xs
xsm
sm
md
lg

สภาคองเกรสสหรัฐฯ ดึง เซเลอร์ - ลี เดินหน้า คลังสำรองบิทคอยน์แห่งชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กฎหมายใหม่ที่อาจเขย่าตลาดคริปโตทั้งโลกมาแล้ว! สภาคองเกรสสหรัฐฯ เรียก 18 ผู้บริหารระดับแถวหน้าของวงการคริปโต นำโดยไมเคิล เซเลอร์ และ ทอม ลี มาหารือแนวทางผลักดัน “BITCOIN Act” พร้อมหาสูตรการซื้อบิทคอยน์มูลค่ามหาศาลแบบไม่กระทบงบประมาณรัฐ

ผู้นำคริปโตร่วมโต๊ะสภา ผลักดันกฎหมายบิทคอยน์

วันอังคารนี้ สภาคองเกรสสหรัฐฯ เตรียมเปิดโต๊ะหารือกับผู้นำอุตสาหกรรมคริปโต 18 ราย โดยมีไมเคิล เซเลอร์ ประธานบริษัท MicroStrategy และ ทอม ลี ซีอีโอ Fundstrat ที่ปัจจุบันนั่งเก้าอี้ประธาน BitMine เข้าร่วมด้วย ขณะที่ เฟรด ธีล ซีอีโอของ Marathon Digital (MARA) ก็ติดโผรายชื่อสำคัญในการพูดคุยครั้งนี้

ตามข้อมูลจาก The Digital Chambers องค์กรล็อบบี้ด้านคริปโต ผู้ร่วมประชุมจะถกประเด็น “BITCOIN Act” ร่างกฎหมายที่วุฒิสมาชิกซินเธียร์ ลัมมิส เสนอเมื่อเดือนมีนาคม กำหนดให้รัฐบาลสหรัฐฯ จัดซื้อบิทคอยน์ จำนวน 1 ล้านเหรียญ ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยใช้งบจาก Fed และกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แต่ต้องทำแบบ budget-neutral ไม่ให้ภาระตกถึงผู้เสียภาษี

"Trump’s Bitcoin Reserve" จุดเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์

แผน Strategic Bitcoin Reserve ได้แรงหนุนจากคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ที่ต้องการให้สหรัฐฯ ถือครองบิทคอยน์ในระดับ “สินทรัพย์เชิงกลยุทธ์” คล้ายกับทองคำ แนวทางนี้ถูกมองว่าอาจเป็น “เกมพลิก” ทางการเงินการคลัง เพื่อยกระดับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ

กลยุทธ์ budget-neutral ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือแล้ว ได้แก่ การปรับประเมินมูลค่าใบรับรองทองคำของกระทรวงการคลัง และการใช้รายได้จากภาษีศุลกากร ซึ่งสะท้อนความพยายามของรัฐที่จะหาวิธี “ซื้อบิทคอยน์โดยไม่ต้องขอเงินภาษีเพิ่ม”

ที่มา : ไมเคิล เซเลอร์
มองทะลุการเมือง "อุปสรรคและความท้าทาย"

แม้ BITCOIN Act ถูกเสนอมาเกือบ 6 เดือน แต่ยังไม่เดินหน้าได้จริง เหตุผลหลักคือการเมืองภายในและเสียงคัดค้านจากฝ่ายที่กังวลเรื่องเสถียรภาพการเงิน การประชุมครั้งนี้จึงไม่เพียงเพื่อสร้างโมเมนตัมใหม่ แต่ยังเพื่อหาคำตอบว่า “คอขวด” ที่แท้จริงคืออะไร และจะแก้ได้อย่างไร

นอกจาก เซเลอร์ และ ลี ยังมีผู้เล่นใหญ่จากแวดวงคริปโตและ TradFi เข้าร่วม เช่น ผู้บริหารเหมืองบิทคอยน์ CleanSpark, Bitdeer และ MARA รวมถึงกองทุน VC อย่าง Off the Chain Capital และ Reserve One ขณะเดียวกัน ธนาคารสายดั้งเดิมก็ส่งตัวแทนเข้าร่วม เช่น Western Alliance Bank และ Blue Square Wealth

บิทคอยน์ กำลังจะกลายเป็น “สินทรัพย์รัฐ”?


การดึงบิทคอยน์ เข้าสู่กรอบกฎหมายระดับชาติสะท้อนทิศทางใหญ่ที่ไม่ใช่เพียงการเก็งกำไร แต่คือการจัดวางบิทคอยน์ไว้ในฐานะสินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์ของรัฐ หากสหรัฐฯ ซื้อจริงตามแผน 1 ล้านเหรียญ จะถือเป็นการ “โยกย้ายทุน” ครั้งใหญ่ที่ส่งแรงสะเทือนไปทั่วโลกการเงิน คำถามสำคัญคือ "หากสหรัฐฯ เดินหมากนี้จริง ประเทศอื่นจะนิ่งเฉยหรือไม่?" และนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ “สงครามทุนคริปโต” ระดับโลก ที่บิทคอยน์ไม่ได้เป็นแค่เงินดิจิทัล แต่กลายเป็น อาวุธทางเศรษฐกิจ ในเกมอำนาจใหม่ของศตวรรษนี้....ซึ่งเมื่อถึงจุดนั้น แนวทางการกระจายศูนย์ที่ไม่ยึดโยงกับอำนาจใด ตามเจตนารมณ์ของ ซาโตชิ อาจต้องถูกลบทิ้งไป