สภาคองเกรสล้มเหลวในการผ่านร่างงบประมาณ กระทบหน่วยงานรัฐ 800,000 คนหยุดรับเงินเดือน ขณะที่นักลงทุนจับตาความผันผวนของบิทคอยน์และอีเธอเรียม
สหรัฐอเมริกาก้าวเข้าสู่ภาวะ Government Shutdown อย่างเป็นทางการตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 1 ตุลาคม หลังสภาคองเกรสล้มเหลวในการผ่านมาตรการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวเพื่อขยายการใช้จ่ายเข้าสู่ปีงบประมาณ 2026 นับเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีที่รัฐบาลกลางต้องหยุดทำงาน ส่งผลให้ข้าราชการกว่า 800,000 ราย หรือเกือบ 40% ของแรงงานภาครัฐต้องถูกตัดการจ่ายเงินเดือนทันที
วิกฤตการเมืองที่บั่นทอนความเชื่อมั่น
แม้การปิดทำการของรัฐบาลไม่กระทบโดยตรงต่อคริปโต แต่ความล่าช้าในการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ การตรวจสอบด้านกฎระเบียบ และบรรยากาศความไม่แน่นอนกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่เพิ่มแรงกดดันต่อตลาดทุน นักลงทุนต่างจับตามองทิศทางของ บิทคอยน์และอีเธอเรียมที่อาจตอบสนองต่อความผันผวนได้แรงกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น
ครั้งนี้ต่างจากปี 2561 เพราะเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากกระแสการตัดงบประมาณอย่างหนัก รวมถึงการพูดถึงความเป็นไปได้ของการปลดพนักงานถาวร ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น สภาสูงยังคงต้องทบทวนแผนงบประมาณที่รีพับลิกันผลักดัน แต่โอกาสจะผ่านไปได้โดยไร้การประนีประนอมจากทั้งสองฝ่ายถือว่าน้อยมาก ขณะที่บริการจำเป็นยังคงดำเนินงานอย่างจำกัด ภายใต้บุคลากรบางส่วนเท่านั้น
ทำไมคริปโตต้องสนใจการเมืองวอชิงตัน
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า แม้คริปโตไม่เชื่อมโยงกับงบประมาณรัฐบาล แต่คลื่นสะเทือนทางอ้อม กำลังคืบคลานเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนเปิดเผยข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจ ความล่าช้าในการพิจารณากฎเกณฑ์ด้านคริปโต หรือความไม่แน่นอนที่บั่นทอนความเชื่อมั่นนักลงทุน โดยเฉพาะบิทคอยน์และอีเธอเรียมที่มีความอ่อนไหวต่อแรงซื้อขาย ขณะที่โทเคนขนาดเล็กเสี่ยงเผชิญแรงเทขายหนักหากความผันผวนพุ่งสูง
“แม้การปิดทำการไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในอดีตผลกระทบต่อการเงินการลงทุนมักมีจำกัด” พร้อมเสริมว่า “แม้เสียงการเมืองจะดังขึ้น แต่สุดท้ายก็มักหาทางออกได้” จอห์นนี การ์เซีย กรรมการผู้จัดการ VeChain กล่าว
สปอต ETF เสี่ยงสะดุด - ไทม์ไลน์สั่นคลอน
หนึ่งในจุดร้อนคือ ไทม์ไลน์การอนุมัติสปอตคริปโต ETF ที่เดิมทีนักลงทุนคาดหวังว่าจะได้ไฟเขียวเร็ว ๆ นี้ หลัง ก.ล.ต. สหรัฐ (SEC) ปรับกฎเมื่อ 17 กันยายน เปิดทางให้ขั้นตอนอนุมัติเร็วขึ้น โดยมีผู้ยื่นหลักอย่าง VanEck, 21Shares และ Grayscale โดยเฉพาะ Solana ETF ที่ถูกจับตามองอย่างมาก
นักวิเคราะห์ของ Bloomberg ประเมินว่าโอกาสอนุมัติในปีนี้อยู่ที่ 100% แต่ เนต เกอราคิ จาก The ETF Store เตือนว่าการปิดทำการของรัฐบาลอาจทำให้ตารางการอนุมัติล่าช้าออกไป
หยุดพัก หันมองหลังเป็นบทเรียน เพื่อเดินต่อไปข้างหน้า
สถิติในอดีตชี้ว่า การปิดทำการรัฐบาลโดยเฉลี่ยกินเวลาเพียง 8 วัน และตลาดมักฟื้นตัวทันทีเมื่อกลไกรัฐกลับมาทำงาน แต่หากครั้งนี้ลากยาวหลายสัปดาห์ ผลกระทบจะลึกกว่า โดยเฉพาะการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของเฟดและการอนุมัติผลิตภัณฑ์ลงทุนใหม่ ๆ
ปัจจุบัน แม้สปอต Bitcoin และ Ethereum ETF ที่ผ่านการอนุมัติแล้วในปี 2567 - 2568 ยังสามารถซื้อขายได้ตามปกติ แต่ฝ่ายกำกับดูแลการซื้อขายของ SEC เหลือบุคลากรไม่ถึง 10% ทำให้การยื่น S-1 ใหม่และการอนุมัติผลิตภัณฑ์ทั้งหมดต้องหยุดชะงักไปโดยปริยาย
นักลงทุนควรระวังหรือคาดหวังอะไรต่อไป
การปิดทำการครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงการยกเลิกคริปโต ETF แต่คือการเลื่อนออกไป หากข้อตกลงทางการเมืองเกิดขึ้นเร็ว การอนุมัติอาจยังทันภายในไตรมาสนี้ แต่ถ้าการเจรจายืดเยื้อ ความเชื่อมั่นที่สะสมมาตลอดกันยายนอาจสลายไป และบรรยากาศตลาดคริปโตอาจอ่อนแรงต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี