xs
xsm
sm
md
lg

“สิทธิพร สุวรรณสุต” คีย์แมนคนสำคัญ ‘กล้าคิด กล้าทำ’ สร้าง‘พีดี เฮ้าส์’ เติบใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สิทธิพร สุวรรณสุต
"พีดี เฮ้าส์" ผู้นำในธุรกิจรับสร้างบ้านคุณภาพ ที่ไม่ได้สร้างแค่บ้าน แต่ได้สร้างรากฐานแห่งอนาคตให้ครอบครัว กว่า 3 ทศวรรษบนเส้นทางธุรกิจรับสร้างบ้าน พีดี เฮ้าส์ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความไว้วางใจจากลูกค้าที่ปลูกสร้างบ้านกับบริษัททั่วประเทศรวมกว่า 10,000 ครอบครัว ผ่านสาขาทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล และสาขาในต่างจังหวัด

แต่สิ่งสำคัญที่สุดแล้ว บ้านทุกหลังมาพร้อมกับคุณภาพที่มากับโซลูชั่น เสริมให้กับ ‘บ้าน’ เพราะด้วยประสบการณ์ของทีมผู้บริหารและบุคลากรทั้งหมด ที่ทุ่มเท สร้างบ้านในฝันของลูกค้า ให้เป็น “บ้าน”ที่แต่ละช่วงวัย สามารถอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์ คงทน และสวยงาม

ทาง “ผู้จัดการรายวัน 360 องศา” ได้มีโอกาสัมภาษณ์พิเศษ “สิทธิพร สุวรรณสุต” ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด คีย์แมนสำคัญ บุกเบิกและก่อตั้ง ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปทุมดีไซน์และการก่อสร้าง’ขึ้นมา ปรับมาสู่ การจดทะเบียนเป็น บริษัท ปทุมดีไซน์ฯ (ในปี 2535) ที่เริ่มสร้างบ้านจริงจัง วางเป้าแบรนด์ “พีดี เฮ้าส์”รับการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขยายสาขาเพิ่มเติม ในปัจจุบัน เป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง มีสาขาพร้อมให้บริการทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย

จุดเริ่มต้นเล็กๆ กล้าคิด กล้าทำ ผลักดันธุรกิจรับสร้างบ้านเติบใหญ่

นายสิทธิพร กล่าวว่า ย้อนไปตั้งแต่จุดเดิมต้น ตอนที่เริ่มต้นไม่คิดว่า จะก้าวมาจุดนี้ แต่เมื่อเราดำเนินธุรกิจ ผมชอบทำอะไรใหม่ๆ ชอบเปลี่ยนแปลง ให้ดีขึ้นและดีกว่า อะไรที่ทันสมัยใหม่ขึ้น ผมจะกล้าทำ กล้าคิด บ่อยครั้งก็ไม่ได้ตามเป้าที่คิดไว้ แต่ผมใช้การเปลี่ยนแปลง เป็นบทเรียน บททดสอบ

และเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง โลกเปลี่ยน ถ้าเราหยุดนิ่ง อยู่แต่ที่เดิม การพัฒนาองค์กรของเราจะหยุดนิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะพ่ายแพ้คู่แข่งได้ จะเห็นได้ว่า ธุรกิจรับสร้างบ้าน แข่งขันกันมายาวนาน ดุเดือด หลายบริษัทที่ล้มหายไป หรือเลิกกิจการไป ก็เพราะขาดเรื่องการพัฒนา ปรับตัวไม่ทัน สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลง


“จากบริษัทเล็กๆ และเชื่อว่า ผู้ประกอบการหลายราย ไม่คิดว่า พีดี เฮ้าส์ ผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่จะมีสาขาครอบคลุมทั่วภูมิภาคอย่างรวดเร็วแค่ในเวลาไม่กี่สิบปี สิ่งที่ พีดี เฮ้าส์ ก้าวเข้ามา และผมน่าจะพอใจ คือ แนวคิด อุดมการณ์ในการทำธุรกิจ เราทำด้วยความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า เพื่อนร่วมวงการ สังคม ผมพยายามผลักดันให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อ เราอยากให้ผู้ประกอบการทุกรายพัฒนา แรกๆ เพื่อนในวงการ มองว่า แนวคิดที่ พีดี เฮ้าส์ ทำ ไม่น่าจะไปได้ แต่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไปได้ ธุรกิจจะโต เราต้องกล้าทำ และเรา เป็นผู้ริเริ่มรายแรกๆ เช่น การเข้าสู่ระบบภาษีที่ถูกต้อง การขยายตลาดออกสู่ภูมิภาค ทำให้เค้กรับสร้างบ้านใหญ่ขึ้น ส่วนใครจะเข้ามาแบ่งเค้ก ก็ยินดี อย่างน้อย เราก็ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในธุรกิจรับสร้างบ้าน สิ่งที่เราเห็น คือ บริษัทอสังหาฯรายใหญ่เข้ามาเล่นในตลาดรับสร้างบ้าน แสดงให้เห็นว่า ตลาดมีศักยภาพ มีโอกาสเติบโตได้ดี และการที่เราก้าวมาวันนี้ได้ อาจพูดไม่ได้เต็มปากว่า ประสบความสำเร็จสูงสุด แต่เรามีทางเดินที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เช่น มีการพัฒนาบริการ และมีแนวคิดที่แตกต่าง”


ส่งไม้ต่อ “ทายาทรุ่นที่ 2” ขับเคลื่อนธุรกิจตามเทรนด์โลก

เรื่องการเปลี่ยนผ่านทีมผู้บริหารสูงสุดจากรุ่นบุกเบิก ไปสู่ “ทายาทรุ่นที่ 2 น.ส.จิราภา สุวรรณสุต” นั้น ได้มีการปรึกษาหารือกับกันตั้งแต่ก่อนที่ลูกสาวจะเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย ถึงธุรกิจรับสร้างบ้านที่คุณพ่อสร้างมา ก็ไม่ได้คิดว่าจะจบที่รุ่นพ่อ แต่ธุรกิจจะก้าวต่อไปได้ เราไม่ได้บังคับ ไม่ได้ขอร้อง แต่ถ้าลูกสนใจ มีการตกลงกันว่า ถ้าสนใจก็เรียนสายวิชาชีพด้านสถาปัตยกรรม ที่เกี่ยวกับธุรกิจรับสร้างบ้าน

“เมื่อทายาทได้ฟัง ได้คิด ก็ตอบตกลง ก็มาเรียนสถาปัตยกรรม เมื่อจบแล้ว มาทำงาน ที่บริษัทฯ เรียนรู้ สัมผัสงานตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าใจในกระบวนการทำงานต่างๆ วิธีการเป็นอย่างไร ความรู้สึกของการพนักงาน เป็นอย่างไร อายุงานที่สั่งสมประสบการณ์มา จนได้รับการยอมรับแล้ว ก็จะเดินหน้าต่อไป ”

ย้อนไปช่วงที่ผมและคู่ชีวิต(คุณมาลี สุวรรณสุต) มุ่งมั่นในการทำงาน ลงลึกในการทำธุรกิจ ตอนลูกเล็กๆ ช่วงวันหยุด ผมก็ไปดูงานตามพื้นที่ก่อสร้างบ้านของลูกค้า โดยลูกได้ติดตามไปด้วย ทำให้เห็นการทำงานที่จริงจังมาก เด็กในวัยนั้น ก็สอบถามด้วยความสงสัย ก็ทำให้รู้สึกและเข้าใจในตัวธุรกิจรับสร้างบ้าน ค่อยๆซึมซับเข้าไป ซึ่งพ่อแม่เริ่มต้นมาจากศูนย์ ต่อสู้กันมาจนมีทุกวันนี้

“บอกลูกไปว่า แม้แต่เพื่อนๆในวงการรับสร้างบ้าน ไม่ได้ส่งไม้ต่อให้ทายาท เพราะเหนื่อยมาก แต่ลูกผม เห็นพ่อแม่ทำตั้งแต่ตัวเองยังเด็กๆ รู้ว่า สิ่งที่เราทำ ก็ส่งผลให้ลูกๆ มีชีวิตที่ดี ได้เรียนที่ดีๆ ไม่ลำบากเหมือนเพื่อนๆหลายคน ทำให้ลูกมีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจอย่างแรง ที่จะมาสานต่อ ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อว่า ลูกจะทำจริง ทำได้ แต่เมื่อผ่านมา เราเห็นว่า ทำได้ และความรู้ที่ได้จากการทำงานในธุรกิจของพ่อแม่ สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ได้มากกว่าในห้องเรียนแห่งใหม่”

สิ่งที่ผม วางไว้ให้กับผู้บริหารคนรุ่นใหม่นั้น ก็ให้สานต่อแนวคิด “เราจะทำธุรกิจ ควบคู่ไปกับ แนวคิดของโลก”หรือ เป็นไปตามแนวทางของโลกที่เปลี่ยนไปในแต่ละยุค แต่ละสมัย เราต้องก้าวทันอนาคต สิ่งที่รุ่นบุกเบิกได้วางรากฐานไว้ คือ การสร้างหมวกใบใหญ่ ให้กับการดำเนินธุรกิจ ภายใต้ปรัชญาที่ว่า “สร้างบ้าน เพื่ออนาคต” ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพที่ยั่งยืน โดยความสำเร็จจากการบุกเบิกจนประสบความสำเร็จ คือ การสร้างบ้านประหยัดพลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จนลูกได้เข้ามา มีการหารือกัน และตกผลึกที่ตรงกันว่า “เราต้องไปต่อ” เป็นเทรนด์ของโลกอนาคต ดังนั้น ธุรกิจเราต้องพัฒนา และสร้างความแตกต่าง ให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืน นี้คือแนวคิดที่จะส่งผ่านไปยังผู้บริหารคนรุ่นใหม่ ซึ่งตนเองมีความเชื่อมั่นว่า คลื่นลูกใหม่จะเก่งกว่า ก็เปรียบได้กับ เทคโนโลยี ที่คนรุ่นบุกเบิก อาจจะตามไม่ทัน

“ผมว่า ลูกน่าจะเรียนรู้ได้ไว จากประสบการณ์ที่เข้ามาทำงาน เรียนรู้กับองค์กร เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาในระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา กับแนวทางที่เราได้ปลูกฝังให้กับการดำเนินธุรกิจ คือ ขอให้ทำธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา รับผิดชอบต่อสังคม ต่อธุรกิจ ต่อวงการก่อสร้างบ้าน และต่อลูกค้าของเรา วันนี้ ถึงเวลา ในการส่งไม้ต่อให้กับทายาทของผม และทายาทของผู้บริหารท่านอื่นด้วย ที่ทำงานร่วมกัน ที่เรียนมาในสายวิชาชีพเหมือนกัน ถือเป็นความสบายใจ ที่ธุรกิจรับสร้างบ้านไม่ได้หยุดที่รุ่นคุณพ่อ ต้องบอกเลยว่า เป็นธุรกิจที่เหนื่อย ยากลำบาก แต่ถ้าเรามีใจรัก ไม่ว่าจะทำอะไร ถ้าทำด้วยความทุ่มเทแล้ว เราไปถึงเป้าหมายหลักได้”


ฉายภาพตลาดรับสร้างบ้าน ยุคเดิม และ ยุคใหม่

นายสิทธิพร กล่าวว่า ในแง่ผู้บริโภค การตลาดสมัยก่อน จะกังวลเรื่องความไว้วางใจ และ คุณภาพของสินค้าและบริการที่จะได้รับ ซึ่งเป็นภาพที่เราจะเห็นผู้ประกอบการแข่งขันในเรื่องนี้ แต่ปัจจุบัน ผู้ประกอบการในตลาดมีจำนวนมาก มีตั้งแต่แบรนด์ดัง ที่มีชื่อเสียง ขนาดใหญ่ ไปจนถึง บริษัทรายย่อย แต่สิ่งที่เราจะเห็น คือ เรื่อง นวัตกรรม การอยู่อาศัยที่จะสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิก ให้ความปลอดภัยในการใช้ชีวิตได้มากแค่ไหน สนใจสิ่งแวดล้อม คนรุ่นใหม่ จะให้ความสำคัญเหล่านี้เพิ่มเติมต่างจากสมัยก่อน

คู่ค้า บุคลากร ลูกค้า ล้วนมีส่วนสำคัญ

นายสิทธิพร ยังกล่าวถึงความสำเร็จของธุรกิจรับสร้างบ้าน ว่า การที่เราซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบกับคู่ค้า สิ่งเหล่านี้ ในช่วงที่เราประสบปัญหา มีวิกฤต ก็ยังได้รับการสนับสนุน และเติบโตไปพร้อมกัน ขณะที่ ลูกค้าเลือกพีดี เฮ้าส์ ไม่ใช่แค่ คุณภาพและบริการ แต่ผมดีใจมาก ที่ลูกค้าเลือกเรา เพราะแนวคิด และวิธีการทำธุรกิจของเรา ที่มีความแตกต่าง มีทัศนะที่ดี

ในเรื่องของบุคลากร มีการเปิดกว้าง ให้โอกาสทีมงาน อยากเห็นการเติบโตของพนักงาน การที่เราขยายสาขาไปตามภูมิภาคต่างๆ ก็เป็นอีกส่วน ที่จะเพิ่มโอกาส และยังเป็นการสร้างความเจริญให้กับจังหวัด ซึ่งอาจจะอยู่ในจังหวัดใกล้บ้านเกิดของพนักงาน ทำให้ครอบครัวมีความอบอุ่นได้.


กำลังโหลดความคิดเห็น