ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่การจับผู้ร่วมชบวนการปั่นหุ้น บริษัท ฟิลเลอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC โดยตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางหรือ CIB จับกุมตัวนายอนุพนธ์ ศรีอาจ หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการปั่นหุ้น ซึ่งหนีหมายจับ และคดีกำลังจะหมดอายุความในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า
ตามรายงานของ CIB ยังมีผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหนีหมายจับอีกหลายคน โดยสื่อบางสำนักรายงานว่า มีจำนวน 3 คน ซึ่งในอีก 2 เดือน ถ้าตำรวจควบคุมตัวมาดำเนินไม่ได้ คดีจะหมดอายุความ
แก๊งปั่นหุ้น FVC ที่เหลือจะลอยนวล โดยเฉพาะโดยเฉพาะ อินฟลูเอนเซอร์นักลงทุนชื่อดัง ในรายการลงทุนธุรกิจ ผู้มีชื่อเสียงจากบทบาททั้งในฐานะนักลงทุนอิสระและนักธุรกิจ ซึ่งเป็นหัวโจกในการกำหนดกลยุทธ์และชักชวนผู้ต้องหารายอื่น ๆ เข้าร่วมขบวนการ
เหตุการณ์ CIB ตามตะครุบตัวแก๊งปั่นหุ้น ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก คดีหุ้น FVC เป็นคดีแรก และอาจเป็นบรรทัดฐานในการปราบอาชญากรในตลาดหุ้น
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อาจพิจารณาทบทวนการกล่าวโทษคดีความผิดร้ายแรงตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ฯ กันใหม่ และหันมาใช้บริการ CIB มากขึ้น
เพราะการกล่าวโทษกับกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI คดีมักเงียบหาย นับสิบ ๆ คดีถูกตัดตอนอย่างเงียบ ๆ โดยการสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งสาธารณชนมักไม่ได้รับรู้ถึงการตัดตอนคดีปั่นหุ้น
รวมทั้งการตัดตอนในชั้นอัยการ ด้วยการดุลยพินิจสั่งไม่ฟ้อง ล่าสุดคือคดี อดีตกรรมการบริษัท โพลาริส แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR และพวกรวม 11 คน ในคดีร่วมกันสร้างหนี้เทียม 3.6 พันล้านบาท
คดีปั่นหุ้น FVC ก.ล.ต.ร้องทุกข์กล่าวโทษกับกองบังคับการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจหรือ บก.ปอศ. เมื่อต้นเดือนมกราคมปี 2567 โดยกล่าวโทษผู้ร่วมขบวนการรวม 13 คน ประกอบด้วย นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย บริษัท นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ปัจจุบันชื่อบริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NPP)
นางสาวทิพรัตน์ สาครสุขศรีฤกษ์ นางสาวรินนภา คุณะวัฒน์สถิตย์ นายวัฒนา สวัสดิ์ทอง นายดนุช บุนนาค นายประพล มิลินทจินดา นางกิ่งกาญจน์ สมิตานนท์
บริษัท พี-แซท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (P-SAT) นายอนุพนธ์ ศรีอาจ นายกิจจพัฒน์ อิทธิฤทธานนท์ นางอนัญญา เรืองศักดิ์วิชิต นายนัฐพล เฉลิมพจน์
แก๊งปั่นหุ้น FVC13 คน มีนักปั่นหุ้นมืออาชีพรวมอยู่หลายคน โดยถูกกล่าวโทษในความผิดปั่นหุ้นหลายคดี เช่นนายสุรพงษ์ ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ทันหุ้น นายประพล อดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ AEC ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD และนายดนุช ซึ่งติดอยู่ใน 11 คนที่ ก.ล.ต.กล่าวโทษในความผิดร่วมสร้างหนี้เทียม POLAR จำนวน 3.6 พันล้านบาท
ถ้ารายงานของ CIB เป็นจริง มีผู้ต้องการปั่นหุ้น FVC ที่หนีหมายจับอยู่อีก 3 คน แสดงว่า มีผู้ที่ถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษ ถูกตัดตอนออกไปแล้ว 9 คน ซึ่งน่าจะคาดเดาได้ว่า นักปั่นระดับที่มีชื่อเสียง มีฐานะทางการเงินดี โกยเงินจากการปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มาแล้วมากมาย รอดตัวไปอีก
ส่วนผู้ต้องหาที่กำลังหนีหมายจับ ซึ่งตามรายงานว่า เหลืออยู่อีก 3 คนนั้น ไม่เข้าใจว่า ทำไม CIB ไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อให้สาธารณชนรับทราบ เพื่อร่วมกันแจ้งเบาะแสของผู้ต้องหาที่เหลือ เพราะคดีใกล้หมดอายุความเต็มทีแล้ว
แก๊งปั่นหุ้น FVC ที่อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับอีก 3 คน CIB ควรออกประกาศจับ แจ้งชื่อ เผยแพร่รูปพรรณสัณฐานให้ประชาชนรับรู้ จะได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาตำรวจอีกแรง ถ้าเห็นกบดานอยู่ที่ไหน จะได้แจ้งเบาะแสให้ CIB ตามไปรวบตัว ชดใช้ความผิดที่ก่อไว้ เพื่อสอบสวนขยายผลถึงผู้ถูกกล่าวโทษอีก 9 คนที่ดูเหมือนถูกตัดตอนไปแล้ว
คดีปั่นหุ้น เป็นอาชญากรรมร้ายแรง สร้างความเสียหายให้ประชาชนจำนวนมาก ซึ่งผู้ร่วมขบวนการปั่นหุ้นไม่ควรหลุดรอดลอยนวลเหมือนที่ผ่านมา
CIB สอบสวนจนมีหลักฐานชัด ในคดีปั่นหุ้น FVC จนขอออกหมายจับแก๊งปั่นได้ เมื่อผู้ต้องหาหลบหนี ทำไมไม่ออกประกาศจับ ขอดวามร่วมมือประชาชนเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแส
ถ้า CIB ออกประกาศจับ ดูซิว่า แก๊งปั่นหุ้น FVC จะหลบไปซุกหัวอยู่ที่ไหนได้ ทำร้ายประชาชนผู้ลงทุนแล้ว ไม่ควรอยู่อย่างเสวยสุข
แม้วันนี้ จะมีนักปั่นหุ้นนับสิบนับร้อยคน เสวยสุขบนความทุกข์ของนักลงทุนรายย่อย ๆ อยู่ก็ตาม