xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 32.47-แนวโน้มทยอยอ่อนค่า-จับตาแนวต้าน 32.50

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้(3ต.ต.68)ที่ระดับ 32.47 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.36 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมา ทยอยอ่อนค่าลง ทดสอบโซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 32.30-32.53 บาทต่อดอลลาร์) หลังทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีจังหวะปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ มีส่วนกดดันให้ ราคาทองคำ (XAUUSD) ย่อตัวลงพอสมควร

นอกจากนี้ เงินบาทยังถูกกดดันเพิ่มเติม จากโฟลว์ธุรกรรม Buy on Dip น้ำมันดิบจากฝั่งผู้เล่นในตลาดน้ำมัน หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากความกังวลแนวโน้มกลุ่ม OPEC+ เดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิต ทว่า การอ่อนค่าของเงินบาทก็ถูกชะลอลงแถวโซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ จากแรงขายเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาด อย่างฝั่งผู้ส่งออกและการปรับสถานะถือครองของผู้เล่นในตลาดบางส่วน

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ เนื่องจาก รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ อาทิ ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) อาจถูกเลื่อนประกาศจากผลกระทบของภาวะ Government Shutdown ทำให้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (ISM Services PMI) เดือนกันยายน โดยเฉพาะในส่วนของดัชนีการจ้างงาน (Employment Index) เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐฯ พร้อมกันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดอย่างใกล้ชิด

ทางฝั่งยุโรปนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของ ECB ซึ่งผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ต่างมองว่า ECB ได้จบรอบการลดดอกเบี้ยแล้ว

และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม พัฒนาการของสถานการณ์การเมืองสหรัฐฯ หลังเข้าสู่ภาวะ Government Shutdown เนื่องจากหากภาวะดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปเป็นระยะเวลานานก็อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงินได้พอสมควร

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราคงมุมมองเดิมว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทยังมีกำลังอยู่ และเงินบาทได้กลับสู่แนวโน้มอ่อนค่าลง (อย่างน้อยในระยะสั้น) และอาจต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า เงินบาทจะสามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจนหรือไม่ เพราะการอ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าว อาจยิ่งกดดันเงินบาทเพิ่มเติม ผ่านการปรับสถานะถือครองของผู้เล่นในตลาดที่มีสถานะ Long THB (มองเงินบาทแข็งค่าขึ้น) อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านดังกล่าวอาจไม่ได้ง่ายนัก หากไม่ได้มีปัจจัยกดดันที่ชัดเจน เช่น เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง พร้อมกับการปรับตัวลงชัดเจนของราคาทองคำ ซึ่งต้องอาศัยรายงานข้อมูลการจ้างงาน ที่น่าจะถูกเลื่อนประกาศจากผลกระทบของภาวะ Government Shutdown อีกทั้ง ผู้เล่นในตลาดอย่าง ฝั่งผู้ส่งออก ต่างก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์ หากเงินบาทอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านดังกล่าว อนึ่ง หากเงินบาทอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้สำเร็จ ก็มีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงต่อเนื่องทดสอบโซน 32.65 บาทต่อดอลลาร์ ได้

ส่วนในช่วงระหว่างวัน เราประเมินว่า ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติในช่วงนี้ ไม่มีความชัดเจนในแง่ของทิศทาง เนื่องจากผู้เล่นในตลาดอาจรอลุ้นผลการประชุมธนาคารแห่งประเทศไทยในสัปดาห์หน้า พร้อมทั้งรอติดตามภาวะ Government Shutdown ของฝั่งสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ หรือกล่าวได้ว่า ผู้เล่นในตลาดอาจเลือกที่จะอยู่ในโหมด Wait and See ท่ามกลางภาวะ Data Blindness จนกว่าจะรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น