xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจ “จิราภา สุวรรณสุต” CEO คนใหม่ รับไม้ต่อ ขับเคลื่อนองค์กร สู้แข่งเดือด‘รับสร้างบ้าน’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


จิราภา สุวรรณสุต
นางสาวจิราภา สุวรรณสุต ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) กลุ่มบริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด และ กลุ่มบริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ผู้บริหารคนรุ่นใหม่ ที่ก้าวขึ้นมานั่งบริหารธุรกิจรับสร้างบ้าน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ต่างไปกับอดีต การแข่งขันในตลาดรับสร้างบ้าน ที่รุนแรง ดุเดือด มีผู้เล่นรายใหญ่ในวงการอสังหาฯ เช่น พฤกษา แสนสิริ เข้ามารุกและวางเป้าแชร์ตลาดรับสร้างบ้าน รวมถึงปัจจัยลบในหลายด้าน ที่ยังคงอยู่ เป็น “โจทย์” ที่ผู้บริหารคนรุ่นใหม่ ต้องฝ่าฟัน และ อาศัยประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมา บริหารและแก้ไขปัญหาเหล่านั้น ให้ลุล่วง

จริงๆแล้ว "น้องอิง - จิราภา สุวรรณสุต" เข้ามาสู่เส้นทางการทำงานในสายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรับสร้างบ้าน ในเครือพีดีเฮ้าส์ คือ “เฌอ-วาด อาคิเทค” บริษัทออกแบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด Sprout to Grow เฌอ-วาด กล้าเติบโต “เมล็ดพันธุ์ทางความคิด” ที่ถูกโปรยลงดินด้วยความตั้งใจ เติบโต เป็นต้นกล้าอย่างมั่นคง ลูกค้าให้กับยอมรับในเรื่องของแนวคิดการออกแบบ ดีไซต์ที่มีความทันสมัย สร้างผลประกอบการให้กับ เฌอ-วาด อาคิเทค ได้อย่างรวดเร็ว!

วันนี้ “ผู้จัดการรายวัน 360” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ จิราภา สุวรรณสุต กับ การสวม ”หมวกใบใหม่” ผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้าน ถึงแนวนโยบายในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า !


หัวใจสำคัญ ต้องมีความรับผิดชอบ
บ้านรักษโลก เทรนด์ของโลก


นางสาวจิราภา กล่าวว่า สิ่งสำคัญ คือ เรื่องความรับผิดชอบ สิ่งที่คุณพ่อ และ ผู้บริหารท่านอื่นๆ แสดงออกให้เห็น ในเรื่องความรับผิดชอบที่มีให้กับ คู่ค้า ลูกค้า และทีมงานทั้งหมด เป็นแนวที่เราจะยึดไว้ ส่วนในเรื่องแนวคิดการทำธุรกิจ มีหลักมาจากสโลแกน “เราสร้างบ้าน เพื่ออนาคต” เป็นบ้านประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเดิม เราอาจจะไม่เข้าใจ จะเป็นแกนของธุรกิจได้อย่างไร แต่จากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การรณรงค์เรื่องรักษ์โลกแล้ว ไม่ใช่เป็นเทรนด์ แต่เป็นแนวทางที่ทุกๆธุรกิจจะต้อง คำนึง และนำมาเป็นหนึ่งในแกนขับเคลื่อนธุรกิจ ที่สร้างบ้านเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โดยเราจะทำอย่างไร ที่จะให้คนรุ่นกลาง และคนรุ่นใหม่ รู้จัก แบรนด์ พีดี เฮ้าส์ ให้มากที่สุด เป็นการต่อยอดฐานลูกค้าจากที่ในอดีต ที่ผู้บริหารบุกเบิกมา ได้สร้างฐานลูกค้ากลุ่มนี้ มาสร้างบ้านกับบริษัทเรา แต่ด้วยตลาดตอนนี้ มีคู่แข่งในตลาดค่อนข้างเยอะ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด ไม่ง่าย และ ค่อนข้างเหนื่อยมาก สิ่งสำคัญ เราต้องนำแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างบ้าน สะท้อนออกไปสู่กลุ่มลูกค้าต่างๆ ให้เข้าใจ และ รับรู้ถึงความตั้งใจของบริษัท ในการส่งมอบบ้านที่มีมาตรฐานให้กับลูกค้า ที่ต้องการมีบ้านในฝันสักหลัง สิ่งเหล่านี้ คือ โจทย์หลัก ที่เรา (ผู้บริหารคนรุ่นใหม่) พยายามทำ สื่อออกไปให้ดัง ทำให้เร็ว เราหวัง ทั้งคนรุ่นปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ ที่กำลังมองหาบ้าน เข้าใจถึงมาตรฐาน และเลือก พีดี เฮ้าส์ ทั้งหมด เราต้องทำ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ


มองบ้านจากนี้จะมีโฉมหน้าอย่างไรบ้าง

ถ้าถามถึงเรื่อง ดีไซน์ และ ผลิตภัณฑ์นั้น ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจในหลาย Generation ได้แก่ อย่างประเทศไทย ในยุคนี้ ที่เข้าสู่วัยเกษียณ จะมีความต้องการที่เฉพาะ แตกต่างกัน ลูกค้าที่อายุประมาณ 50-60 ปี ที่ใกล้วัยเกษียณ จะสนใจและต้องการในเรื่องความสะดวกสบาย ต้องการซับพอร์ตเรื่องเทคโนโลยี เนื่องจากคนอายุกลุ่มนี้ ยังมีความเข้าใจในเทคโนโลยีอยู่ และเรื่องความปลอดภัย

โดยล่าสุด เตรียมเปิดตัวแบบบ้านซีรีส์ใหม่ Well-Being House II แบบบ้านชั้นเดียวที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ภายใต้แนวคิด “บ้านที่เข้าใจชีวิตของผู้สูงวัย” โดยให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบ ทั้งในด้านฟังก์ชัน ดีไซน์ ความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต โดยมีให้เลือกปลูกสร้าง 6 แบบ ได้แก่W-534,W-535,W-536, W-537, W-538 และ W-539 ขนาด 2-3 ห้องนอน 1-2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 100-151 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 3.2-4.5 ล้านบาท เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตในวัยเกษียณ หรือครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ร่วมกัน บ้านที่ดีควรต้องส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งผู้สูงอายุส่วนใหญ่หันมาตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างสุขภาพที่ดีมากขึ้น ไม่เพียงแต่มีผลต่อแนวคิดการดำเนินชีวิตเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านความต้องการที่อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน เพราะ“บ้านผู้สูงอายุหรือบ้านวัยเกษียณ” ไม่ใช่แค่บ้านที่เหมาะสำหรับคนที่มีอายุมากเท่านั้น แต่ต้องเป็นบ้านที่ “เข้าใจ” คนทุกวัยได้อย่างแท้จริง

กลุ่มลูกค้าที่น้อยลงมาประมาณ 30-40 ปี จะแบ่งเป็น วัยสร้างครอบครัว หรือ ครอบครัวเดียว ตัวบ้านจะถูกออกแบบมาในเรื่องการอยู่อาศัย ไม่เน้นขนาดของพื้นที่บ้านกว้าง ขวางมากนัก ไม่เน้นความหรูหรามากนัก แต่ก็อาจจะมีลูกค้างบางราย ที่มีมรดกตกทอดลงมา ก็อาจจะต้องการเครื่องประดับภาย ที่สะท้อนฐานะของตนเอง เป็นต้น

กลุ่มลูกค้าอายุที่ต่ำกว่า 30 ปีลงมา เจนใหม่เลยนั้น อยู่ระหว่างเก็บดาต้าต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจน แต่จากการสัมผัส ส่วนใหญ่ ลูกค้าจะเลือกเรา เหตุผล คือ เข้าใจงานเรา วิธีการสร้างบ้านของพีดีเฮ้าส์ เข้ามาดูงานเรา เหมือนจะเป็นตัวแทนให้กับพ่อแม่ในการช่วยคัดเลือก ช่วยตัดสินใจ คิดพื้นที่ให้กับคนในครอบครัว หรือ รองรับหากจะเป็นครอบครัวขยายมากขึ้น

ส่วนเรื่องหน้าตาหรือแบบบ้าน (หน้ากากของบ้าน) รูปแบบจะหมุนเวียนไปเรื่อยๆ จะไม่มีอะไรใหม่ล้ำไปเลย เพราะในโลกของสถาปัตยกรรม ทุกสิ่งได้เกิดขึ้นมาหมดแล้ว เพียงแต่เรานำกลับมาใช้ใหม่ ประยุกต์เพิ่มเติมในบางจังหวัด บางดีไซน์ แต่จะต่างออกไปในเรื่องของ พื้นที่ใช้สอย ความต้องการของคนในแต่ละ เจน มากกว่า

สรุป คำถามจบท้ายสัมภาษณ์  รู้สึกหนักใจหรือไม่ ที่ต้องมารับช่วงต่อ 

“การเข้ามารับไม้ต่อจากคุณพ่อ ไม่หนักใจในช่วงแรก เพราะอาจจะยังพบเจอภาวะเศรษฐกิจ ความยากในเรื่องของปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ ช่วงแรกๆไม่หนักใจ แต่ถ้าพูดถึงสถานการณ์ตอนนี้ และ ในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ก็ค่อนข้างหนักใจ แต่ยังมีคุณพ่อ (คุณสิทธิพร) และ คุณแม่ (คุณมาลี) และผู้บริหารที่ร่วมกันบุกเบิก พร้อมกับทีมงานผู้บริหารรุ่นปัจจุบัน ช่วยกันคิด แก้ปัญหา และวางแนวทาง ให้เราสามารถไปต่อได้ และอยู่ต่อได้ ในแบบยั่งยืน”.




กำลังโหลดความคิดเห็น