xs
xsm
sm
md
lg

InnovestX ชี้ลงทุน Q4/68 สดใสรับเฟดหั่นดอกเบี้ย-การเมืองเคลียร์ ให้เป้า SET 1,350-1,400 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายสุทธิชัย คุ้มวรชัย Head of Research Department บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ เปิดเผยมุมมองเศรษฐกิจประจำไตรมาส 4/68 ว่า บรรยากาศการลงทุนไตรมาส 4/68 ชัดเจนขึ้น ความไม่แน่นอนเศรษฐกิจคลี่คลาย โดยมีแรงหนุนจากการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เร็วและแรงกว่าคาด แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวแต่ไม่ถดถอย ช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้หุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่รวมถึงไทย ด้านปัจจัยในประเทศ ความชัดเจนทางการเมืองหนุนให้นักลงทุนกลับมาให้น้ำหนักต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่

ทั้งหมดนี้มีส่วนผลักดันให้ SET Index รักษาแรงส่งเชิงบวกต่อเนื่อง โดยยังคงแนะนำการกระจายพอร์ตลงทุนในหลายสินทรัพย์ ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำ เพื่อสร้างผลตอบแทนควบคู่การบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น

นายปิยศักดิ์ มานะสันต์ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกไตรมาส 4/68 และปี 69 มีสัญญาณบวกมากขึ้น หลังสหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษี "Reciprocal Tariff" ต่ำกว่าที่ประกาศเดิม โดยประเทศพัฒนาแล้วถูกเก็บราว 15% และประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย 1920% หนุนให้ GDP โลกปี 68-69 อาจขยายตัว 2.9% และ 3.0% ขณะที่เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ท่ามกลางตลาดแรงงานชะลอ แต่ยังเสี่ยงเงินเฟ้อจากภาษีศุลกากร ส่วนเศรษฐกิจจีนยังชะลอจากปัญหาโครงสร้าง คาดขยายตัวเพียง 4.4% และ 4.0% ในปี 68-69 แม้รัฐบาลเดินหน้ามาตรการกระตุ้นและนโยบาย Anti-Involution เพื่อพยุงการเติบโต

สำหรับเศรษฐกิจไทยคาดชะลอใน 4 ไตรมาสข้างหน้า ทำให้ทั้งปี 68-69 โตเพียง 1.8% และ 1.4% แต่ยังพอได้แรงหนุนบางส่วนจากมาตรการเศรษฐกิจ โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการแต่งตั้งทีมเศรษฐกิจใหม่ของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล

ด้าน นายสิทธิชัย ดวงรัตนฉายา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยไตรมาส 4/68 ความเสี่ยงขาลงจำกัด แม้ Upside ไม่กว้างนัก นักลงทุนควรเน้นลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศ ภายใต้ธีม Domestic Play ที่หนุนด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การฟื้นตัวท่องเที่ยว แนวโน้มดอกเบี้ยของ ธปท. และเงินบาทแข็งค่าที่ช่วยดึงเงินทุนต่างชาติ

InnovestX ปรับเป้าหมาย SET ปี 68 ที่ 1,350-1,400 จุด โดยมองว่าบริเวณต่ำกว่า 1,200 จุดน่าสนใจในการเข้าซื้อ กลยุทธ์หลักคือคัดเลือกหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง งบดุลมั่นคง ได้อานิสงส์จากอุปสงค์ในประเทศ ดอกเบี้ยขาลง และนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ พร้อม Valuation สมเหตุสมผล หุ้นเด่น ได้แก่ AP, CENTEL, DIF, HMPRO และ MTC ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการป้องกันความเสี่ยงและการเติบโตระยะยาว

ขณะเดียวกัน แนวโน้มเศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพมากขึ้น หนุนการลงทุนเชิงบวก โดยมีปัจจัยจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง จีนเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ และแนวโน้ม Fed กับ ธปท. ลดดอกเบี้ย กลยุทธ์คือเน้นหุ้นวัฏจักรและอุตสาหกรรมที่เติบโตตามเศรษฐกิจ รวมถึงหุ้นเทคโนโลยีที่ได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลง ส่วนตลาดเกิดใหม่ยังได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นและดอลลาร์อ่อนค่า แม้ Upside หุ้นโลกจำกัด แต่ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อ โดยหุ้นเด่น ได้แก่ TSLA, MSFT, NVDA, AAPL, RTX, JPM (สหรัฐฯ), ASML, LVMH, BAE System, ABB, BNP Paribas, LOreal (ยุโรป) และ Tencent, Alibaba, SMIC, Trip.com, HKEX, Lenovo, Xpeng/Zeekr (จีน)

ขณะที่ นายรัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ Head of Investment Strategy Department และ Trading Product Specialist Department บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 4/68 ควรจัดพอร์ตอย่างรอบคอบและกระจายความเสี่ยง หลังตลาดหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เมษายน โดยยังเน้นหุ้นสหรัฐฯ คุณภาพสูง หรือกลุ่มอิงดัชนี S&P500 แบบ Equal Weight ในธีม Catch up play ขณะเดียวกัน หุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากมาตรการการคลังและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงหุ้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงและดอลลาร์อ่อนค่า เช่น Emerging markets โดยเฉพาะหุ้นจีนที่เราแนะนำต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี และตลาดหุ้นไทยที่มีปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่

ด้านตราสารหนี้ แนะนำลงทุนระยะสั้นกลาง เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของพันธบัตรระยะยาว ส่วนสินทรัพย์ทางเลือก ทองคำยังเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ REITs ได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและเศรษฐกิจโลกฟื้น โดย REITs ไทยน่าสนใจกว่า REITs โลกจาก Dividend yield ที่สูงกว่า นอกจากนี้ สินทรัพย์ดิจิทัลยังได้แรงหนุนจากกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนขึ้นในหลายประเทศ สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ดังนั้น ควรจัดพอร์ตแบบผสมผสานเพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนควบคู่กับการลดความเสี่ยงระยะยาว

กองทุนเด่นประจำไตรมาสเพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสรับผลตอบแทน ได้แก่ หุ้นจีน KFCSI300-A, หุ้นยุโรป ES-EG-A, ทองคำ UOBSG-H และ REITs ไทย MPDIVMF สำหรับผู้สนใจหุ้นจีน สามารถลงทุนผ่าน DR23 ที่คัดเลือกหุ้นชั้นนำในธีมการเติบโตระยะยาว อาทิ CATL23, HSHD23, SMIC23, BABA23, KUAISH23 อีกทั้งยังสามารถใช้ US Options เพื่อเพิ่มผลตอบแทนและป้องกันความเสี่ยงในหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงใช้ USD Futures ผ่านตลาด TFEX เพื่อบริหารความเสี่ยงค่าเงินได้เช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น