บล.กรุงศรี ระบุถึง ความคืบหน้าการทูลเกล้าฯรายชื่อ ครม.อนุทิน 1 คาดว่าจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ได้เร็วที่สุดคือ เย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าที่สุดวันพรุ่งนี้ 17 ก.ย. โดย โผรมว. กระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจตามกระแสข่าวก่อนหน้า อาทิ
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน.
บล.กรุงศรี มองเป็นพัฒนาการการเมืองในทางบวก โดยถัดไปตลาดจะกลับมาให้น้ำหนักการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการลดค่าใช้จ่าย ,เพิ่มกำลังซื้อ และโครงการลงทุน ฯลฯ โดยหลัก อาทิ
การบริโภค คือ หลักๆคาดมาตรการคนละครึ่ง, เติมเงินกองทุนหมู่บ้าน 1.2 หมื่นล้านบาท (0.08% ของ GDP), การให้ Soft Loan เกษตรกร , นโยบายลดค่าครองชีพ ลดค่าไฟฟ้า ฯลฯ มองหนุนหุ้นอิงกำลังซื้อฐานราก บวกต่อกลุ่มค้าปลีก กลุ่มเครื่องดื่ม และกลุ่มการเงิน
ท่องเที่ยว มาตรการคล้าย เราเที่ยวด้วยกัน คาดจะบวกต่อภาคการท่องเที่ยวในประเทศ ทั้งสนามบิน สายการบิน และโรงแรมในประเทศ
โครงการลงทุนขนาดใหญ่ คาดจะผลักดันอาทิ โครกงาร Land bridge ฯลฯ มองบวกต่อ อุตสากรรมรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มนิคม
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน คงมุมมองบวกต่อ SET Index ประเมินแนวต้าน 1,316/1,330 จุด แนวรับ 1,300/1,295 เน้นหุ้นกลุ่มอิงบริโภคภายใน หลักๆคือ เน้นกลุ่มค้าปลีก CPALL, BJC, CPAXT กลุ่มการเงิน MTC, KTC กลุ่มรับเหมา CK, STECON, ITD นิคม AMATA, WHA ท่องเที่ยว ERW, CENTEL
ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า จากการติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐ เราพบว่าการเบิกจ่ายงบลงทุนเริ่มเร่งตัวขึ้น โดยเดือน ก.ย. (1-12 ก.ย.) เบิกจ่ายงบลงทุนได้ 6.7 หมื่นลบ. (เหลือให้เบิกจ่ายได้อีก 3.8 แสนลบ.) เทียบกับทั้งเดือน ส.ค. ที่เบิกจ่ายเพียง 4.8 หมื่นลบ. และเดือน ก.ค. ที่เบิกจ่ายไป 6.4 หมื่นลบ. เนื่องจากเป็นช่วงสุญญากาศทางการเมือง
เพราะฉะนั้น หลังจากรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารอย่างเป็นทางการ เราคาดว่าจะเห็นการเบิกจ่ายงบลงทุนที่เร่งตัวขึ้นอีก ถือเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มที่เชื่อมโยงงานภาครัฐฯ เช่น STECON, CK, BEM, TASCO, SKY, DITTO, BBIK เป็นต้น