การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ควรเป็นปัจจัยกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนให้กลับมาคึกคัก แต่ปรากฏว่า ตลาดหุ้นกลับสู่ความซบเซาลง ดัชนี ฯ ทรุดตัวลงต่อเนื่อง และถอยลงมาต่ำกว่า 1300 จุดอีกครั้ง ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นทิ้ง
นักลงทุนในประเทศ กำลังมีความคาดหวังกับรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล มีความมั่นใจว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปลุกกำลังซื้อประชาชน และมาตรการเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนจะพรั่งพรูออกมา
การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยรัฐบาลนายอนุทิน ก้าวขึ้นมาแทนรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นักลงทุนเชื่อว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำจะได้รับการแก้ไขให้ดี จึงทยอยกลับเข้ามาซื้อหุ้น จนผลักดันดัชนี ฯ ขึ้นมาทะลุ 1300 จุด
แต่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์สำนักต่าง ๆ ไม่ได้ปรับประมาณการเป้าหมายดัชนี ฯปลายปีนี้ขึ้นมาแต่อย่างใด โดยส่ประเมินไว้พียง 1350 จุดเท่านั้น
เพราะเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลังจะเผชิญแรงกดดันรอบด้าน โดยเฉพาะภาษีตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐ 19% ซึ่งกระทบการส่งออกอย่างหนัก การบริโภคภายในประเทศยัง ๆ ไม่ฟื้น แม้รัฐบาลนายอนุทินจะเตรียมแผนอัดฉีดขนานใหญ่ก็ตาม
ภาคการท่องเที่ยวซบเซา และที่สำคัญนักลงทุนต่างชาติยังไม่มีสัญญาณกลับเข้ามาซื้อหุ้น
ปฏิกิริยาในด้านบวกของตลาดหุ้น ตอบรับการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เกิดขึ้นในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น เพราะหลังจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการ หุ้นปักหัวลง และลงติดต่อกันหลายวัน จนล่าสุดเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ดัชนี ฯ ทรุดลงมาปิดที่ 1273.30 จุด
สาเหตุที่หุ้นลง เพราะขาดแคลนข่าวดีที่สนับสนุน ขณะที่นักลงทุนเริ่มกังวลในผลกระทบภาวะเศรษฐกิจซบเซา และถูกซ้ำเติมด้วยแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยขายหุ้นทิ้งวันละ 1-3 พันล้านบาท ท่ามกลางแรงซื้อที่อ่อนแอของนักลงทุนในประเทศ
ดัชนี ฯ ร่วงลงวันละประมาณ 10 จุดหลายวันติดต่อ จนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์บางคนกังวลว่า รอบนี้หุ้นอาจลงไปแตะที่ระดับ 1250 จุด
ต่างชาติกลับมาปักหลักขายหุ้น โดยไม่สนใจว่า รัฐบาลนายอนุทินจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระตุ้นการลงทุนอย่างไร เพราะยังมีมุมมองตลาดหุ้นไทยในแง่ลบ จึงลดน้ำหนักการลงทุนต่อไป
ปี 2566 ต่างชาติขายหุ้นออก 1.92 แสนล้านบาท ปี 2567 เทขายอีก 1.49 แสนล้านบาท ส่วนปี 2568 ยอดขายหุ้นสะสมจากต้นปีจนสิ้นสุดวันที่ 23 กันยายน มีจำนวนรวม 9.33 หมื่นล้านบาท โดยในเดือนกันยายนยอดขายสะสมอยู่ที่ 9,083 ล้านบาท และเพิ่งเทขายหนัก ๆ นับตั้งแต่ประกาศรายชื่อ ครม.ชุดใหม่
นักลงทุนในประเทศ อาจมีความคาดหวังกับรัฐบาลชุดใหม่ แต่สำหรับนักลงทุนต่างชาติคงไม่ใช่ เพราะถ้ามีความคาดหวังเหมือนนักลงทุนในประเทศ คงไม่ถล่มขายหุ้นทิ้ง จนไม่อาจคาดหมายว่า จะหยุดเทขายหุ้นเมื่อไหร่ และปีนี้จะมีโอกาสกลับมาไล่ซื้อหุ้นคืนหรือไม่
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่ไม่ได้มองบรรยากาศการลงทุนช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ดีนัก และยังตรึงเป้าหมายดัชนี ฯ อยู่ที่ 1350 จุด หรือขยับขึ้นไปได้อีกเพียงประมาณ 70 จุด ในช่วง 3 เดือนเศษต่อจากนี้ เพดานขาขึ้นจึงน้อยมาก ช่องว่างการทำกำไรจากตลาดหุ้นปีนี้แคบลง และเต็มไปด้วยความเสี่ยง
นักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนอีกครั้ง ฉุดให้มูลค่าซื้อขายหุ้นลดฮวบลงเหลือระดับ 3-4 หมื่นล้านบาทต่อวัน
ถ้าไม่อาจเปลี่ยนมุมมองของนักลงทุนต่างชาติ ไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติกลับมาได้
ตลาดหุ้นในยุครัฐบาลนายอนุทินมีแนวโน้มเงียบเหงาซบเซา ไร้เสน่ห์ และการรอคอยการฟื้นตัวของหุ้น จะเป็นไปในสภาพสิ้นหวัง