด ส่วนในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด และภาวะ US Government Shutdown พร้อมรอลุ้นผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

ด้านแนวโน้มเงินบาท เราประเมินว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทยังมีกำลังอยู่ ทว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทได้อ่อนกำลังลง หลังเงินบาทยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน (แนวต้านถัดไป 32.65 บาทต่อดอลลาร์) ตามแรงขายเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาด ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ก็เผชิญแรงกดดันจากภาวะ US Government Shutdown และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มกลับมาแย่กว่าคาด ซึ่งเรามองว่า เงินดอลลาร์ (รวมถึงเงินบาท) อาจเคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน จนกว่าจะรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งอาจต้องเห็นความชัดเจนว่า ภาวะ US Government Shutdown จะสิ้นสุดลงเมื่อใด อย่างไรก็ดี ในระยะสั้น เงินดอลลาร์อาจพอได้แรงหนุนบ้าง หากเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) อ่อนค่าลงบ้าง จากพัฒนาการของสถานการณ์การเมืองญี่ปุ่นล่าสุด ที่อาจได้นายกฯ คนใหม่ คือ Sanae Takaichi ซึ่งมีแนวโน้มสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายหรือต้องการให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)

หากอ้างอิงกลยุทธ์ Trend-Following เรามองว่า เงินบาทจะยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่า จนกว่า เงินบาทจะพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นทะลุโซนแนวรับ 32.00-32.15 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ หากประเมินจากสถานะถือครองของผู้เล่นในตลาดล่าสุด เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดอาจไม่ได้มีมุมมองที่ชัดเจนต่อแนวโน้มเงินบาท หรือ อาจมีสถานะถือครองเป็น Slightly Long THB (มองเงินบาทแข็งค่าขึ้น) จากที่ช่วงก่อนหน้า ผู้เล่นในตลาดมีสถานะ Long THB สูงพอสมควร ทำให้เงินบาทยังคงเผชิญความเสี่ยง Two-Way risk หรือพร้อมเคลื่อนไหวได้ทั้งสองทิศทาง

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์อาจเคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน จนกว่าตลาดจะรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ อย่าง ข้อมูลตลาดแรงงาน ทว่า พัฒนาการของสถานการณ์การเมืองญี่ปุ่นล่าสุด อาจกดดันให้เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) อ่อนค่าลงในระยะสั้น หนุนเงินดอลลาร์ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น