xs
xsm
sm
md
lg

เทรนคริปโตพุ่งแรง! นักลงทุนทั่วโลกเกือบครึ่งหันใช้เป็นเกราะกันเงินเฟ้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายงานล่าสุดเผยนักลงทุนจากเอเชียตะวันออกถึงลาตินอเมริกา แห่ถือครองคริปโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เหตุความกังวลเงินเฟ้อ ค่าเงินอ่อน และความต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income ดันคริปโตพุ่งสู่บทบาท “ที่หลบภัยใหม่” ของโลกการลงทุน

รายงานไตรมาส 1-2 ปี 2568 ของ MEXC ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีชี้ชัดว่า นักลงทุนคริปโตทั่วโลกเกือบครึ่ง หรือราว 46% มองว่า “สินทรัพย์ดิจิทัล” คือเกราะป้องกันเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นจาก 29% ในช่วงต้นปี สะท้อนความวิตกต่อแรงกดดันด้านราคาและการอ่อนค่าของสกุลเงินที่ยืดเยื้อทั่วโลก

เอเชียตะวันออกพุ่งแรงที่สุด โดยสัดส่วนผู้ใช้งานคริปโตที่เชื่อว่าคริปโตคือเครื่องมือกันเงินเฟ้อ กระโดดจาก 23% ในไตรมาสแรก สู่ 52% ในไตรมาสสอง ขณะที่ตะวันออกกลางก็เพิ่มขึ้นจาก 27% เป็น 45% แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างความตึงเครียดเศรษฐกิจกับการยอมรับคริปโตในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ลาตินอเมริกากลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมคริปโต โดยความนิยมถือครอง “มีมคอยน์” อย่าง Dogecoin และ Shiba Inu ขยับจาก 27% เป็น 34% อีกทั้ง 63% ของผู้ใช้หน้าใหม่ยอมรับว่าแรงจูงใจหลักคือการสร้างรายได้แบบ Passive Income

เอเชียใต้ขับเคลื่อนด้วยคนรุ่นใหม่

กิจกรรมเทรดสปอตเพิ่มจาก 45% เป็น 52% โดยกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามชี้ว่าความเป็นอิสระทางการเงินคือเป้าหมายสำคัญ ด้านการเทรดฟิวเจอร์สก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน พุ่งขึ้นถึง 46% เทียบกับค่าเฉลี่ยโลกที่ 29%

บิทคอยน์-อีเธอเรียมยังครองบัลลังก์

โดยกว่า 65% ของนักลงทุนทั่วโลกยังถือครองโทเคนหลัก ขณะที่เสถียรคอยน์ (Stablecoin) ยังคงสัดส่วนราว 50% สะท้อนนักลงทุนปรับสมดุลระหว่างความระมัดระวังกับการแสวงหาผลตอบแทน

ภาพรวมภูมิภาคแตกต่างชัดเจน

ขณะที่หากแยกตามภูมิภาค พบว่าเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เอนเอียงสู่การเก็งกำไรผ่านฟิวเจอร์ส ในขณะที่ลาตินอเมริกามุ่งไปทางแนวทางการลงทุนที่ปลอดภัยกว่า ขณะเดียวกัน การกระจายความมั่งคั่งก็เปลี่ยนไป กระเป๋าที่มีมูลค่าเกิน 20,000 ดอลลาร์ในเอเชียตะวันออกร่วงจาก 39% เหลือ 33% บ่งชี้แรงกดดันด้านกำกับดูแลและการขายทำกำไร แต่กระเป๋าระดับกลางกลับเติบโต สะท้อนการกระจายตัวของสินทรัพย์สู่ผู้ลงทุนรายย่อยมากขึ้น

ความกลัวเงินเฟ้อผลักนักลงทุนสู่คริปโต

นักวิเคราะห์เตือนว่า ความเชื่อมั่นต่อเงินตรากระดาษกำลังสั่นคลอน โดยเฉพาะในประเทศที่ค่าเงินอ่อนตัวหรือเงินเฟ้อเรื้อรัง คริปโตจึงกลายเป็น “ที่เก็บมูลค่า” แม้จะเต็มไปด้วยความผันผวนก็ตาม

MEXC คาดการณ์ว่า หากแรงกดดันมหภาคยังคงอยู่ เหตุผลหลักของผู้ใช้หน้าใหม่ในไตรมาส 3 จะเป็น “การปกป้องความมั่งคั่ง” ขณะเดียวกัน การเทรดฟิวเจอร์สและมาร์จิ้นมีแนวโน้มขยายตัวตามวัฏจักรตลาดกระทิง นักลงทุนกำลังมองหากลยุทธ์ที่ซับซ้อนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงมากขึ้น

นอกจากนี้ด้านความนิยมของรายย่อยยังคงเปลี่ยนแปลง “มีมคอยน์” และโทเคนเชื่อมโยง AI ถูกมองว่าจะเป็นตัวเร่งกระแสเงินไหลเข้าระยะสั้น อย่างไรก็ดี โทเคนสายบล็อกเชนสาธารณะยังคงเป็นรากฐานสำคัญของพอร์ตนักลงทุนทั่วโลก

เทรซี่ จิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ MEXC สรุปภาพรวมว่า “การยอมรับคริปโตทั่วโลกมีความหลากหลาย ทั้งด้านรูปแบบและความเร็ว บางภูมิภาคใช้เพื่อกันเงินเฟ้อ ขณะที่บางภูมิภาคขับเคลื่อนด้วยพลังของชุมชน”

รายงานดังกล่าวสะท้อนชัดว่า คริปโตไม่ได้ถูกมองเพียงสินทรัพย์เพื่อเก็งกำไรอีกต่อไป แต่กำลังพัฒนาเป็นเครื่องมือทางเลือกในการรักษาความมั่งคั่ง ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจที่หดและกดดันกำลังซื้อทั่วโลก